เหตุเกิดจากรถที่มีคนอยู่ 2 รายขับผ่านพื้นที่ป่าในอุทยาน Angeles National Forest ในเมือง Los Angeles รถได้ออกนอกถนนและยื่นออกจากเส้นทางไหล่เขา จนทำให้กันชนหน้าร่วงลงไปในหน้าผาข้างล่าง
ผู้ที่อยู่ในรถตัดสินใจใช้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมฉุกเฉินบน iPhone 14 เพราะบริเวณนั้นไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต จนหน่วยดับเพลิงของเมือง นายอำเภอ และทีมค้นหาและกู้ภัยมอนโทรสได้รับการติดต่อ ทำให้ทีมกู้ภัยสามารถนำเฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยเหลือและส่งตัวผู้ที่อยู่ในรถที่มีอาการบาดเจ็บเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ในที่สุด
Apple เพิ่งจะเปิดให้บริการส่งข้อความฉุกเฉินผ่านดาวเทียมในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาไปเมื่อเดือนที่แล้ว เหตุการณ์นี้จึงถือเป็นความสำเร็จครั้งแรก ๆ ของบริการ Emergency SOS บน iPhone 14
ที่มา: TechCrunch
Deputies, Fire Notified of Vehicle Over the Side Via iPhone Emergency Satellite ServiceThis afternoon at approximately 1:55 PM, @CVLASD received a call from the Apple emergency satellite service. The informant and another victim had been involved in a single vehicle accident pic.twitter.com/tFWGMU5h3V
— Montrose Search & Rescue Team (Ca.) (@MontroseSAR) December 14, 2022
Comments
เมืองไทยจะมีอะไรแบบนี้ไหมเนี่ย
ผมเชื่อว่า วันนึง คงใช้ได้ในไทยครับ แต่เมื่อไรนี่ไม่รู้ ถ้ามันเกียวกับรัฐก็อาจจะนานหน่อย แต่ถ้ามันเป็นเอกชนหรือมูลนิธิ ผมว่าไม่น่าจะนาน
ย้ำนะครับ เป็นแค่ "ความเชื่อ" อาจจะใกล้เคียงกับ "งมงาย" 555
ผมก็อยากให้มันเชื่อมโยงใช้ในไทยได้นะครับ เผื่อไปเที่ยวไกลๆ สัญญาณมือถือไม่ดี มีอันนี้ก็อุ่นใจ มือถือเครื่องเดียวจบ
แต่ดูจาก Apple Pay แล้ว หมดหวังไงไม่รู้ ฮ่าๆ ไม่มาสักที
เป็นฟีเจอร์ที่หลายคนมองว่าเป็นกิมมิค แต่ถ้ามันช่วยชีวิตคนได้แม้คนเดียว ก็ถือว่าคุ้มแล้วที่ทำมันขึ้นมา
อันนี้เห็นด้วยเลยครับ ยามฉุกเฉินถ้าอะไรช่วยชีวิตเราได้นี่บอกได้เลยน้ำตาไหลเลย
ทุนพัฒนา 400-500 ล้าน + ค่าบริการ + ค่าดาวเทียม ช่วยได้คนเดียวไม่คุ้มหรอกครับ เอาไปทำอย่างอื่น ซื้ิอรถพยาบาล จ้างเจ้าหน้าที่เพิ่ม ฯลฯ ลดคนตายได้ปีละหลายสิบคนหรือหลายร้อยคน
แนวคิดดีและภายใน 2 ปีข้างหน้าที่แอปเปิลยังให้บริการฟรีก็จะมีคนใช้นับสิบล้านคนในสหรัฐฯ เราน่าจะเห็นตัวเลขจริงๆ ว่าสองปีแล้วจะช่วยได้กี่คน แล้วมาดูกันได้ว่าคุ้มไหม ถ้าคุ้มจริงดีไม่ดีหน่วยงานกำกับดูแลอาจจะต้องใส่เงินสนับสนุนให้มีระบบนี้กว้างขวางขึ้นด้วย
