มีรายงานจาก Bloomberg ว่าช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Elon Musk ได้เรียกวิศวกรของ Tesla มาตรวจสอบประเมินโค้ดของ Twitter เพื่อทำการสรุปข้อมูลให้แก่ตนเอง
บรรดาหัวฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Twitter ได้พบกับ Musk และนำโค้ดของ Twitter มาแสดงให้ดู โดยในการพบปะครั้งนี้ Musk ได้เชิญตัววิศวกรของ Tesla มาช่วยตรวจสอบโค้ดเหล่านี้ด้วยเพื่อประเมินว่าระบบของ Twitter ในตอนนี้เป็นอย่างไร มีจุดไหนที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงหรือแก้ไขอย่างไรบ้าง เพื่อสรุปข้อมูลให้ Musk ทำความเข้าใจได้ดีขึ้น
Gazali Ahmad ชายสิงคโปร์ได้เปลี่ยนสายอาชีพจากคนขับแท็กซี่มาเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ (Full-Stack Developer) ขณะมีอายุ 53 ปี โดยใช้เวลาเพียง 9 เดือนจากการลงเรียนคอร์สเสริม
Ahmad เล่าว่าเคยทำงานด้านการศึกษาและการเงินมาก่อนที่จะมาขับแท็กซี่ตอนอายุ 45 ปี เขาขับแท็กซี่เป็นเวลา 6 ปีก่อนที่จะลงเรียนคอร์สเรียนเพื่อที่มุ่งสอนให้ประกอบอาชีพวิศวกรซอฟต์แวร์จากสถาบัน Generation Singapore ในช่วงต้นปี 2021 โดยใช้เวลาเพียง 9 เดือน ปัจจุบันเขาทำงานตำแหน่ง Full-Stack Developer เขียนโค้ดได้หลายภาษา ที่มีหน้าที่ดูแลทั้งเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ระบบหลังบ้าน และมีรายได้มากกว่าตอนขับแท็กซี่ 3 เท่า
สำหรับคนที่เป็นแฟนกีฬาชนิดต่างๆ ไม่ว่าฟุตบอล บาสเก็ตบอล ฯลฯ น่าจะรู้สึกได้ว่าการเป็นนักกีฬาอาชีพเหล่านี้ มีรายได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะนักกีฬาซูเปอร์สตาร์ ที่ยิ่งจะมีรายได้มากขึ้นไปอีก แต่ทว่า Paysa บริษัทหางานด้านไอทีในสหรัฐกลับชี้ว่า อาชีพวิศวกรซอฟต์แวร์มีรายได้ดีและช่วงการทำงานที่ยาวนานกว่า (ในบริบทของสหรัฐ)
บริษัทสำรวจค่าจ้าง Glassdoor ในอเมริกาเปิดเผยผลสำรวจ 25 อันดับบริษัทที่จ่ายเงินเดือนวิศวกรซอฟต์แวร์สูงที่สุดของปี 2013 พบว่าอันดับ 1 คือบริษัท Juniper Networks โดยค่าจ้างเฉพาะเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 159,990 ดอลลาร์ต่อปี ส่วนอันดับ 2 คือ LinkedIn 136,427 ดอลลาร์ และยาฮูอยู่ในอันดับ 3 ที่ 130,312 ดอลลาร์
สำหรับบริษัทที่คน "คาดกัน" ว่าจะจ่ายผลตอบแทนวิศวกรซอฟต์แวร์สูงอย่างกูเกิลนั้นอยู่อันดับที่ 4 ส่วน Twitter และ Facebook อยู่ในอันดับ 5 และ 9 ตามลำดับ บริษัทที่ถือว่าอยู่นอกกลุ่มไอทีแต่ติดอันดับเช่นกันคือ Walmart อยู่อันดับที่ 8 ครับ
25 อันดับทั้งหมดดูได้จากที่มา
ท่ามกลางองค์กรสำหรับผู้หญิงในสหรัฐจำนวนมาก แต่มีอยู่องค์กรหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวดังใน Wall Street Journal และ New York Times คือองค์กรชื่อเก๋ว่า "Girls Who Code" ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่ออบรมและจุดประกายกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิง ให้เก่งเขียนโปรแกรมไม่น้อยไปกว่าพวกผู้ชาย
เป็นที่รู้กันว่าบริษัทไอที โดยเฉพาะบริษัทที่ก่อตั้งใหม่มักจะมีจุดเริ่มมาจากผู้ชาย และพนักงานส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชาย ส่งผลให้บริษัทหลายแห่งอย่าง Twitter, General Electric, Google และ eBay ประกาศให้การสนับสนุน Girls Who Code โดยหวังว่าความพยายามจากจุดเล็กๆ จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างได้
Forbes ได้จัดอันดับอาชีพที่น่าทำที่สุดในปี 2012 ซึ่งอาชีพที่น่าทำที่สุดได้แก่วิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) โดยวัดจากปัจจัยความต้องการในตลาดแรงงานที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รายได้ที่ดี บรรยากาศในการทำงานที่สบายๆ ต่างจากอาชีพอื่น และใช้ความต้องการทางกายภาพน้อยมาก
