Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

SAP เตรียมรวมบริการฟรีทั้งหมดของตัวเองที่เปิดตัวมาแล้ว และจะเปิดตัวเพิ่มในอนาคตภายใต้ชื่อ SAP Start โดยบริการเหล่านี้บริการคลาวด์ที่จำกัดการใช้งานรูปแบบเดียวกับบริการคลาวด์จำนวนมากที่มักมีบริการฟรีแบบจำกัดเพื่อให้นักพัฒนาเข้าไปทดลองใช้งานได้ง่ายขึ้น

ตอนนี้ SAP Start ยังอยู่ระหว่างการทดสอบเบต้าวงปิด และจะเปิดบริการทั่วไปภายในไตรมาสแรกปี 2023

ในด้านการศึกษา SAP ร่วมมือกับ Coursera เปิดให้บริการบทเรียนฟรี 7 วิชาสำหรับผู้สนใจที่ไม่ต้องมีพื้นฐานเทคโนโลยีมาก่อนสามารถเรียน SAP เพื่อเก็บใบรับรองสำหรับการทำงานเป็น SAP consultant จากเดิมที่ SAP มีเว็บ SAP Learning ของตัวเองอยู่ก่อนแล้ว แต่การใช้ Coursera ก็จะทำให้เข้าถึงผู้สนใจในวงกว้างได้มากขึ้น โดยชุดวิชาของ SAP ใช้เวลาเรียนรวมประมาณ 7 เดือน เมื่อเรียนสัปดาห์ละประมาณ 3 ชั่วโมง

ที่มา - SAP, SAP (2)

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 16 November 2022 - 12:32 #1269105
btoy's picture

จริงๆ SAP มี https://open.sap.com/ ที่ให้บริการคอร์สเรียนฟรีมาหลายปี แต่เหมือนกลุ่ม User ที่เข้าไปเรียนจะเป็นกลุ่มที่ทำงานเกี่ยว SAP เป็นหลัก เลยจำเป็นต้องออกมาใช้บริการ Coursera ที่ฐานผู้ใช้งานกว้างกว่า เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้าง SAP consultant รุ่นใหม่ๆ


..: เรื่อยไป

By: Garlamare
iPhoneAndroidWindowsIn Love
on 17 November 2022 - 11:07 #1269254 Reply to:1269105

ภาพรวมแนวโน้มตลาดงาน SAP consultant เป็นยังไงบ้างหรอครับในช่วงนี้และอีก10ปีข้างหน้า

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 17 November 2022 - 17:13 #1269328 Reply to:1269254
btoy's picture

มุมมองส่วนตัว ตอนนี้เดาทิศทางของตลาด SAP Consultant ในอีก 10 ปีข้างหน้ายากจริงๆครับ โดยเฉพาะกับตลาดบ้านเรา

ตอนนี้เป็นช่วงที่ลูกค้า ERP ของ SAP เริ่มเปลี่ยนจาก ECC ที่กำลังจะหมดซัพพอร์ต ไปใช้ S/4 HANA ที่เป็น product เรือธงตัวใหม่ และ road map ของ SAP นั้นต้องการให้ลูกค้าขยับไปใช้เวอร์ชั่นที่เป็น Cloud ทั้งแบบ Public หรือ Private เพื่อให้การอัพเกรดเวอร์ชั่นใหม่ๆหลังจากนี้ทำได้ง่าย

แต่ SAP เองกำลังติดหล่มในการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ เนื่องจากอย่างแรก ว่ากันตามตรง ทาง SAP เองก็ยังไม่ค่อยพร้อม ตั้งแต่ที่เริ่มปล่อยตัว S/4 ออกมา ตัวคอร์ของ framework ยังเปลี่ยนอยู่ตลอดและเป็น major changes ด้วย แถมค่ายใช้จ่ายในการย้ายไปรันระบบคลาวด์นั้นถือว่าค่อนข้างแพง

ถัดมา customize programs ที่เขียนด้วยภาษา ABAP จำนวนมากที่แต่ละบริษัทใช้งานอยู่ ABAP เป็นจุดแข็งของ SAP ที่มีจุดอ่อนในตัว แม้ตอนนี้ SAP Cloud จะมี ABAP Environment ให้ลูกค้าใช้งาน แต่ custom โปรแกรมเหล่านี้เกือบทั้งหมดไม่สามารถ migrate ไปรันบน cloud ได้แบบตรงๆ เนื่องจากตัว ABAP program ที่จะรันบน cloud ได้ จะต้องเปลี่ยนการวิธีการเขียนมาเป็นโมเดลใหม่แบบ RAP

ด้วยความที่แรงจูงใจจากฝั่ง SAP มีไม่มากพอ รวมถึงกระบวนการ Implementation ที่ทำได้ยาก ทำให้ SAP ต้องยอมให้ลูกค้ากลุ่มแรกๆที่ย้ายไป S/4 ส่วนใหญ่รันระบบแบบ S/4 HANA แบบ On-Prim ที่มี ABAP Stack ครอบ ฝั่ง Users ยังปักหลักใช้งานระบบผ่าน SAP Gui เหมือนเดิม ไม่ค่อยชอบย้ายใช้แอพใหม่ๆที่พัฒนาบน Fiori ยกเว้นแต่แอพใหม่จริงๆ ทำให้ประโยชน์ที่ได้จากการอัพเกรดที่เห็นได้ชัดเพียงอย่างเดียวตอนนี้คือระบบรันอยู่บน HANA Database ที่ประสิทธิภาพสูง แต่ในส่วนของ Application นั้นแทบจะยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงเลย

