Epson ประกาศหยุดขายเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ในปี 2026 เปลี่ยนไปขายเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ตเพียงอย่างเดียว โดยให้เหตุผลเรื่องสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมา Epson หยุดขายเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในบางประเทศแล้ว แต่ยังขายอยู่บ้างในตลาดยุโรปและเอเชีย และระบุว่าจะยังมีอะไหล่และหมึกให้กับลูกค้าเดิมต่อไป
ตัวเลขของ Epson เองระบุว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ถึง 85% (ที่ความเร็วการพิมพ์เท่ากัน) ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 85%, ใช้วัสุดสิ้นเปลืองพวกตลับหมึกน้อยกว่า 59%
ชิ้นส่วนอุปกรณ์สิ้นเปลืองของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต Epson เทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์คู่แข่ง เมื่อพิมพ์เอกสารไปแล้ว 1 ล้านหน้าเท่ากัน
ที่มา - The Register
Comments
Inkjet รุ่นไหน พิมพ์ไวเท่า Laser ครับ
นั่นน่ะสิ วรรคนี้ผมก็แปลกใจ
พวกราคาเจ็ดพันขึ้นก็เร็วพอสมควรนะครับ ที่เคยใช้ก็ j2330dw ขาวดำที่ 35 หน้าต่อนาที(ใช้จริงช้ากว่า)
ใจก็อยากใช้ InkJet แต่มันไม่มีเหตุให้ต้องพิมพ์ทุกวัน ตันก็เสียเงิน พวกเลเซอร์ใช้งานทิ้งขว้างเป็นสิบปียังใช้งานต่อได้ดี พออยากจะพิมพ์สีนี่หน้าซีดมากเพราะตลับเล็กแถมแพงจัด
ยี่ห้ออื่นไม่รู้
แต่ Brother รุ่นใหม่ที่เพิ่งซื้อมา พิมพ์เร็วมาก
เทียบกับรุ่นเก่าๆน่าจะเร็วกว่าเดิม 2-3เท่าเลยครับ
แถมพิมพ์ไร้ขอบได้ด้วย
มีหลายรุ่นอยู่นะครับถ้าทุนถึง
ผมว่าจะสั่งซื้อมาใช้อยู่เดือนมกราคมหน้านี้แหละ
รอขึ้นปีใหม่ได้งบปีหน้ามาก็ซื้อมาใช้แล้ว พิมพ์สีได้ 25 หน้าต่อนาที หมึกราคาหลักร้อย พิมพ์ได้ประมาณ 7,000 แผ่น ตอนนี้ใช้เลเซอร์หมึกแท้เปลี่ยนหมึกทีน้ำตาแทบจะไหล เคยใช้หมึกเทียบแต่คุณภาพงานพิมพ์ก็เลวร้ายมาก
แต่เครื่องส่วนตัวที่บ้านใช้เลเซอร์ 2 เดือนพิมพ์ทีนึงไม่กล้าใช้อิงค์เจ็ทกลัวหัวตัน
HP Pagewide 70 แผ่น/นาที การันตีหน้าแรกภายใน 10 วิ หลังจากสั่งพิมพ์
EPSON WorkForce Enterprise WF C20600/20750/21000 60/75/100 แผ่น/นาที ทดสอบตามมาตราฐาน ISO 24734 ครับ
จริงๆ ถ้า InkJet มีรูพ่นหมึก Nozzle มากพอมันเร็วได้ใกล้เคียง Laser เลยนะครับ
อย่าง Epson L6xxx กับ L15XXX เหมือนจะมี Nozzle สีดำประมาณ 600 รู
เวลาพิมพ์ขาวดำนี่เหมือนจะไหลออกมาคล้ายๆ Laser เลย
ส่วนด้านสีจำนวน Nozzle รวมทุกสีจะใกล้เคียงสีดำสีเดียว เลยเดาว่าพิมพ์สีเลยช้ากว่า
แหม ถ้าต้องพิมพ์เป็นร้อยๆหน้า นี่ไม่เปลืองไฟเลยเนอะ ที่ต้องเปิดคอมทิ้งไว้รอมันพิมพ์เสร็จเนี่ย
ขายไม่ดีก็บอกมาเถอะ thermal printer คงขายดีกว่าแหละ
InkJet กองที่บ้านผมเต็มเลย ไม่ได้ใช้นาน ๆ ก็เสีย ยี่ห้อละสองสามเครื่อง
หมึกก็เปลี่ยนหัวไปเรื่อยเลยถ้าซื้อรุ่นใหม่ อยากรักโลกก็จับมือกับเจ้าอื่นทำหัวมาตรฐาน ใช้ของเจ้าไหนก็ได้ดีมะ ทำหมึกมาเต็ม ๆ ตลับ ไม่ต้องซื้อใหม่บ่อย ๆ ตลับเป็นขยะหาที่ทิ้งก็ยาก
จริงครับ
ที่ต้องซื้อใหม่เพราะหัวตัน จะซ่อมราคาก็แทบเท่ากับซื้อใหม่
ที่แปลกคือ Brother จดลิขสิทธิ การเสียบปลั๊กไว้แล้วจะพ่นหมึกป้องกันหัวตันทุกๆ 2-3วัน
ทำให้ยี่ห้ออื่นมีระบบนี้ไม่ได้ ทั้งๆที่มันน่าจะช่วยลดขยะให้โลกได้เยอะเลย
มิน่า ซับหมึก Brother เต็มไวมาก!!!!!
