Silicon Valley Bank (SVB) ธนาคารที่โฟกัสเรื่องการปล่อยกู้สตาร์ตอัพในสหรัฐ (เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1982) เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ต้องขายพันธบัตรและสินทรัพย์ในราคาที่ขาดทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์ (เด้งที่ 1) จนต้องนำเสนอขายหุ้นของธนาคารมูลค่า 2.25 พันล้านเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง (เด้งที่ 2)
ข่าวนี้ทำให้หุ้นของ SVB Financial Group บริษัทแม่ของธนาคาร ลดลงทันที 60% ในวันเดียว จากราคาปิดของวันก่อน 267.83 ดอลลาร์ มาปิดที่ 106.04 ดอลลาร์ และยังร่วงต่อในการขายหุ้นนอกเวลาทำการ (ขณะที่เขียนข่าวนี้ ราคาหุ้นเหลือ 76.80 ดอลลาร์)
นอกจากนี้ กองทุน venture capital บางราย (เช่น Founders Fund ของ Peter Thiel) ยังเริ่มแนะนำให้สตาร์ตอัพในเครือข่ายถอนเงินออกจาก SVB ทั้งหมดทันที หรือลดจำนวนเงินฝากลงเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการแห่ถอนเงิน (bank run) และมีลูกค้าหลายรายระบุว่าเริ่มถอนเงินออกไม่ได้แล้ว
Greg Becker ซีอีโอของ SVB บอกว่าธนาคารกำลังเพิ่มสภาพคล่องเพื่อรองรับการถอนเงิน แต่ถ้าหากลูกค้าทุกรายแห่กันมาถอนเงิน ธนาคารก็ลำบาก จึงขอให้ทุกคนไม่ต้องตกใจกัน
ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุเรื่องปัญหาของ SVB ชัดเจนนัก แต่เมื่อวานนี้เพิ่งมีข่าวธนาคารอีกแห่งคือ Silvergate Bank ซึ่งทำธุรกิจด้านคริปโต ประกาศปิดกิจการ คงไม่ใช่สัปดาห์ที่ดีนักของวงการธนาคารสายเทคโนโลยี
ที่มา - Financial Times, TechCrunch, Bloomberg
Comments
อาการนี้กลัวจะมีโดมิโน่เศรษฐกิจอเมริกาลูกใหม่แฮะ
เพราะธนาคารเอาเงินมาแลกกงเต๊กคริปโต (เช่น แซม FTX) แล้วคนแลกได้เงินก็เอาไปผลาญทิ้งเล่นๆไม่มีรายได้ส่งกลับเงินหมดก็กู้อีกด้วยกงเต๊กดิจิตอล
จนสุดท้ายขาดสภาพคล่องกันเป็นลูกโซ่เพราะยืมส่งกันเป็นทอดๆ? (รวมถึงแอบดึงเงินลูกค้าไปใช้เอง)