สื่อต่างประเทศหลายสำนักเริ่มเผยแพร่ผลการทดสอบ GeForce RTX 4090 สถาปัตยกรรมใหม่ Ada Lovelace ซึ่งเป็นการ์ดจอที่แรงที่สุดในขณะนี้
ถ้าดูจากสเปกอย่างเดียว RTX 4090 เทียบกับตัวแรงที่สุดของเจนที่แล้วคือ RTX 3090/3090 Ti สิ่งที่เห็นชัดคือ 4090 อัดสเปกมาเยอะกว่ามาก มีจำนวนคอร์รวมมากกว่า 52%, คล็อคจีพียูมากกว่า 35%, แคช L2 เพิ่ม 12 เท่า โดยรวมแล้วสเปกบนกระดาษเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 3090
ผลการทดสอบด้านเกมมิ่งก็ออกมาทิ้งขาด โดยการเล่นเกมที่ความละเอียด 4K เปิดทุกอย่างสุด ได้เฟรมเรตเฉลี่ยดีขึ้นถึง 55% เทียบกับ 3090 Ti และ 71% เทียบกับ 3090 ถ้าดูรายละเอียดเป็นรายเกม เกมที่ได้เฟรมเรตเพิ่มขึ้นสูงสุดคือ Total War: Warhammer 3 เพิ่มถึง 112% ส่วนเกมที่ได้เฟรมเรตเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดคือ Flight Simulator เพิ่ม 11% จากคอขวดที่ซีพียู
แสนยานุภาพของ 4090 จะแสดงออกเต็มที่ในคุณภาพระดับ 4K หากตั้งความละเอียดลดลงมาเป็น 1440p และ 1080p ความแตกต่างของเฟรมเรตก็จะลดหลั่นลงมาคือ 28% และ 16% ตามลำดับ เทียบกับ 3090 Ti (แปลว่าซื้อมาเล่นเกม 1080p ก็ไม่คุ้ม)
ฟีเจอร์เด่นของ 4090 คือ DLSS 3 ที่พัฒนาขึ้นจาก DLSS 2 เดิม โดยเพิ่มการสร้างเฟรมภาพทั้งเฟรมขึ้นมา (Frame Generation) จากข้อมูลของเฟรมก่อนหน้าและเฟรมถัดไป ตัวเลขของ NVIDIA เองบอกว่าประสิทธิภาพควรดีขึน 2-4 เท่าขึ้นกับแต่ละเกม
ตอนนี้ยังมีเกมที่รองรับ DLSS 3 ไม่เยอะนัก ที่เด่นๆ คือ Cyberpunk 2077, F1 22, Dying Light 2, A Plague Tale: Requiem ผลการทดสอบก็พบว่าทำได้จริงตามคำโฆษณา เช่น Cyberpunk เพิ่ม 3.6x, F1 2022 เพิ่มขึ้น 2.4x เป็นต้น การสร้างเฟรมเพิ่มของ DLSS 3 ย่อมมีผลให้ค่า latency ของเกมสูงขึ้น แต่ NVIDIA บังคับให้เกมเหล่านี้ต้องรองรับ NVIDIA Reflex อยู่แล้ว ทำให้ค่า latency ต่ำเป็นทุนเดิม และเพิ่ม latency จาก DLSS 3 มาอีกไม่เยอะนัก
ประเด็นเรื่องพลังงาน แม้ 4090 แรงขึ้นจากเดิมมาก แต่ยังใช้พลังงานระดับเท่าๆ กับ 3090 Ti (ราว 430-440 วัตต์) ส่วนอุณหภูมิอยู่ในระดับใกล้กับการ์ดตัวรองอย่าง 3080 ถือว่ามีอัตราประสิทธิภาพต่อพลังงานที่ดีขึ้นจากเดิม แม้ตัวเลขการใช้ไฟรวมยังอยู่ในระดับที่เยอะที่สุดในบรรดาการ์ดจอทั้งหมด
ภาพรวมของ 4090 จึงออกมาแบบที่ NVIDIA พูดไว้ตอนเปิดตัวคือ แรงขึ้นมาก สมกับราคาที่แพงขึ้นเป็น 1,599 ดอลลาร์ มันอาจไม่ใช่การ์ดที่เหมาะสำหรับทุกคน แต่ถ้าเงินถึงก็ได้ความแรงคุ้มค่ากลับไปแน่นอน
ที่มา - Tom's Hardware, IGN
Comments
GN ลอง Overclock ขึ้นไป 30% ผลคือกินไฟ 666.66W
เลขสวย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ต้องสังเวยวิญญาณก่อน OC แล้ว
เจอบางที่ติเรื่อง display port นะ ซึ่งถ้าคนที่เจอคอขวดตรงนั้นจริงคงโมโหน่าดูอะ
ยังไงเหรอครับ?