บ้านผมใช้แต่ Brother แต่มันก็ตันทุกเครื่องอยู่ดีนะครับ lol
Epson L15150 ตัว Firmware หลังๆเหมือนจะมีระบบนี้เหมือนกัน แต่ก็ได้ยินว่า Update FW แล้ว Brick ก็มี :D
Brother inkJet แบบ Tank จากโรงงาน ระบบล้างหัวพิมพ์เพื่อป้องกันการอุดตันของเจ้านี้ถือว่าดีจริงๆครับ
ซื้อมา3เครื่อง 4 ปี ยังไม่มีอาการหัวตันเลย ทั้งๆที่พิมพ์เฉลี่ย เดือน 1-2ครั้งเท่านั้น
ไม่ขายก็ไม่ซื้อ ซื้อไปก็ตัน ทิ้งเป็นขยะรกโลกอีก
Inkjet ขนาดใช้บ่อยยังเสียเลย ทิ้งไว้นานก็หมึกตันอีก แถมยังพิมพ์ได้ช้ากว่า Laser พอสมควร และที่สำคัญ เจอน้ำแล้วเละ ทั้งสีและขาว-ดำ
ยอมเสียเงินเยอะไป Laser Colour ยังจะคุ้มกว่า แล้วตัวระบบพิมพ์ก็แยกจากเครื่อง เพราะอยู่กับ Toner ทำให้ซ่อมง่ายด้วย และตัวผงสีแห้งแบบเติมเองก็ไม่เลอะเท่า inkjet
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เฉพาะ Epson เปล่าที่ตลับหมึกแยกจากหัวพิมพ์ เจ้าอื่นถ้าเปลี่ยนตลับก็เปลี่ยนหัวเลยไม่ตัน
เดี๋ยว ๆ EPSON หัวพิมพ์มันติดกับตัวเครื่องไม่ใช่หรือครับ? HP พวก OfficeJet หลาย ๆ รุ่น ก็แยกตลับหมึกกับหัวพิมพ์แล้วนะครับ
ผมอาจจะพิมพ์งงๆ ฮ่าๆ Epson เคยได้ยินหัวพิมพ์ไรหรือนี่ละครับที่ติดกับเครื่องเลย ต้องพิมพ์บ่อยๆ ไม่งั้นตัน
แบบเจ้าอื่นเปลี่ยนตลับคือเปลี่ยนหมดงี้นะครับ ได้ยินมาตั้งแต่ซื้อคอมกับซื้อเครื่อง Print มานานมากแล้วครับ ปัจจุบันใช้ HP บ้านๆ ตัว All in one ถูกสุด แต่ไม่ได้ใช้เองนะครับที่บ้านซื้อมาเลยไม่ได้ดูสมัยนี้เป็นไงกันแล้ว
epson brother หัวติดกับเครื่อง canon รุ่นใหม่ๆยังมีหัวพิมพ์ติดกับตลับ
ขายไม่ดีเท่า Laser ของแบรนด์อื่นด้วยมั้ง เลยไม่อยากวุ่นวาย
ไปเน้น InkJet ที่ตัวเองถนัดดีกว่า กำไรดีกว่าเครื่อง Laser ด้วย
InkJet หนีจาก HP ที่ตลับหมึกโคตรแพงมาใช้ Brother ที่มี Tank ในตัวโคตรดีเลยไม่เคยตันเลย
ก็แล้วแต่ วงการอุตสาหกรรมการพิมพ์ ที่อยู่กันทุกวันนี้ จุดคุ้มทุนอยู่แค่
XEROX มือสอง , หมึกแท้ นำเข้า , พาร์ทหาได้ในวงการ สีสดสวย เท็คเจอร์ดี ลูกค้าก็เอาละ
อ่านคอมเมนต์ แต่ละอันแล้วแบบว่า เอ่อ....อ.......อ
ก็จริงอย่างที่ข่าวว่าแหละครับ อันนี้ต้องเน้นก่อนว่า พูดถึงตลาดกลุ่มธุรกิจ และองค์กรนะครับ เพราะเอปสัน สู้ไม่ได้ในกลุ่มลูกค้าทั่วไปเลย ทั้งหัวพิมพ์ไม่ละเอียดเมื่อเปรียบเทียบกับ Thermal Inkjet (พวก HP, Canon, Lexmark) ทำให้ต้องพิมพ์ซ้ำหลาย ๆ รอบ สูญเสียความเร็วในการพิมพ์เป็นอย่างมาก ซ้ำเติมด้วยต้นทุนการผลิตหัวพิมพ์นั้นสูงกว่าหัวพิมพ์ Thermal Inkjet ทำให้