lewcpe.com, @wasonliw
อันนี้เหมือนจะมองผิดประเด็นนะครับ แอปเปิ้ลเค้าไม่ได้ทำการกุศลที่จะไปบริจาครถพยาบาลหรือจ้างคนมาเพิ่ม คือมันไม่เข้ากับ Core business เค้าครับ เค้าทำฟีเจอร์ขึ้นมาเป็นจุดขายของโทรศัพท์เค้า แล้วฟีเจอร์นี้มันใช้งานได้จริง และช่วยคนได้ ก็แค่นั้นครับ แม่จะช่วยได้คนเดียวก็ถือว่าคุ้มครับ (ที่จะเอามาโฆษณา) มันต่อยอดธุรกิจเค้าได้ครับ เรื่องเพิ่มเจ้าหน้าที่ ซื้อรถพยาบาลมันเป็นหน้าที่ของหน่วนงานรัฐบาลมากกว่ารึเปล่าครับ
ในมุมมองผู้บริโภค ถ้าเราซื้อไอโฟนมา 5 หมื่น แต่ตอนมีเหตุฉุกเฉินอะไรแบบนี้แล้วมันใช้ฟีเจอร์นี้ช่วยชีวิตเราได้ อันนี้คุ้มมั้ยครับ
คือจะบอกว่าซื้อไอโฟนสิ ทุกบาทของท่านที่ซื้อไอโฟนเราจะบริจาคซื้อรถพยาบาลเพิ่ม ผมว่ามันแปลก ๆ นะครับ (ถึงแม้ว่าจะมีใน Product RED ก็เถอะ 555)
ถ้ามองว่าเป็นโฆษณา ดูล้ำๆ ก็คงเข้าใจได้กับแนวคิด "คนเดียวคุ้ม" ครับ
เงินเท่ากันเอาไปบริการกับลูกค้าเท่านั้น แบบที่เราก็เห็นสารพัดสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือฉุกเฉินทั้งหลายมันก็ช่วยได้จำนวนมากกว่าหนึ่งรายแน่ๆ
ถ้าไม่นับความรู้สึกล้ำฟีเจอร์ดาวเทียมก็ต้องการพิสูจน์ตัวครับว่ามันคุ้มไหม ผมก็เชื่อนะว่ามันมีโอกาสที่เราจะเห็นมันช่วยรวมๆ อาจถึงหลายร้อยคนหลายพันคนต่อปี และคุ้มค่าสมัครสมาชิกเหมือนเราซื้อประกันเดินทาง สุดท้ายอาจกลายเป็นบริการที่สร้างรายได้ให้บริษัทอีก แต่คงไม่สามารถเข้าใจแนวคิดว่าคนเดียวคุ้มได้ครับ ถ้าผ่านไปสองปีแล้วช่วยได้คนเดียวจริงๆ นี่บอร์ด/ผู้ถือหุ้นคงไม่รู้สึกคุ้มด้วย
lewcpe.com, @wasonliw
แอปเปิ้ลเค้าพัฒนาสินค้าและฟีเจอร์มา "ขาย" อยู่แล้วครับ เงินทุนวิจัยและพัฒนาเค้าเอามาคิดรวมอยู่ในราคาขายไอโฟนอยู่แล้วครับ ผ่านไปสองปี ถ้าคนซื้อไอโฟนเพิ่มขึ้น บอร์ดคงไม่ว่าอะไรหรอกครับ ย้ำอีกครั้ง แอปเปิ้ลไม่ใช่องค์กรการกุศล ถ้าายอดขายโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่มีเคสช่วยคนเลย บอร์ดเค้าไม่ว่าอะไรหรอกครับ กลับกัน ถ้ายอดขายมันตกลง แต่ช่วยคนได้เป็นร้อยเป็นพัน บอร์ดก็คงไม่แฮปปี้ครับ (แต่ในความเป็นจริงมันเอาเรื่องนี้มาโฆษณาได้อยู่ดี)
ส่วนถ้าคุณไม่เข้าใจแนวคิดว่าคนเดียวคุ้มหมายความว่าอะไร ลองจินตนาการว่าเป็นคุณ หรือคนในครอบครัว ตกอยู่ในสถานการเดียวกันกับเค้า แล้วถูกช่วยชีวิตไว้ด้วยฟีเจอร์นี้ดูครับ อาจจะพอเข้าใจมากขึ้นว่า คนเดียวคุ้มมันคืออะไร ชีวิตคนมันตีค่าเป็นตัวเลขไม่ได้หรอกครับ ถ้ามันเป็นเรื่องของเรา ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดูครับ
