Charles Lamanna ผู้บริหารฝ่าย Power Platform สำหรับการพัฒนาแอพแบบ no-code และ low-code ของไมโครซอฟท์ (เช่น Power BI, Power App, Power Automate) ให้สัมภาษณ์กับ Protocol เปิดเผยว่าตอนนี้ Power Platform มีผู้ใช้งานแล้ว 7 ล้านคนต่อเดือน ทำรายได้เกิน 2 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 12 เดือนล่าสุด คิดเป็นอัตราเติบโตของรายได้ 72% ต่อปี
Lamanna บอกว่าภายในไมโครซอฟท์เอง แยกการพัฒนาแอพหรือโซลูชันภายในองค์กรเป็น 3 ระดับคือ no-code สำหรับผู้ใช้จากฝั่งธุรกิจ, low-code สำหรับคนทำงานสายไอที (IT professionals ที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์แต่มีความรู้เทคนิค) และ pro-code สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์มืออาชีพ ปัจจุบันโลกธุรกิจมีความต้องการสร้างโซลูชันใช้ในองค์กรเยอะมาก ไม่มีทางที่โปรแกรมเมอร์อาชีพจะตอบสนองได้หมด ทางออกจึงเป็นการสร้างแอพง่ายๆ แบบ no-code หรือ low-code แทน เพื่อให้มีแอพใช้งาน
เขายกตัวอย่างว่า Excel คือเครื่องมือ low-code ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง คนจำนวนมากทำสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่างด้วย Excel เพียงโปรแกรมเดียว
ภาพจาก Microsoft
ขั้นถัดมา เมื่อกลุ่ม no-code และ low-code สร้างแอพได้เป็นจำนวนมากแล้ว จะเกิดปัญหาเรื่องการค้นพบว่ามีแอพตัวนั้นอยู่หรือไม่ ตรงนี้การเชื่อมต่อกับ Microsoft Teams ที่เป็นแอพสื่อสารในองค์กรจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ตัวอย่างคือไมโครซอฟท์ทำให้โซลูชัน Power สามารถฝังในหน้าแชทของ Teams ได้เลย ทำให้เพื่อนร่วมงานสามารถส่งโซลูชันให้กันได้โดยตรงจากหน้าแชททันที
นอกจากนี้ Power Platform ยังเชื่อมต่อกับ Microsoft Office และ Microsoft Dynamics 365 อย่างแนบแน่น เรียกได้ว่าถ้ารู้จัก Office ใช้สูตร Excel เป็น ก็จะสามารถใช้ Power Platform ได้ไม่ยาก เพราะทีมงานทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันเพื่อให้ต่อยอดความรู้เดิมของผู้ใช้ให้มากที่สุด
ที่มา - Protocol