Sanas เป็นสตาร์ทอัพจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่พัฒนาเทคโนโลยีการเปลี่ยนเสียงคนพูดภาษาอังกฤษให้มีสำเนียงที่ชัดเจนเหมือนชาติเจ้าของภาษาได้แบบเรียลไทม์ มันถูกพัฒนามาเพื่อเน้นการใช้งานสำหรับเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์เป็นหลัก
อย่างไรก็ตามมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าแนวคิดของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้เป็นการเลือกปฏิบัติด้วยแนวคิดเหยียดสำเนียงภาษาอังกฤษของคนต่างเชื้อชาติ เพราะสิ่งที่มันทำเหมือนกับการพยายามเปลี่ยนเสียงพูดของทุกคนให้เป็นเสียงของคนอเมริกันผิวขาว
ในหน้าเว็บไซต์ของ Sanas มีการสาธิตเทคโนโลยีเปลี่ยนสำเนียงที่บริษัทพัฒนาขึ้น หากลองเข้าไปกดฟังเสียงพูด (โดยการกดปุ่ม Play ด้านล่างซ้ายของจอ) แล้วลองเปรียบเทียบเสียงก่อนและหลังเปิดใช้ระบบเปลี่ยนสำเนียงของ Sanas (ทำโดยการคลิก toggle switch บริเวณขวาล่างของหน้าจอ) จะพบความแตกต่างของสำเนียงการพูดอย่างชัดเจน จากสำเนียงพูดภาษาอังกฤษแบบเอเชียใต้เปลี่ยนมาเป็นสำเนียงแบบฝรั่งเจ้าของภาษา
หน้าจอสาธิตตัวอย่างเสียงพูดเปรียบเทียบระหว่างการใช้และไม่ใช่เทคโนโลยีเปลี่ยนสำเนียงของ Sanas
อย่างไรก็ตาม Sharath Keshava Narayana หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Sanas ยืนยันว่าเจตนารมณ์ของบริษัทไม่ได้มาจากแนวคิดการเหยียดเชื้อชาติอย่างแน่นอน โดยอธิบายข้อมูลสนับสนุนว่าผู้ร่วมก่อตั้งบริษัททั้ง 4 คนล้วนแล้วแต่เป็นผู้อพยพมาจากต่างชาติ รวมถึงพนักงานอีก 90% ของบริษัทก็เช่นเดียวกัน
Narayana บอกว่าที่มาของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เพื่อส่งเสริมการเลือกปฏิบัติต่อคนแบบแบ่งแยกเชื้อชาติหรือภาษาพูด กลับกันมันมีที่มาเพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติต่างหาก โดยเขาเล่าว่าหนึ่งในเพื่อนสนิทของผู้ร่วมก่อตั้งเคยทำงานเสริมเป็นเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์และโดนไล่ออกด้วยเหตุผลว่าสำเนียงการพูดไม่ดี ในขณะที่ตัว Narayana เองซึ่งก็เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าทีคอลเซ็นเตอร์เช่นกันก็บอกว่าเรื่องการโดนเหยียดเพราะสำเนียงพูดมีอยู่จริงในการทำงานแบบนี้ และเทคโนโลยีของ Sanas มีขึ้นเพื่อช่วยไม่ให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อการล้อเลียนหรือเลือกปฏิบัติเพราะสำเนียงพูดที่แตกต่างจากชาติเจ้าของภาษา
การล้อเลียนหรือดูถูกสำเนียงพูดนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการกระทำจากคู่สนทนาของเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ หรืออีกนัยหนึ่งคือลูกค้าของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งในสถานการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์อาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถตอบโต้หรือรับมือกับเหตุการณ์ได้ง่ายนัก
Sanas เพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและได้รับเงินทุนสนับสนุน 32 ล้านเหรียญ โดยบริษัทบอกว่าที่ผ่านมายังมีการทดสอบเทคโนโลยีเป็นการภายในโดยใช้ในการสนทนาจริงระหว่างทีมงานในเกาหลีกับทีมในสหรัฐฯ รวมทั้งการสื่อสารกับทีมในอินเดียตอนเหนือและอินเดียตอนใต้
Sanas ระบุว่าตอนนี้มีผู้คนที่ใช้งานเทคโนโลยีของพวกเขาในการทำงานจริงราว 1,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในฟิลิปปินส์และอินเดีย พร้อมทั้งบอกว่า Sanas ได้รับเสียงตอบรับที่ดี โดยบริษัทลูกค้าที่เลือกใช้งานเทคโนโลยีเจอปัญหาเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ลาออกลดน้อยลง
ที่มา - BBC
Comments
ราว 1,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในฟิลิปปินส์และอินเดียว
อินเดีย
กันคนเหยียดเรื่องผมด้วยการสวมวิกให้เหมือนกันให้หมด กันเรื่องนู่นนี่ด้วยการให้ปิดบังใบหน้า เสื้อแขนยาว รองเท้าคลุมหมด กันสำเนียงด้วยการใช้แอปปิดทับอีกที
เคยมาฟังอังกฤษสำเนียงพม่า-แขกอินเดีย แล้วเหนื่อยจนไม่มั่นใจว่าศัพท์ที่ได้ยินมันใช่ไอ้นั่นไหมนะ
ไอ้พวกที่ว่าเหยียดนี่สมองคิดเป็นแต่เรื่องเหยียดหรือไง
ดีครับเพราะ อินเดียฟังยากมาก
แก๊ง call center ที่อินเดียรีบหามาใช้เลย