+1
เพิ่งเปิดใช้งาน ก็ช่วยชีวิตคนได้แล้ว สำหรับ Apple เงินที่ลงทุนไป ออกผลแล้วว่านอกจากใช้งานได้จริง เคสพวกนี้ก็เป็นการโปรโมทไปในตัว สิ่งที่ได้กลับมาหา Apple มันไม่ใช่แค่คุ้มหรือไม่คุ้มแล้ว
ตรรกะแปลกๆ ดีนะครับไม่มี ซื้อเครื่องมือแพทย์ 😌
ผมเข้าใจที่คุณจะสื่อนะ แต่ผมว่าคุณเลือกเปรียบเทียบผิดไป
อย่างแรกเลยก็คือ สิ่งที่คุณยกมาเปรียบเทียบนั้น มันแทนที่ระบบ SOS ไม่ได้ครับ ไม่ว่าจะซื้อรถพยาบาลหรือจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มแค่ไหน ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตที่คนที่ไม่สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่อย่างในเคสนี้ได้ครับ
เมื่อระบบมันแทนที่กันไม่ได้ แต่คุณเลือกที่จะเปรียบเทียบกันโดยเอาจำนวนชีวิตคนมาวัด... มันก็เป็นปัญหาอีก เพราะส่วนตัวผมมองว่าชีวิตคนมันประเมินค่าไม่ได้ครับ (และคิดว่าหลายๆคนก็น่าจะคิดแบบนั้น เพราะงั้นถึงมีบางคนมองว่าช่วยได้ 1 คนก็คุ้มแล้ว) การหยิบยกจำนวนชีวิตคนขึ้นมาใช้เปรียบเทียบจึงต้องทำอย่างระมัดระวังไม่งั้นอาจทำให้คนบางกลุ่มไม่พอใจหรือเข้าใจผิดเอาได้ครับ
อย่างในกรณี บางคนอาจจะเข้าใจข้อความของคุณเป็น "ชีวิตคนหนึ่งคน มันมีไม่ค่าไม่ถึง 500 ล้าน" ก็ได้ครับ
ถ้าต้องการจะเปรียบเทียบ ผมคิดว่าควรเปรียบเทียบโดยเลี่ยงเรื่องจำนวนชีวิตคนจะดีกว่าครับ ในกรณีนี้ผมคิดว่าก็ควรที่จะเทียบกับระบบ SOS อื่นๆด้วยกัน และเทียบในแง่อื่นๆที่ไม่ใช่จำนวนคน เช่น พื้นที่ที่ครอบคลุม ความเร็วในการเชื่อมต่อ ความทนทานของอุปกรณ์ ต้นทุน หรืออะไรทำนองนี้จะดีกว่าครับ
+1
ถ้าจะวัดมูลค่าชีวิตคนเป็นตัวเงินแบบจริงจัง ก็ต้องเป็นแบบ iphone ระบบนี้ช่วยชีวิตบุคคลระดับโลกหรือระดับประเทศครับ คนเดียวก็คุ้มได้เลยครับ
แต่ปกติไม่ควรมองแบบนั้นอ่ะครับ แล้วเรื่องนี้ติดอยู่กลางเขา สัญญานอะไรไม่มี ก่อนจะมี iPhone ไม่รู้ว่าคนพวกนี้ต้องรอความตายบนรถหรือมีอุปกรณ์อื่นขอความช่วยเหลือได้ ซึ่งไม่น่าจะมีไม่งั้นคงไม่ใช้บริการนี้ สมัยก่อนถ้าไม่ใช่บุคคลระดับสูงคงไม่ได้รับการช่วยเหลือไวแบบนี้
iPhone ส่ง data ไปยังดาวเทียมตรงๆ เลยรึครับ
ใช่ครับ cell site มือถือไม่ครอบคลุมพื้น เราก็ติดต่อตรงไปที่ดาวเทียมเลยครับ
อุปกรณ์ที่คล้ายๆ ยี่ห้ออื่นก็มีเช่น Garmin inReach
ถ้าหลงป่าแถวๆ ฟุจิยะมะนี่ทำไงครับ
อ่านปุ๊บ หิวคุกกี้กับสตาร์บัคส์ปั๊บเลยครับ
เรียกอุลต้าแมน มั้งครับ
โทรหา Dtac อาจจะได้ผลกว่าครับ
555ลั่นเลยครับ
อุลตราแมนคนไหนโปรดระบุ แต่น่าจะไม่ว่าง ไปปราบไคจูอยู่
5555 ตำนานเลย
เล่าได้ยันลูกหลาน
อ่าว ชาวพันทิปกันทั้งนั้นเลยหรอครับ 5555
