KMGA (Korea Mobile Game Association) สมาคมนักพัฒนาเกมมือถือของเกาหลีใต้ได้ร้องเรียนต่อ FTC เมื่อเดือนก่อน ให้ช่วยตรวจสอบ Apple ในประเด็นการหักเงินส่วนแบ่งการขายแอปและไอเทมอื่นๆ ใน App Store เกินจากที่กำหนดไว้
ข้อกำหนดของ Apple นั้นระบุว่านักพัฒนาต้องแบ่งรายได้จากการขายแอปและไอเทม 30% ให้ทาง Apple แต่ Hwang Sung-ick ประธาน KMGA ระบุว่าความจริงแล้ว Apple เก็บเงินส่วนแบ่งจากพวกเขาในสัดส่วน 33% ซึ่งเกินกว่าที่กำหนดไว้ในข้อตกลง สาเหตุเป็นเพราะ Apple นำเอาราคาขายหลังบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% มาเป็นฐานในการคำนวณส่วนแบ่ง
Hwang อธิบายว่าการขายแอปและไอเทมนั้นจะมีการบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% เพิ่มไปจากราคาที่ตั้งไว้เดิม ทำให้ผู้ใช้ต้องจ่ายเงิน 110% ของราคาดั้งเดิมของแอปและไอเทมนั้น ยกตัวอย่างเช่น หากตั้งราคาแอปไว้ที่ 1,000 วอน ผู้ที่ซื้อแอปจะต้องจ่ายเงินจริงเป็นจำนวน 1,100 วอน ซึ่งในกรณีนี้นักพัฒนาคิดว่าส่วนแบ่งที่ต้องจ่ายให้ Apple ควรอยู่ที่ 300 วอนเท่านั้น (30% ของราคาแอปก่อนบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ในความเป็นจริงพวกเขาจะถูก Apple หักเงินไป 330 วอน
Hwang ระบุว่าส่วนต่างของเงินที่เป็นประเด็นขัดแย้งนี้อิงจากมูลค่าเงินที่มีการซื้อแอปและไอเทมผ่าน App Store ในช่วงปี 2015 ถึงปี 2020 มีมูลค่าสูงถึง 345 พันล้านวอน (ประมาณ 9.3 พันล้านบาท)
นักกฎหมายรายหนึ่งให้ความเห็นต่อ Korea JoongAng Daily ว่าถึงแม้เนื้อความที่ Apple ระบุในเงื่อนไขการใช้งานแพลตฟอร์มนั้นยากต่อการตีความในทางกฎหมาย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ Play Store ของ Google ซึ่งหักส่วนแบ่งโดยคิดจากยอดเงินที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็อาจทำให้ประเด็นนี้มีน้ำหนักพอที่จะโน้มน้าวให้ FTC รับเรื่องเพื่อตรวจสอบ
ที่มา - Korea JoongAng Daily
Comments
เกาหลีเค้าคิดภาษีมูลค่าเพิ่มไหมไทยไหมนะ
ถ้าเหมือนก็น่าจะถูกแล้ว
ลูกค้าจ่าย 1000 + vat 100
Apple คิด 330 และถ้า apple ออกบิลมา 300 + vat 30
บริษัทก็เอา vat ขาย (100) - vat ซื้อ (30) ก็ต้องยื่นจ่ายรัฐไป 70
สรุปบริษัทรับมา 1100 - apple 330 - vat ยื่นรัฐ 70 ก็ได้ 700 เท่ากัน ส่วน apple ก็เอา vat 30 ที่คิดมาจากบริษัทไปยื่นรัฐอีกที
ผมคิดว่าเงินที่ผู้พัฒนาได้คือคำตอบว่า apple หักยังไง
