Tags:
Node Thumbnail

Virgin Hyperloop เปลี่ยนชื่อบริษัทกลับเป็น Hyperloop One หลังกลุ่มบริษัท Virgin ตัดสินใจถอดแบรนด์ออก เนื่องจากทิศทางการพัฒนาธุรกิจหันเหจากการพัฒนาระบบโดยสารคมนาคม เปลี่ยนมาเน้นเพื่อการขนส่งสินค้าเป็นหลัก โดยตอนนี้เว็บไซต์ของบริษัทก็ได้ปรับเปลี่ยนชื่อเว็บและชื่อบริษัทกลับมาเป็น Hyperloop One เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ Virgin Hyperloop มีปีที่ยากลำบากและเป็นเหตุให้ต้องปลดพนักงานออก 111 คนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหลังการเปลี่ยนทิศทางธุรกิจทิ้งไอเดียการพัฒนาระบบเพื่อการโดยสารของคนไป โดยทิศทางใหม่จะเน้นการขนส่งสินค้าภาคพื้นดินเพื่อเชื่อมโยงกับท่าเรือขนถ่ายสินค้าเป็นหลัก

No Descriptionหน้าเว็บไซต์ปัจจุบันของบริษัท

ในการนี้กลุ่มบริษัท Virgin ได้ออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันการแยกตัวออกจาก Virgin Hyperloop โดยมีใจความดังนี้

กลุ่มบริษัท Virgin ได้ให้การสนับสนุนวิสัยทัศน์ของ Virgin Hyperloop ในการพัฒนาระบบคมนาคมตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 2014 ในช่วงเวลาที่ผ่านมากลุ่มบริษัท Virgin มีความภาคภูมิใจที่ได้สนับสนุนนวัตกรรมที่ขับเคลื่อน Virgin Hyperloop, ซึ่งได้บรรลุหมุดหมายสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ดังเช่นการทดสอบเดินทางจริงด้วยเทคโนโลยี hyperloop เป็นครั้งแรกของโลก
...
Virgin Hyperloop เพิ่งตัดสินใจเพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์ของตลาดที่เปลี่ยนไปเพื่อเน้นการพัฒนาธุรกิจสำหรับการขนส่งสินค้าเป็นหลัก เนื่องจากการปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญของธุรกิจในระยะสั้นซึ่งได้ผ่านการหารือกับคณะกรรมการบริหารของ Virgin Hyperloop รวมทั้งผู้ถือหุ้น, กลุ่มบริษัท Virgin จึงได้ตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกับคณะจัดการของ Virgin Hyperloop ด้วยการถอดแบรนด์ Virgin ออกไป เราต้องการขอบคุณทีมงานของ Virgin Hyperloop สำหรับความพยายามทำงานอย่างหนักและความมุ่งมั่นตลอดระยะเวลาหลายปี และขอให้พวกเขาประสบความสำเร็จในภายภาคหน้า

กลุ่มบริษัท Virgin ได้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท Hyperloop One (ชื่อ ณ ตอนนั้น) ในปี 2017 และได้ปรับเปลี่ยนชื่อบริษัทเสียใหม่เป็น Virgin Hyperloop ทั้งนี้กลุ่มบริษัท Virgin มีการลงุทนในธุรกิจหลากหลายประเภท ทั้งธุรกิจสายการบิน Virgin Atlantic, ธุรกิจบริษัทขนส่งอวกาศ Virgin Galactic รวมทั้งธุรกิจสถานีวิทยุ Virgin Radio

ที่มา - Engadget

Get latest news from Blognone

Comments

By: Hoo
AndroidWindows
on 6 November 2022 - 18:54 #1267829

น่าจะจบละ
ถ้าไม่ดูดอากาศออกจากท่อ = เจอแรงต้านอากาศ เผลอๆหนักกว่า maglev บนรางเปิดอีก
เพราะอากาศสะสมอยู่หัวขบวนในท่อ เหมือนกระบอกสูบยางจักรยาน

ถ้าดูดอากาศออก = เกิดอุบัติเหตุ คนในนั้นไม่รอดแน่นอน

By: linfa on 7 November 2022 - 07:19 #1267855 Reply to:1267829

เอาแบบเดิมรางคู่ไม่ต้องสับรางเข้าถึงเมืองใหญ่ทุกเมือง เพิ่มความเร็วให้ได้ประมาณ 160 km/h น่าจะเพียงพอสำหรับส่งสินค้าภายใน 24 ชม. น่าจะถึงมือผู้รับแล้ว ต้นทุนถูกกว่าด้วย

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 6 November 2022 - 22:24 #1267840

ผมว่ามาถูกทางละ ขนคนยากไป ความปลอดภัยมันทำให้สูงยาก ขนของน่าลุ้นความเป็นไปได้ง่ายกว่าเยอะ


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: schanon
Android
on 7 November 2022 - 05:22 #1267850
schanon's picture

concept มันไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ไหนจะเรื่องราคา เรื่องความปลอดภัย

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 7 November 2022 - 06:02 #1267851

เหอะ https://www.blognone.com/node/108640

By: naja_return
AndroidWindows
on 7 November 2022 - 08:45 #1267860

hype (r) loop

By: zerocool
ContributoriPhoneAndroid
on 7 November 2022 - 11:27 #1267897
zerocool's picture

ผมก็คิดแต่แรกว่ามันน่าจะอันตรายเกินไป


That is the way things are.

By: api on 7 November 2022 - 12:41 #1267914

กองอวยหายเกลี้ยง

By: may2190 on 9 November 2022 - 23:31 #1268287

ผลของการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้โดนถอนทุน

พวก startup หลายตัวก่อนหน้านี้เข้ามาปั่นตลาด ทำให้ระบบเศรษฐกิจพัง

เสียนวัตกรรมหลายๆ อย่างโดนผลพลอยไปด้วย