1.เครื่องพิมพ์ที่ใช้หัวพิมพ์ Piezo จะไม่เน้นเปลี่ยนหัวพิมพ์แต่จะใช้วิธีเปลี่ยนเฉพาะตัวตลับหมึกแทนเพื่อลดราคาตลับหมึก
2.เวลาหัวพิมพ์ตัน ค่าหัวพิมพ์จะสูงมาก ๆ
แต่ข้อดีมันก็มี เช่น หัวพิมพ์ Piezo ไม่จำเป็นต้องพักหัวพิมพ์เวลาสั่งพิมพ์เป็นจำนวนมาก ๆ หรือหัวพิมพ์สามารถปรับแรงดันได้ สามารถสร้างหยดตามขนาดที่เราต้องการได้ หัวพิมพ์แบบ Thermal Inkjet เมื่อใช้ไปสักระยะนึงจะต้องมีการเปลี่ยนหัวพิมพ์เพื่อให้ได้คุณภาพงานพิมพ์ที่ดี เนื่องจากหัวพิมพ์ถูกทำลายจากความร้อนในขั้นตอนการสร้างหยดหมึก ทำให้ช่วงหลังมานี้ เอปสันแอบจะถอดใจกับตลาดลูกค้าทั่วไป
เลเซอร์ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการวอร์มขดลวดเพื่อละลายผงหมึก ในขณะที่แบบอิงค์เจ็ตนั้นใช้พลังงานในการหมุนมอเตอร์ไฟฟ้า และสร้างหยดหมึก(Thermal Inkjet) และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงก็ต่างกันอย่างมาก เนื่องจากเลเซอร์ใช้ความร้อนตลอดเวลา พลาสติกก็กรอบแตกง่าย ทำให้ต้องเปลี่ยนอะไหล่บางชิ้นบ่อย ๆ ส่วนค่าวัสดุสิ้นเปลืองไม่ต้องพูดถึงต่างกันลิบ...ยิ่งช่วงหลัง ๆ มามีแทงค์แท้ให้ด้วย ยิ่งเห็นความแตกต่าง ค่าผงหมึกเปลี่ยนที่นึง 2,000+ ต่อตลับ ส่วนหมึกขวดนึง 250+ เรียกว่า ยิ่งใช้ยิ่งเห็นความแตกต่าง เพราะผมเจอมากับตัว
ซึ่งหลัง ๆ มานี้ EPSON ค่อนข้างรุกหนักในตลาดกลุ่มธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะเขารู้ตัวอยู่แล้วว่า หัวพิมพ์ของเขาทนทานมาก ๆ มากกว่า Thermal Inkjet ดังนั้นจึงสู้ตายในกลุ่มธุรกิจ-องค์กร-อุตสาหกรรม
ส่วนเรื่องงานพิมพ์เละหลังโดนน้ำหกใส่ เอปสันนี่คือเจ้าพ่อเรื่องหมึกกันน้ำเลย
ส่วนเรื่องพิมพ์ช้ากว่า Laser มันก็ขึ้นอยู่ว่า Segment ไหน? ถ้าตลาดทั่วไปก็คงใช้ แต่ถ้าตลาดองค์กรล่ะก็ไม่เป็นความจริงเสมอไป
อีกอย่างเอปสันคงมองเห็นแล้วว่า เทรนด์ Carbon neutrality กำลังมา องค์กรใหญ่ต้องจัดการลดการปล่อยคาร์บอนลง หรือถ้าหากลดไม่ได้แล้วก็ต้องซื้อ Carbon credit เพื่อให้ตัวเองเป็น Zero Emission ซึ่ง Laserjet นี่คือตัวการเลยใช้ไฟฟ้าโหด องค์กรใหญ่จึงมีทิศทางที่จะปลดระวางเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ในอนาคตกันมากขึ้น ดังนั้นแทนที่จะเอาเงินไปพัฒนาวิจัยระบบ LED (เอปสันแกใช้ LED แทนเลฌซอร์นะครับ เผื่อใครไม่รู้) ที่อนาคตไม่น่าจะมีใครใช้ มาวิจัยพัฒนาระบบ Piezo ที่ทำยังไงจะให้เทียบเท่ากับ Thermal Inkjet ได้จะดีกว่า