เกรงว่าจะเป็นรวมภาษีด้วยแล้วหัก30% สินค้า1000 ยอดเข้า apple คือ 1100 หักไป30% เท่ากับได้ไป 330 แล้วแบ่งให้ผู้พัฒนา 770 ทีนี้ผู้พัฒนาต้องเสียภาษีจากยอดขาย1000 คือเสีย100 เมื่อหักรายได้ที่ได้รับมา เท่ากับเหลือ 670
ไม่อย่างนั้นมันหาตัวเลข 33% ไม่เจอถ้าอิงตามข่าว
เวลารับเงินจาก App Store, play store เราลงบัญชีตามส่วนแบ่งยอดขายที่ได้ครับ เช่นได้มา 770 ต่อยอด ก็รับรู้รายได้และจ่าย vat เท่านั้น ไม่ได้รับรู้ 1,100
ซึ่งเคสนี้ถ้ารับมา 770 ก็ต่องเสียแวท 70 ซึ่งเหมือนจะถูกแล้ว
แต่ราคาขายมันไม่ได้ตั้ง 1,100 ไง มันตั้ง 1,000 ทำให้เราได้เงินส่วนแบ่งน่อยลงจากกำลังซื้อที่คงที่ของลูกค้า (โดยเฉพาะบางบริษัทที่ไม่ต้องเสียแวท)
เกาหลีเป็น Sales Tax หรือ VAT ครับ ? สองตัวนี้มันต่างกันนิดไหนตรงที่ ถ้าเป็น Sales Tax ราคาตั้งจะเป็นราคาก่อนภาษี ส่วน VAT ราคาตั้งคือราคารวมภาษีแล้ว
อืม ไม่ใช่นะครับ Sales Tax คือ ผู้บริโภคคนสุดท้ายเป็นคนจ่ายคนเดียว ส่วน Vat คือ จ่ายทุกครั้งที่มีการซื้อขายครับ (จ่ายตั้งแต่ต้นทาง เช่นซื้อวัตถุดิบไปจนถึงผลิตเป็นของสำเร็จแล้วขายถือมือผู้บริโภค) ส่วนจะรวมหรือไม่รวมในราคา แล้วแต่คนตั้งราคาเลยครับ ราคาบางที่รวม Sales Tax แล้วก็มี หรือบางที่ราคาไม่รวม Vat ก็มีครับที่เห็นบ่อย ๆ ก็ตามร้านอาหาร ราคาไม่รวม Vat, Service
ส่วนเกาหลีใต้ก็มีทั้งสองแบบครับ ทั้ง Sales Tax และ Vat
นอกเรื่องนิดนึง ถ้ามองในมุมของรัฐบาลเกาหลีใต้ แทนที่จะได้ 100 ดันได้แค่ 70 อีก 30 แอปเปิ้ลเอาไปจ่ายรัฐบาลไหนก็ไม่รู้ที่บริษัทตั้งอยู่ (เว้นแต่ว่าแอปเปิ้ลจะจดตั้งที่เกาหลีใต้ รัฐก็จะได้ 100 เท่าเดิม)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คิดแบบนี้ถูกครับ
แต่ปัญหาคือตกลงกับ Apple ไว้ว่า จะหัก 30% ไม่ใช่ 33%
ถ้าเป็นใน EU นี้ Apple โดนฟ้องกระจายและแพ้แน่นอน
แล้วไม่ได้คุยให้ขาดก่อนขึ้นขายเหรอ
ผมว่า apple หักเยอะไปจริงๆ นะ น่าจะมี rate แบบถ้าขายได้เยอะๆ ก็ลดให้เหลือ 25% 20% 15% ไรงี้ด้วยน่าจะแฟร์กว่า
📸
Apple มี Rate 15% สำหรับ Small Business (<1m$)
แล้วที่ประเทศไทยเริ่มพึ่งเก็บ VAT บน e-service ด้วยนี่ก็โดนเหมือนกันสิ
เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม มันก็เป็นไปตามข้อตกลงของสัญญา
ในสัญญา ก็ย่อมระบุให้ใครจ่ายภาษี (ให้รัฐบาลเกาหลีใต้)
ถ้าหักไม่เป็นไปตามสัญญา เขาไม่ทำหรอก
สมมติถ้า Apple ชนะ Google จะหันมาหักส่วนแบ่งแบบ Apple รึเปล่า
ก็แบ่งถูกแล้วนี่ เขาคิดส่วนแบ่งจากยอดขาย