อันนี้ผมไม่เก็ทครับ เคยมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
<—
มีอินฟลูเอนเซอร์ที่โด่งดังจากการรีวิวมือถือในยุค 1990 ปลายๆ - 2000 ต้นๆ คือดังมากนะ เรียกได้ว่ายืนหนึ่งคนเดียวในไทยเลยก็ว่าได้ จะว่าเป็นรุ่นบุกเบิกในไทยผมก็ไม่มีข้อกังขาเลย
เค้าทำบล็อกเล่าว่าหลงทางที่ป่าบริเวณรอบๆ เขาฟูจิในญี่ปุ่น แล้วได้รับการช่วยเหลือจากบริการ operator ในไทยเจ้านึงจนหาทางกลับที่พักได้ เล่ารายละเอียดดีมาก มีเหตุผลประกอบทุกจุด
การเล่ารายละเอียดแบบละเอียดมากๆ มันทำให้คนมองว่ายังไง? ผมไม่รู้ว่าจบยังไง หรือข้อเท็จจริงคืออะไร ผมมีคำตอบในใจของผมก็พอละครับ 5555 จบแบบทาคุมิ เทกระจาดกันไปเลย
ปล. หลังจากนั้นอินฟลูเอนเซอร์ก็ค่อยๆ ถูกหลงลืมในฐานะเจ้าพ่อแห่งการรีวิวมือถือ กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ "<ขนม>หลงป่า"
จนถึงตอนนี้เขายังบอกว่าไม่เคยโกหกเรื่องหลงป่าครับ
post รำลึกเมื่อปี 2013 - archive.org | archive.today
post เมื่อปี 2017 - archive.org | archive.today
เอาแบบคร่าว ๆ ก็ตามลิงก์นี้ครับ
คร่าวๆ?
มีกี่ลิงค์นั้น นั่นแบบละเอียดเลยนะ เหมือนสารบัญเลย
ตะ แต่นี่ลิงก์เดียวกับของผมข้างบนเลยนะครับ 🥲
ตอนแรกผมนึกว่าไม่มีอะไร คือถ้าไม่เปิด DevTools ก็ไม่เห็นเลยนะครับ 😶
ถ้าเม้นนี้ไม่บอกผมก็ไม่รู้ว่ามีลิงค์ครับ
😂
งงตั้งนานว่าลูกศรชี้อะไร ต้องเอา cursor ไปจ่อถึงเห็นเป็นลิงค์ 😂
นี่มันคอมเม้นดักแก่นี่นา
อ่าวเซงดันเก็ท ...
จะว่าไปโนเกีย Xpress Music วิ่งไป ฟังเพลงไปก็เพราะดีครับ
มี GPS น่าจะมีดาวเทียมนะครับ อันนี้อาจจะเป็นโฆษณา iPhone 14 ที่มาก่อนกาลก็เป็นได้!!!
สำหรับประเทศไทย ขอ Apple Pay ก่อนละกัน ลือมาหลายปีแล้ว
Apple Pay มาอย่าง "เร็วที่สุด" ปีหน้า อาจจะหลัง UOB เชื่อมระบบกับ Citi เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคงเป็นช่วงปลายปี ใกล้กับวันเปิด Apple Emsphere
ตอนนี้กลุ่ม apple pay ใน fb ลือกันว่ามกราครับ
ประเทศไทย คงอีกนาน การเมือง ยังไม่พร้อมรับอะไรใหม่ๆ
เอาจริงๆ ถึงส่ง SOS ไป เจ้าหน้าที่จะมาในกี่ชั่วโมง
ทุกทีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆกว่าจะวางขายในไทยก็นาน เป็นเพราะการเมืองนะครับ ไม่เกี่ยวกับทุน การผลิต หรือประชากรใดๆทั้งสิ้น เบื่อการเมืองจังอ่านเรื่องอะไรก็เกี่ยวการเมืองไปหมด
Android ปกติกดปุ่มบางปุ่มซ้ำ ๆ 3 - 4 รอบจะส่งข้อความ และอื่น ๆ (ด้วยหรือเปล่า) ไปหาเบอร์ที่เราตั้งค่าไว้ยามฉุกเฉิน ซึ่งสมัยก่อนผมกดผิดอยู่บ้างบางที ก็ไม่อะไร