อุปสรรคสำหรับคนที่จะเข้ามาทำงานวิศวกรซอฟต์แวร์ คือต้องใช้ความสามารถเฉพาะทาง สิ่งที่เรียนมาอาจจะใช้ไม่ได้ตลอดไป ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง ส่วนอาชีพอื่นๆ ที่ได้อันดับรองลงมาคือ นักสถิติ, นักบริหารทรัพยากรบุคคล (HR), ทันตแพทย์และนักวางแผนการเงิน
ที่มา - Forbes
ไมโครซอฟท์เผยกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพของ Internet Explorer 10 ที่จะมากับ Windows 8 โดยสร้าง IE Performance Lab จำลองสถานการณ์จริงบนอินเทอร์เน็ต แล้ววัดประสิทธิภาพทุกแง่มุม ซึ่งเป็นกรณีน่าศึกษาสำหรับคนที่ทำงานด้าน testing และ QA ประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์
IE Performance Lab เป็นเครือข่ายปิด ไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายภายนอกใดๆ รวมถึงอินทราเน็ตของไมโครซอฟท์เอง มันประกอบขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์จำนวน 140 เครื่อง ระบบเครือข่ายจำลองที่เหมือนอินเทอร์เน็ตแทบทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์, DNS, เราเตอร์, และระบบจำลองเครือข่ายชนิดต่างๆ
ระบบฮาร์ดแวร์ใน IE Performance Lab แบ่งได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ
Dice Holdings เว็บไซต์สมัครงานสายเทคโนโลยีได้เปิดเผยข้อมูลของเงินเดือนเหล่าวิศวกรทางด้านซอฟต์แวร์ และวิศวกรสาขาอื่นๆ ในแถบที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีอย่าง Silicon Valley ผลคือรายได้ต่อปีของคนเหล่านี้ทะลุ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีไปแล้ว
ตัวเลขแบบชัดๆ อยู่ที่ 104,195 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราวร้อยละ 5.2 นับว่าสูงกว่าแถบอื่นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับรายได้ของอาชีพใกล้เคียงกันทั่วสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ 81,327 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาราวร้อยละ 2 เท่านั้น
Dice Holdings บอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เหล่าวิศวกรใน Silicon Valley ทำลายกำแพง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมาเมื่อปี 2001
CareerCast เว็บจัดหางานชื่อดัง ได้ทำการจัดอันดับงานที่น่าทำที่สุดในอเมริกาปี 2011 โดยการให้คะแนนจากปัจจัย 5 อย่างประกอบไปด้วย รายได้, สภาพแวดล้อมในการทำงาน, ความต้องการในตลาดแรงงาน, ความเหน็ดเหนื่อยทางร่างกาย และความเครียด ซึ่งอาชีพที่ได้คะแนนรวมอันดับที่ 1 ในปีนี้คืองานตำแหน่ง Software Engineer
ตำแหน่งงาน Software Engineer ในอเมริกา ปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ $87,140 ต่อปี (ประมาณเดือนละ 210,000 บาท) ซึ่งถึงแม้รายได้จะเป็นรองอาชีพอย่างแพทย์หรือทนายความ แต่ระดับความเครียดนั้นไม่สูงเท่า มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ใช้แรงงานน้อย และมีความต้่องการจำนวนสูงมาก
หมายเหตุ: ข่าวนี้เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และการจัดการโครงการซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ เพราะมีบทเรียนของ Facebook ให้เรียนรู้ แนะนำอย่างยิ่งให้อ่านต้นฉบับ (ซึ่งยาวมาก) ครับ
ทีมวิศวกรของ Facebook ใหญ่มาก คิดเป็นครึ่งหนึ่งของพนักงานทั้งบริษัท 2,000 คน โดยแบ่งเป็นทีมซอฟต์แวร์ และทีมดูแลระบบอย่างละครึ่ง (ประมาณทีมละ 400-500 คน) เพื่อให้เข้าใจง่าย ผมแบ่งเนื้อหาเป็น 2 ส่วนตาม 2 ทีมนี้นะครับ
ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์