Gazali Ahmad ชายสิงคโปร์ได้เปลี่ยนสายอาชีพจากคนขับแท็กซี่มาเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ (Full-Stack Developer) ขณะมีอายุ 53 ปี โดยใช้เวลาเพียง 9 เดือนจากการลงเรียนคอร์สเสริม
Ahmad เล่าว่าเคยทำงานด้านการศึกษาและการเงินมาก่อนที่จะมาขับแท็กซี่ตอนอายุ 45 ปี เขาขับแท็กซี่เป็นเวลา 6 ปีก่อนที่จะลงเรียนคอร์สเรียนเพื่อที่มุ่งสอนให้ประกอบอาชีพวิศวกรซอฟต์แวร์จากสถาบัน Generation Singapore ในช่วงต้นปี 2021 โดยใช้เวลาเพียง 9 เดือน ปัจจุบันเขาทำงานตำแหน่ง Full-Stack Developer เขียนโค้ดได้หลายภาษา ที่มีหน้าที่ดูแลทั้งเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ระบบหลังบ้าน และมีรายได้มากกว่าตอนขับแท็กซี่ 3 เท่า
คอร์สที่ Ahmad ลงเรียนใช้เวลา 3 เดือนในการเรียนทฤษฎีและอีก 6 เดือนในการฝึกทำงานจริง
เขาเผยว่าผู้ที่เรียนในคอร์สเดียวกันมีอายุเพียงราว 30-40 ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เวลานอกห้องเรียนเพิ่มขึ้นกว่าคนอื่นเพราะกลัวว่าจะไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงานเนื่องจากอายุมาก
Generation Singapore เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ให้บริการคอร์สเรียนเพื่อการหางาน บริษัทก่อตั้งโดยบริษัทที่ปรึกษา McKinsey ในปี 2014 ในสหรัฐฯ ก่อนที่จะขยายไปยังประเทศต่าง ๆ และขยายมายังสิงคโปร์ในปี 2019
ที่มา: Straits Times
Comments
เพิ่งรู้ว่าของไทยเราก็มีแหะ
อาชีพอื่นใช่ไหมครับ 😂😂
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ผมหมายถึง Generation น่ะ
เจ๋งอ่ะ
..: เรื่อยไป
ที่งงคือเปลี่ยนงานมาขับแท็กซี่ตอนอายุ 45 ปีนี่แหละ หน้าที่การงานน่าจะกำลังพีคเลย
ไม่หรอกครับ อย่างผม 40 แล้ว หน้าที่การงานยังติดแหง่ก ตำแหน่ง/รายได้พอ ๆ กับคนอายุ 30 นี่ล่ะ (ฮา)
ยังคิดเลยว่าผมอาจจะต้องไปขับแท๊กซี่
ไม่หรอกครับ
programmer มันมีพวก ขอให้ได้ทำงานเขียนโปรแกรมก็พอ เงินเดือนไม่แย่ก็พอแล้ว
พวกนี้มีคนลากไปบริษัทใหญ่กว่าก็ไม่ไปครับ
จะพบบ่อยได้ในพวก contributor opensource ครับ
และบางทีก็มีพวกที่มี mindset แปลกๆ
มีความสามารถที่จะอยู่ตำแหน่งที่สูงว่า
แต่ไม่ยอมเปลี่ยน ด้วยเหตุอะไรบางอย่างก็มีครับ
+1 เจอมาหลายคนเลย
บางคนชอบ code แต่ไม่ชอบ Lead คนครับ ของไทยพออายุมากๆ จะให้นำทีม
อยู่กะโค้ด กะ อยู่กะคน ได้อารมณ์ต่างกันเยอะนะครับ ไปตำแหน่งสูงๆ ยังไงก็ไม่พ้น ต้องบริหารคนด้วย
คุยกับคอม ปวดหัวน้อยกว่าคุยกับคนเยอะครับ
คนเรื่องมากกว่าคอมเยอะ
อยากกด like ให้ความเห็นนี้
ปวดหัวหนักกว่าคือ คุยกับคนที่ไม่รู้เรื่องคอม ยิ่งพวกหัวโบราณ ตรรกะแย่ ไม่เปิดรับด้วยนะ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
สรุปข่าวนี้เราเอามาปรับปรุงอะไรได้บ้างกับประเทศไทย?
สิงคโปร์ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นอย่างมาก เพราะประเทศเขาไม่มีทรัพยากรทางธรรมชาติ ดังนั้นทรัพยากรที่ดีที่สุดคือ คน ทุก ๆ ปีสิงคโปร์จะมีคูปองการศึกษาเช่น SkillsFuture Singapore (SSG) Funding ซึ่ง ประชาชนสามารถเอาคูปองนี้ไปเรียนวิชาอะไรหลักสูตรไหนก็ได้ทั้งสถาบันการศึกษาของรัฐ และเอกชนที่กระทรวงศึกษาธิการรัฐบาลรับรอง และยิ่งในช่วง COVID-19 ช่วงที่ประชาชนต้องอยู่บ้าน รัฐบาลก็ได้ออกมาตรการผ่อนผันให้ครอบคลุมเว็บไซต์คอสออนไลน์ด้วยครับ และภาคธุรกิจก็ให้ความร่วมมือในการรับบุคคลที่ผ่านการอบรมเข้าไปทำงานด้วยแม้จะเรียนจบไม่ตรงสาย
ประเทศไทยก็ควรจะทำโครงการในลักษณะเดียวกันที่ฟรี และประชาชนเข้าถึงได้ ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นคือ เก็บหน่วยกิตได้ เพราะ HR ในบริษัทใหญ่ในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังหัวโบราณต้องรับคนที่จบตรงสาย ต้องดูผลการสำเร็จการศึกษา ฯลฯ ผมว่า ประเทศไทยน่าจะมีบุคลากรเพียงพอนะครับ
อ่านเจอบทความ Full Statck Developer คืออะไร ไม่แปลกใจเลยครับทำไมเงินเดือนสูงเพราะคนเดียวทำทั้งสองหน้าที่คือ back-end และ front-end แต่ก็ไม่ง่ายแน่นอน ยิ่งแกขับ taxi มาก่อน แล้วมาเรียน Bootcamp จนได้งานจริๆ คือยอมรับนับถือเลยครับว่ามีความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามสูงมาก
ปล. ก็ต้องยอมรับด้วยครับว่า ทางสิงคโปร์นั้นเปิดกว้างกว่าเมืองไทยเราเยอะ