Tags:
Node Thumbnail

Netflix พูดเรื่องระบบป้องกันการหารบัญชี มาระยะหนึ่งแล้ว และบอกว่าจะมีผลภายในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ โดยทางเลือกที่ให้คือผู้ใช้ต้องสร้างบัญชีแยก แล้วจ่ายเงินรวมกันเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ระบบดังกล่าว Netflix ทดสอบมาระยะหนึ่งแล้วในประเทศกลุ่มลาตินอเมริกา แต่คราวนี้ Netflix ให้รายละเอียดที่มากขึ้น ว่าแบบไหนเรียกว่าบัญชีหาร และตรวจสอบอย่างไร

โดย Netflix อัพเดตรายละเอียดกฎการใช้งาน ในกลุ่มประเทศที่เริ่มเปิดใช้ระบบป้องกันการหารบัญชีแล้ว เช่น เปรู ชิลี ซึ่งทำให้เห็นภาพมากขึ้น รายละเอียดดังนี้

  • Netflix อนุญาตให้หารบัญชีได้ แต่การรับชมต้องอยู่ภายในบ้านหลังเดียวกัน
  • ผู้ใช้งานต้องกำหนดจุดรับชมหลัก (Primary Location) โดยแนะนำเป็นทีวีที่ต่อ Wi-Fi และล็อกอิน Netflix ไว้ ระบบจะใช้ IP นี้เป็นหลักในการตรวจสอบ ถ้าไม่มีทีวีก็จะดูข้อมูล IP แต่ละอุปกรณ์แทน
  • อุปกรณ์ที่ชม Netflix ต้องเคยดูผ่าน Wi-Fi ที่เป็น IP เดียวกับจุดรับชมหลัก อย่างน้อยทุก 31 วัน เพื่อให้เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ (Trusted Devices) แต่หากถูกบล็อกด้วยเหตุผลใด จะต้องติดต่อ Netflix เพื่อขอปลดบล็อก
  • การรับชมนอกบ้านขณะเดินทาง ผ่านอุปกรณ์ที่แตกต่าง หรือไม่เคยต่อ Wi-Fi ที่จุดรับชมหลักมาก่อน เช่น ทีวีในโรงแรม ก็สามารถทำได้ โดยขอรหัสผ่านชั่วคราวเพิ่มเติม ใช้ดูได้เป็นเวลา 7 วัน
  • กรณีอยู่บ้านคนละหลัง แต่ยังต้องการแชร์ค่าใช้จ่ายกัน ให้ใช้วิธีสร้างบัญชีใหม่แยก และ Netflix จะคิดค่าบริการเพิ่มเติมจากเดิมอีกเล็กน้อย (ประมาณ 3 ดอลลาร์ต่อเดือน)

อัพเดต: Netflix ปรับปรุงเนื้อหาใน Help Center โดยลบ รายละเอียดการเชื่อมต่อทุก 31 วัน ขณะที่ตัวแทนของ Netflix ชี้แจงว่าการเปิดใช้ระบบป้องกันหารบัญชีจะเริ่มภายในไตรมาสนี้ (ที่มา: The Verge)

ที่มา: TechCrunch

Get latest news from Blognone

Comments

By: Pingz
ContributoriPhone
on 1 February 2023 - 23:41 #1276242

แล้วถ้าคนเดียวแต่มีที่อยู่หลายหลังจะทำไงเนี่ย
แบบนี้ดู netflix บน apple tv ในบ้านคนละหลังก็ดูไม่ได้สิครับ

By: meejaa on 2 February 2023 - 01:33 #1276249 Reply to:1276242

ทำใจ ทำใจ ทำใจ ตี้กันสนุกสนาน ตี้กันจนชิน จน บ. ขาดทุน พอเขาตั้งกฏหมาย คนที่ไม่ได้ตี้จริง ๆ ได้รับผลกระทบ มีแต่ ทำใจอย่างเดียว เหมือนกฏหมายที่ตั้งมาเพือป้องกันคนไม่ดี แต่คนดี ก็ซวยโดนไปด้วย