ดังนั้นจากข่าวนี้ เอปสันก็คงเอาดีกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มให้มากขึ้น ทุ่มเงินในการสร้างเทคโนโลยีเฉพาะทางมากขึ้น ก็ดีใจด้วยครับกับเอปสัน
ป.ล. ตอนนี้งานเกี่ยวกับนโยบายสิ่งแวดล้อม คำถามแรก จากตั้งเป้าลดค่าไฟอย่างไร? ชี้นิ้วไปหาเลเซอร์ก่อนเลย 555+ แต่เลเซอร์ฝ่ายการเงิน-บัญชี เขารักของเขาน๊าาาาาา ไม่ให้ยุ่งเลย ไม่งั้นโปรแกรมบัญชีของเขาพิมพ์ออกมาแล้วฟอนต์เละ 5555555+
+1
+1 ฝ่าย accounting กับ finance น่าจะยังขอใช้เลเซอร์ต่อจริงๆ แต่ระบบ e-services ต่างๆเช่น e-tax น่าจะค่อยๆช่วยลดจำนวนการพิมพ์เอกสารลงไปเรื่อยๆเช่นกัน
..: เรื่อยไป
ความเห็นนี้ สาระล้วน ๆ ข้อมูลแน่นมาก
กลุ่ม WorkForce ผมไม่เคยแตะนะ แต่กลุ่มล่างผมเคยเจอลูกค้าใช้หมึกแท้แต่ใช้ไปสักพักเกิดอาการตันทั้งที่ใช้ทุกวัน ผมก็ไม่แปลกใจเพราะหมึกมันมีความหนืดเพราะคุณสมบัติกันน้ำด้วย
ว่าแต่ใครมีวิธีทำ Rpi Print server แบบที่ตั้งเวลาให้เครื่อง epson ล้างหัวพิมพ์เองได้ไหมครับ หรือสั่งปริ้นท์วันเว้นวันก็ได้
ถ้าเน้นปริ้นท์ภาพนะ ใช้มา 3-4 แบรนด์ ผมถูกใจคุณภาพของ Epson สุด แต่พิมพ์ช้ากว่าชาวบ้านนี่เห็นด้วยจริง
WE ARE THE 99%
มันคมสู laser ได้หรอครับ
ปกติพิมพ์ภาพ inkjet สีมันสวยกว่า laser นะ ความฟุ้งอะไรก็ดีกว่่ แต่ถ้าตัวหนังสืออย่างเดียว laser ก็ดีกว่า
ผมใช้ Epson L800 มาประมาณ 7-8 ปี นานๆ จะพิมพ์งานที (นานสุดน่าจะ 3-4 เดือน)
สีก็จะเพี้ยนเพราะหัวบางสีตัน แต่พอสั่งให้ล้างทำความสะอาดหัว มันก็กลับมาใช้ได้ปกติทุกครั้ง (แต่อาจต้องล้าง 3-4 รอบ)
ส่วนเรื่องความเร็ว คือ ค่อนข้างช้า แต่พิมพ์รูปสวย
L800 ถึงทนจริง ที่บ้านถ้าตันหนัก ผมจะดูดหมึกออกให้หมด แล้วใส่น้ำยาล้างหัวพิมพ์ลงไปแทน สั่งคลีนสองสามรอบแล้วทิ้งไว้วันนึง แล้วมาสั่งคลีนอีกสักหน่อย ค่อยดูดน้ำยาล้างหัวพิมพ์ออกหมดแล้วค่อยใส่หมึกกลับไปอีกที
(ออแต่ผมต่อสายทิ้งหมึกออกมาใส่ขวดนะ ประหยัดซับหมึก)
ผมไม่ชอบที่หมึกเลเซอร์มันเงา 😢
ใช้ในบ้านคิดว่าแบบ inkjet ปลอดภัยกว่า เพราะผงหมึก laser มันฟุ้งกระจาย
ส่วนตัวใช้ HP อยู่ รุ่นที่ใช้ก็รุ่นที่มีหัวพิมพ์อยู่กับตลับหมึกเลยเปลี่ยนตลับก็เปลี่ยนหัวพิมพ์ไปก็ดูแลง่ายหน่อย (แต่ก็แพงกว่าหน่อย)
ส่วนตัวใช้ตามบ้าน เลือก laser อย่างเดียว
1.ไม่อยากกังวลว่าหัวพิมพ์จะตัน
2.หมึก ink jet มีโอกาสละลายเมื่อเก็บเอกสารไว้แรมปี เช่น เอกสารสัญญา