แต่ครั้งล่าสุด ใช้ Xiaomi 11 วางไว้บนรถแล้วมันไปโดนปุ่ม power ของมือถือ 3 ครั้งมั้ง ก็ส่งข้อความไปหาแฟน หาน้องสาวเหมือนทุกที่ แต่ที่เพิ่มเติมมาคือ มันติดต่อ 191 เองอัตโนมัติ หรือส่งสัญญาณอะไรอย่างไงไปไม่ทราบ เพราะ 191 ในพื้นที่จังหวัดนั้น อำเภอนั้น โทรมาหาผมเอง แล้วบอกว่าได้รับการแจ้งเหตุฉุกเฉิน
ผมงงเลย แต่ก็ไม่กล้าทดลองใหม่ เพราะมันรบกวนหน่วยงานเขา ไว้เกิดอุบัติเหตุจริง ๆ คงได้ทดสอบอีกรอบ -*-
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
น่าจะใช่ครับ ใช้กรณีที่ต้องการกดฉุกเฉินไม่มีแรงที่จะกดเมนู หรือกดโทรได้ ใช้การกดปุ่ม(จริงๆ)ตามจำนวนครั้งที่ระบบตั้งไว้ (ถ้าของ iphone มีตั้งได้ 2 ตัวเลือกคือกดปุ่มด้านข้าง(power)+volume พร้อมกันค้างไว้ หรือกดปุ่มข้าง 5 ครั้งติด ๆ) แต่กรณีที่ทำแบบนี้ได้คือต้องมีสัญญาณโทรศัพท์
แต่จากข่าวนี้คือไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่ส่งข้อความผ่านดาวเทียมตรงๆครับ
มันมีโอกาสใช้งานได้เยอะครับ เช่น ทหารขอความช่วยเหลือในสงคราม
ชี้ตำแหน่งศัตรู
ขอความช่วยเหลือหลงป่า อุบัติเหตุบนท้องถนน ถูกจี้ปล้น ถูกกักขัง
แม้กระทั่ง แม่ๆยายๆหกล้ม เป็นลม หรือเกิดเหตุการไม่คาดฝันอื่นๆ
ทหารจริงอุปกรณ์หลายๆ ก็มีใช้อยู่แล้วนะครับ โทรผ่านดาวเทียม วิทยุสื่อสารภาคพื้นก็มีประสิทธิภาพอยู่ เรื่องเครือข่ายในอนาคตอาจจะดีกว่านี้ไปมาก
เคสนี้จริงแค่จับมาอยู่ในมือถือไม่ต้องหาอุปกรณ์แยกเลยดูสะดวกแย่งตลาดเจ้าถิ่นเดิมสบายเลย
เรียกบริการฉุกเฉินแบบนี้ ที่อเมริกานี่จ่ายแพงไหม หรือประกันจ่าย
เรียกรถพยายาล ประมาณๆ $1,000-1,500
บริการฉุกเฉินทางอากาศ แพงกว่า10-20เท่า
ประกัน health insurance มีให้เลือกเหมือนประกันรถเลย
เลือกได้ ต้องการcoverแค่ไหน
เอาแบบช่วยจ่ายบางส่วน หรือ เอาครอบคลุมหมดเลย
ค่าเบี้ยประกันรายปี ก็ราคาตามoptionที่เลือก
เสริมหน่อยของไทย
ค่าเรียกรถพยาบาลของรัฐ 1,200-1,500 บาท แต่จะ ฟรี กรณีเรียกจากเหตุฉุกเฉินจริง ในระยะ20ก.ม.(คนไข้หมดสติ-ขยับตัวไม่ได้ แบบนี้เรียกฟรี. ถ้าโดนหมากัดแล้วเรียกรถพยาบาลแบบนี่เสียตัง)
เอกชน ประมาณ 8,000 บาท
รถจำพวกมูลนิธิ เช่น ปอเต็กตึ๊ง บริการฟรี แต่ก็จะมารีดไถค่าสินน้ำใจจากญาติผู้ป่วยราวๆ1-2พัน
กรณีโทร 1669 จะประสานงานให้หน่วยงานรัฐใกล้ๆมารับ ก็มักจะฟรี
มันเป็นระบบ SOS ที่ดีมาก ๆ เลยนะ ถ้ามีใช้กันถ้านหน้าคงดีไม่น้อย คนรอบตัวผมไม่รู้เลยว่ามีระบบนี้ในมือถือ
ก็ยังไม่มีจริง ๆ ครับ (ในไทย) แหะ ๆ
อันนี้ไม่ใช่เหตุการณ์แรกนะครับ ก่อนหน้านี้มีข่าวการใช้งานที่อลาสก้าแล้ว ช่วงต้นเดือน
https://9to5mac.com/2022/12/02/use-of-emergency-sos/