By: deaknaew on 2 February 2023 - 08:52 #1276265 Reply to:1276242

สงสัยต้องตั้ง vpn

By: shub on 2 February 2023 - 09:36 #1276274 Reply to:1276242

ทำได้สองเงื่อนไขจากข้างบนไง

การรับชมนอกบ้านขณะเดินทาง ผ่านอุปกรณ์ที่แตกต่าง หรือไม่เคยต่อ Wi-Fi ที่จุดรับชมหลักมาก่อน เช่น ทีวีในโรงแรม ก็สามารถทำได้ โดยขอรหัสผ่านชั่วคราวเพิ่มเติม ใช้ดูได้เป็นเวลา 7 วัน

กรณีอยู่บ้านคนละหลัง แต่ยังต้องการแชร์ค่าใช้จ่ายกัน ให้ใช้วิธีสร้างบัญชีใหม่แยก และ Netflix จะคิดค่าบริการเพิ่มเติมจากเดิมอีกเล็กน้อย (ประมาณ 3 ดอลลาร์ต่อเดือน)

By: ripzery
AndroidWindows
on 3 February 2023 - 11:04 #1276362 Reply to:1276242
  • มีที่อยู่หลัก ไปอยู่ที่อยู่อื่นไม่เกิน 7 วัน = ใช้ได้ปกติ
  • มีหลายที่อยู่ แต่ละที่อยู่เกิน 7 วัน = เปลี่ยน primary location ตามที่อยู่
By: Ximenez on 2 February 2023 - 00:22 #1276246

งั้นคงบายละ ดูเจ้าอื่นแทน T-T

By: best
iPhoneAndroid
on 2 February 2023 - 01:05 #1276248

สงสัยกรณีนี้ครับ

กรณีอยู่บ้านคนละหลัง แต่ยังต้องการแชร์ค่าใช้จ่ายกัน ให้ใช้วิธีสร้างบัญชีใหม่แยก และ Netflix จะคิดค่าบริการเพิ่มเติมจากเดิมอีกเล็กน้อย (ประมาณ 3 ดอลลาร์ต่อเดือน)

3 ดอลลาร์ต่อเดือน ต่อบ้านต่อ IPใช่ไหมครับ

สมมุติ ปกติ แชร์กัน 4 บ้าน เท่ากับ มี 4 IP แปลว่าถ้าจะให้ได้เหมือนเดิม คือ 3*3 เพื่อให้ เพิ่ม 3 บ้าน บ้านละ จอ ?

By: pepporony
ContributorAndroid
on 2 February 2023 - 07:43 #1276257 Reply to:1276248

ผมเข้าใจแบบนี้แหละ 1ID เสริม = 1 บ้าน

By: peakna
Android
on 2 February 2023 - 02:01 #1276251
peakna's picture

สงสัยเหมือนกันว่าทำไมทั้งๆที่เค้ารู้ว่าการแชร์บัญชีเป็นจุดขายที่ทำให้ Netflix กลายเป็น steaming ที่โตได้ไวและลูกค้าได้รับความนิยมมากกลับต้องมาคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ทั้งๆที่ก็เหมาจ่ายยิ่งบีบลูกค้าไปเจอทางตันสุดท้ายเจอเว็บเถื่อนดูดมาปล่อยฟรีไม่ยิ่งแย่กว่าเหรอครับ
ปล.ขอนอกประเด็นนิดนะครับผมคิดไปเองป่าวอยู่ๆ ภาพก็รู้สึกว่าชัดกว่าแต่ก่อนขึ้นมาเยอะเลย

By: mehn
iPhone
on 2 February 2023 - 12:12 #1276255 Reply to:1276251
mehn's picture

ปัญหาของ NF เท่าที่เห็นตอนนี้คือ ยอด account ไม่โตแล้ว (จากเดิมที่โตต่อเนื่องทุกปี) ในแง่การขยายตลาด NF มองว่าเพราะว่าคนดู 4-5 คนหารกัน account เดียว คือ 4-5 คนก็จริง แต่ระบบเห็นเป็นแค่ account เดียว (มองตามยอดชำระเงิน) NF เลยหวังว่าระบบใหม่นี้จะทำให้คนต้องสมัคร account แยกกัน โดยคิดค่าบริการเพิ่มอีกเล็กน้อย ซึ่งจริงๆ แล้วระบบคือยังหารกันเหมือนเดิม แต่ผู้ใช้ต้องไปสร้าง account แยก

ถ้ามองว่าคนครึ่งนึงที่มาหาร account หายไป เช่นจาก 5 คนหายไปเสีย 3 คน (หายไป 60%) ยังเหลืออีก 2 คน จากวิธีใหม่นี้จำนวน account ก็ยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอยู่ดี + รายได้ก็เพิ่มขึ้นเพราะ account หลักราคาเดิม + 3$ ที่เพิ่มมาจากคนที่มาพ่วง