อันนี้ไม่ใช่แค่บ้านเรา ต่างประเทศเองก็เจอกับสถานการณ์คล้ายๆกัน ถือว่าหืดจับเลยล่ะครับ แต่หลัง TechEd ปีนี้ (2022) ผมว่า tech stack ของ SAP ยุคใหม่น่าจะนิ่งแล้วล่ะ ตัว ABAP Cloud (Steampunk) ที่นิ่งและถูก release กลับลงมาถึงเวอร์ชัน On-Premise ด้วย ส่วนตัวชอบและเห็นด้วยมาก แต่...อันนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของฝ่าย IT ของแต่ละที่เลยครับ ว่าจะเห็นความสำคัญเรื่องนี้มั้ย

ส่วนฝั่ง CAP ที่ใช้ Java/Javascript พัฒนา อันนี้แปรฝันตรงตามจำนวนลูกค้าที่ใช้งานระบบบน Cloud และพัฒนาระบบอยู่บน Web base หรือ Mobile มากน้อยแค่ไหน และเนื่องจาก SAP เดิมทีเป็นระบบปิด แม้ช่วยหลังๆจะเริ่มเปิดและเป็นมิตรกับฝั่ง Open Source มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมว่าจำนวนนักพัฒนาในฝั่งนี้ยังถือว่ามีจำนวนที่น้อยอยู่ (นับรวม SAPUI5/OpenUI5 ด้วย)

นอกจากที่ว่ามาข้างบนแล้ว ฝั่ง Implementer เองก็เหมือนจะยังไม่พร้อมที่จะขยับไปพร้อมกับ SAP ซักเท่าไหร่ อันนี้เป็นอีกปัญหาใหญ่ (แต่ผมอาจจะมีที่ตกข่าวบ้างแหละ เพราะตอนนี้ตัวเองก็ติดแหงกอยู่กับอย่างอื่น 555) ในมุมมองของผม ABAP Programmer เป็นกลุ่มนักเขียนโปรแกรมที่อยู่ใน comfort zone ที่ SAP เตรียมทุกอย่างไว้ให้เกือบหมด มีการใช้ dev tools ข้างนอกน้อยมาก backward compatible ของภาษา ABAP ทำให้โปรแกรมเมอร์บางส่วนไม่ค่อยขยับตามทิศทางที่ SAP อยากให้เป็นเพราะเขียนแบบเดิมก็ทำงานได้(นิ)

แต่การเปลี่ยน technology ของ SAP รอบนี้ เป็นการปรับฐานระบบครั้งใหญ่ แม้แต่ใน ABAP เองก็มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษา ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะ rules ที่ใช้กับ ABAP Cloud ทำให้ SAP ยังมีงานอีกเยอะที่จะเข้ามาช่วยผลักดันตรงนี้

ร่ายมาซะยาว 555 ย้อนกลับไปที่คำถาม ตลาดจะเป็นยังไง ผมว่าอย่างแรก อยู่ที่ SAP ก่อนเลยว่าจะรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้เยอะแค่ไหน เพราะ SAP เองก็เหมือนจะปรับค่า license เพิ่ม อันนี้อาจจะทำให้ลูกค้าบางเจ้าไม่ไปต่อก็ได้ แต่เนื่องจาก ERP เป็นระบบใหญ่ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผมว่าลูกค้าเองก็คงไม่อยากย้ายค่ายหรอก เพียงแต่การขยับตัวในช่วงแรกอาจจะช้าหน่อย เพราะเศรษฐกิจโลกตอนนี้ก็ไม่ค่อยเป็นใจซะด้วย

ผมว่าอีก 5 ปีหลังจากนี้ ตลาดน่าจะยังประมาณนี้แหละ ไม่เงียบจนเกินไปแต่ก็ไม่หวือหวา เจ้าไหนพร้อมก็น่าจะเริ่มอัพเกรดไปเรื่อยๆ คราวนี้หลังปี 2027 ถ้า SAP ไม่ยอมต่อการซัพพอร์ตออกไปเหมือนกับรอบก่อนหน้า ผมว่า SAP Consultant น่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดนะ ยิ่งตอนนี้ เด็กรุ่นใหม่ ไม่ค่อยอยากจะมาทำระบบที่ดูน่าเบื่อแบบนี้ด้วย น่าจะหาคนทำยากใช้ได้เลยล่ะ

ที่พูดไปทั้งหมด แทบจะเป็นส่วนของ Technical เกือบทั้งหมดเลย ฮ่าๆ ส่วนฝั่ง Functional ผมว่ายังไงก็ต้องเรียนรู้ business process และ Fiori Applications ใหม่ๆที่ SAP ใส่เข้ามาแหละ เพราะตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าทาง SAP จำเป็นต้องเดินหน้าไปทางนี้แน่ๆ เทคโนโลยีปัจุบันและอนาคตไม่ยอมให้ SAP อยู่กับเทคโนโลยีเดิมอีกต่อไป


..: เรื่อยไป