บริษัทวิจัยคริปโต Dune Analytics ออกรายงานมูลค่าการซื้อขาย NFT ในปี 2021 และ 2022 แยกเป็นรายเดือน โดยใช้สถิติจากเว็บไซต์สาย NFT หลายแห่งมารวมกัน
จุดพีคของวงการ NFT อยู่ที่เดือนมกราคม 2022 มูลค่าการซื้อขาย 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ส่วนมูลค่าของเดือนกันยายน 2022 อยู่ที่ 466 ล้านดอลลาร์เท่านั้น มูลค่าหายไปถึง 97% เลยทีเดียว
ตัวเลขนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะก่อนหน้านี้มีสถิติจากอีกบริษัทคือ DappRadar ที่วิเคราะห์มูลค่าตลาดของ OpenSea ก็ให้ตัวเลขใกล้เคียงกันว่าลดลงถึง 99%
Dune Analytics วิเคราะห์ว่าขาลงของตลาด NFT มีผลจากภาวะตลาดคริปโตขาลงที่เป็นเทรนด์ใหญ่กว่าด้วย
ที่มา - Bloomberg
Comments
หลุมยังเพิ่ลล
เคยไปอ่านมาว่า รูป NFT ที่เราซื้อ ลิขสิทธิ์รูปเราก็ไม่ได้นะ ยังคงเป็นลิขสิทธิ์ของผู้วาดอยู่ สรุปซื้ออากาศหรอ
ก็เหมือนภาพวาด ภาพถ่าย และสื่อศิลปะประเภทอื่น ๆ ครับ ถ้าไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแนบมาด้วย เราก็ได้มาแค่ตัวงานครับ ส่วนลิขสิทธิ์ยังเป็นของคนวาด
ใช่แล้วครับ สมมุติบริษัท A จะทำแก้วลาย NFT ที่เราถืออยู่
บริษัท A ต้องขออนุญาตคนวาดอยู่ดีครับ ไม่ต้องขออะไรเราเลย
เสริมอีกนิด และถึงแม้ว่าเราจะอยากทำแก้วลาย NFT ที่เราถืออยู่ ถ้าไม่ขอคนวาด เราก็ทำไม่ได้นะครับ
คิดในใจ “สรุป…แล้วกรูจะซื้อมาทำไม?” 555
ผมยังยืนยันคำพูดเดิมครับว่า Perfect NFT = Nintendo Amiibo แต่ดันไม่มีใครทำตาม
นินจดทรัพย์สินทางปัญญาไว้ แล้วอย่างที่รู้ๆในวงการเกมนินน่าจะดุสุดแล้ว
ผมมองเป็นการซื้อของที่ระลึกครับ 55+
อารมณ์แบบเราไปเดินพิพิธภัณฑ์เห็นรูปสวยถูกใจ แวะเข้าร้านขายของที่ระลึก ซื้อรูปก๊อปปี้ (ที่มีป้ายแปะไว้ว่า Limited Edition) กลับมา มีกรอบสวยๆว่านี่คือ Official Goods นะ แถมมี Serial Number ด้วย แน่นอนว่าเอาไปอวดคนอื่นได้อย่างเดียว ไม่มีสิทธิใดๆในรูปต้นฉบับทั้งนั้นแหละ
จากนั้นแค่เปลี่ยนประโยคข้างต้นเป็นดิจิตอลแค่นั้นเอง
เหมือนซื้อpostcard ภาพprint ที่ระลึกมากกว่า คือเราซื้อgoods ที่เป็นของlimited ชิ้นเดียวในช่วงเวลานั้นๆ ส่วนใหญ่คนขายจะบอกว่าไม่ทำNFTภาพชิ้นเดียวกันเพิ่ม แต่ก็ไม่ใช่สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ของที่ได้ได้เป็นdigital goods เหมือนซื้อitem แบบlimited editionในเกมพวกนั้น แต่เจ้าของภาพเขาก็ไปทำของอย่างอื่นขายได้หรือแม้แต่ลงขายซ้ำก็ยังได้
แต่ที่เป็นประเด็น เพราะการโฆษณาการขายส่วนใหญ่ชี้นำให้คิดไปว่า เหมือนซื้อลิขสิทธิ์ภาพซะมากกว่าแถมด้วยการปั่นและเก็งกำไรมูลค่าการซื้อขายที่แพงมากๆ จนแพงกว่าการซื้อลิขสิทธิ์จริงๆด้วยซ้ำ จนทำให้เกิดการเข้าใจผิดๆทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก เช่นบางคนเอารูปNFTที่ซื้อมา ไปpostเป็นรูปprofile หรือทำเสื้อทำแก้วขายก็มี ซึ่งจริงๆน่าจะผิดลิขสิทธิ์ด้วยซ้ำ(ที่เคยได้ยิน ไม่ได้มีการขอหรือติดต่อเจ้าของภาพอีกครั้งนะ)
เหมือนซื้อรถ รถคันนั้นเป็นของเรา แต่เราไม่ใช่เจ้าของโมเดลรถ ผู้ผลิตผู้ขายเขายังขายรถรุ่นเดียวกันให้คนอื่นได้อีกมาก แต่รถเหล่านั้นไม่ใช่คันเดียวกับที่ขายให้เรา
หรือถ้าเราซื้อกระเป๋าลายการ์ตูน กระเป๋าใบนั้นเป็นของเรา คนอื่นก็ซื้อกระเป๋าลายเดียวกับเราได้ แต่ก็ไม่ใช่ใบเดียวกัน เวลาเราเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเราสามารถเปิดกระเป๋าใบเดิมหยิบของออกมาได้ แต่คนอื่นที่ใช้กระเป๋ารุ่นเดียวกันเปิดกระเป๋าของเขาจะไม่สามารถหยิบของที่อยู่ในกระเป๋าของเราออกจากกระเป๋าของเขาได้ กระเป๋าแต่ละใบมีความแตกต่างซึ่งอาจไม่ได้ต่างกันที่รูปลักษณ์ภายนอกหรือโครงสร้างภายในที่เกิดจากกระบวนการผลิต แต่มีความแตกต่างในการเชื่อมโยงกับสิ่งอื่นในโลกและสิ่งที่บรรจุอยู่ภายใน