By: meejaa on 4 February 2023 - 10:09 #1276407 Reply to:1276251

"ไปเจอทางตันสุดท้ายเจอเว็บเถื่อนดูดมาปล่อยฟรีไม่ยิ่งแย่กว่าเหรอครับ"

แล้ว เวบเถื่อนมันเอาหนังมาจากไหนละ??? คนที่เข้าไป webrip คิดว่าเขาจ่ายเต็ม ไอดีตัวเอง เพือเข้าไป rip หรอ?? ไอ้พวกนี้ มันอาศัยไอดีตั้งตี้ เวลาไป rip หนัง ต่อให้ไอดี โดนแบน มันก็ไม่สนใจ เพราะไม่ใช่ไอดีตัวเอง แถมเสียแค่ 1XX บาท ไม่เสียดายอะไร การตี้ นี่แหละ คือตัวการของเวบเถื่อน

By: sakuraba
Windows PhoneWindows
on 2 February 2023 - 08:39 #1276260
sakuraba's picture

ถ้าเดือนละ 100 หรือ 100++ ต่อ User แบบค่ายอื่น ก็ได้นะครับ
ปกติก็หาร 4 เหมือนกัน

By: Bound
Windows PhoneAndroidWindows
on 2 February 2023 - 11:06 #1276295

็เยอะเกินหนีไป HBO แล้วมาแบบนี้

By: wegang
ContributorAndroid
on 3 February 2023 - 00:00 #1276332
wegang's picture

Netflix จะทำระบบป้องกันการหารบัญชีแบบนี้ก็ทำไป ขออย่างเดียว Microsoft อย่าทำตามเชียวนะ Onedrive Family ปีละ 400 บาทของผม

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 3 February 2023 - 08:34 #1276342 Reply to:1276332
btoy's picture

ของ Microsoft ไม่น่าจะไปแนวทางนี้นะครับ เพราะผลิตภัณฑ์ของเค้ามีจำนวนคงที่ ทำให้คำนวณต้นทุนในการพัฒนาได้ง่าย ไม่เหมือน Netflix ที่ต้องเพิ่ม contents ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา


..: เรื่อยไป

By: iqsk131 on 3 February 2023 - 11:45 #1276373 Reply to:1276332

ถ้าดูจาก Xbox Gamepass ก็อาจจะพอวางใจได้ในระดับนึงครับ เพราะตอนนี้กำลังทดลองออกแพคเกจที่ชื่อว่า "Friends & Family" ซึ่งชัดเจนว่าออกแบบมาให้หารกับเพื่อนและครอบครัว

แล้วก็ Netflix กล้าทำเพราะเป็นเจ้าตลาดและมีผู้ใช้เยอะเป็นอันดับหนึ่ง การยอมเสียผู้ใช้ไปเพื่อแลกกับรายได้ที่มากขึ้นก็ดูสมเหตุสมผลอยู่ แต่ Xbox กับ Onedrive ที่ยังไม่ถึงขั้นเป็นเจ้าตลาดก็เลยคิดว่าไม่น่าจะยอมเสียผู้ใช้ไป ส่วน Office เข้าใจว่ามีระบบเช็คอยู่แล้วว่า Activate ได้กี่เครื่องเพราะงั้นคงไม่น่าทำระบบเช็คบ้านหรอกครับ

ผมคิดว่าตราบเท่าที่มันยังชื่อ Family ก็ไม่น่าจะทำระบบเช็คบ้านหรอกครับ เพราะมันไม่เมคเซนส์ที่จะทำ แต่ถ้าเปลี่ยนชื่อเป็น Home เมื่อไหร่ก็ตัวใครตัวมัน 55+

By: suriyan2538 on 3 February 2023 - 10:50 #1276359
suriyan2538's picture

ผมที่ชอบดูแบบพากย์ไทย

รู้สึกว่า พักหลังๆ มานี้ NF ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูสักเท่าไหร่ จนหนีไปดู Bilibili แทนแล้ว

By: mayWz
AndroidUbuntu
on 4 February 2023 - 09:53 #1276406

ออกนโยบายแบบนี้ ขอโปร 4K สำหรับ 1 หน้าจอ แบบไม่ใช่แพกเกจปัจจุบันด้วยครับ