ทำนองว่า การ์ดสามารถดันเฟรมไปได้ไกลกว่าลิมิตของ dp1.4@4k ครับ แต่ nvidia กลับไม่ยอมให้ dp2.0 มา
อ้าว กรรม รุ่นท็อปยังได้พอร์ตไม่สุดอีก T-T ขอบคุณครับ
https://www.youtube.com/watch?v=THxkY59_xko&ab_channel=LinusTechTips
ผมแนะนำดูคลิปนี้ครับ จริงๆ NVDIA รู้อยู่แล้วครับว่า Limit ของ 1.4 ปัจจุบันมันเพียงพอแล้ว
โดย 1.4 รับ 4K ที่ 144 Hertz และรองรับ 8K 60fps เท่ากับ 2.0
ซึ่งปัจจุบัน จอ4k ที่มากกว่า 144 hertz หายากมากๆ ถ้าทยอยดูหลายๆช่องเรื่อง เวอร์ชั่นของ display port กับ PCI-E GEN 4 ไม่ใช่ประเด็นเลย
ใน Tom's Hardware ก็เขียนไว้ชัดครับ
แม้ไม่มีในตลาดตอนนี้ แต่รุ่นใหม่ก็ควรจะใส่มาให้ future proof สักหน่อยนะ
ผู้ผลิตการ์ดจอ: ก็มันไม่มีจอที่รองรับ DP2.0 ในตลาดเลยอะ
ผู้ผลิตจอ: ก็มันไม่มีการ์ดจอที่รองรับ DP2.0 วางขายเลยอะ
ผู้บริโภค: มองบน
ใช่เลยครับ เหตุผลมันเหมือนจะฟังขึ้น แต่มองกันจริง ๆ แล้วมันฟังไม่ขึ้นเลย ไม่ใช่ทุกคนที่จะตั้งตารอเปลี่ยนทุกปี
+1 ผมคิดว่าเค้ากั๊กเพราะอนาคตถ้า DP2.0 เริ่มแพร่หลายแล้วจอส่วนใหญ่รองรับแล้ว และมีจอที่แสดงผล 4K 240hz เยอะ ๆ
ถึงตอนนั้น แม้ว่า 4090 จะรัน 4K 240hz ได้ แต่ก็ต้องซื้อการ์ดจอใหม่อยู่ดี แม้ว่า 4090 มันจะยังเล่นได้ก็เถอะ
เหมือนตอนนี้ที่ผมมี GTX650 นอนกองอยู่ ผมแค่อยากได้ภาพออกจอ 4K 60HZ แต่ก็ต้องซื้อการ์ดจอใหม่ที่รองรับ HDMI 2.0 เอาจริง ๆ มันก็ไม่แพงแหละตอนนี้นะ แต่ผมแค่อยากได้มาแสดงผลเฉย ๆ จริง ๆ ไม่ได้เอามาเล่นอะไรเลย
Intel รองรับแล้ว ส่วน AMD กำลังจะมาใน RDNA3
ถ้าจำไม่ผิด Nvidia รองรับตรงนี้ช้ากว่าชาวบ้านอยู่เรื่อย เดาว่าอาจจะเพรา product development ยาวกว่าค่ายอื่น?
ผมว่ายังสามารถเอาตรงนี้มาเพื่อ edition ขายได้อีกด้วย PCIe 5.0 + DP 2.0
ผมเข้าใจว่า display controller อยู่บน GPU ถ้าจะเปลี่ยนไปรองรับ DP ใหม่ ก็ต้องแก้ดีไซน์ชิป?
แรงตามราคาเลย สำหรับใครที่คิดว่ามันเหลือไปสำหรับเกมสมัยนี้ นี่รอเล่น starfield 4k+mods มีเท่าไรก็คงไม่พอ