จากกรณีธนาคาร Silicon Valley Bank ถูกสั่งปิด และให้ FDIC หน่วยงานดูแลคุ้มครองเงินฝากเข้ามาจัดการสินทรัพย์ต่อ ได้สร้างผลกระทบอย่างน้อยสองด้าน ด้านหนึ่งคือผลกระทบในกลุ่มธนาคารที่มาจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่อีกด้านหนึ่งที่อาจกระทบต่ออุตสาหกรรม Tech และสตาร์ทอัพ นั่นคือหลายบริษัทฝากเงินไว้ที่ Silicon Valley Bank แห่งนี้
Silicon Valley Bank หรือ SVB ก่อตั้งในปี 1983 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยวางกลยุทธ์เป็นธนาคารสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน VC หรือ Venture Capital รวมทั้งเพิ่มบริการทางการเงินเพื่อรองรับกระบวนการเพิ่มทุนของ VC โดยเฉพาะ เน้นการปล่อยสินเชื่อกับบริษัทด้านเทคโนโลยี
Roku ผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ที่เปิดเผยผลกระทบจากกรณี SVB แล้ว โดยยื่นเอกสารกับ SEC ระบุว่าในงบดุลบริษัทมีการถือครองเงินสดและรายการเทียบเท่าประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 10 มีนาคม โดยรายการนี้มูลค่าประมาณ 487 ล้านดอลลาร์ ฝากไว้กับ SVB คิดเป็น 26% ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่เงินฝากที่ได้รับการคุ้มครอง ส่วนที่เหลือฝากไว้กับสถาบันการเงินรายใหญ่อื่น Roku บอกว่าบริษัทยังไม่ทราบชัดเจนว่าจะสามารถไถ่ถอนเงินนี้ออกมาได้หรือไม่ แต่เชื่อว่าด้วยเงินสด รวมกับกระแสเงินสดที่มีตอนนี้จะเพียงพอสำหรับการดำเนินงานโดยไม่กระทบปัญหาใด ๆ อย่างน้อย 12 เดือน หรือมากกว่านั้น
ทั้งนี้กระบวนการคุ้มครองเงินฝากของ FDIC ระบุว่าผู้ฝากเงินจะได้รับการคุ้มครองส่วน 250,000 ดอลลาร์แรกต่อบัญชีธนาคาร ซึ่ง FDIC บอกว่าจะไถ่ถอนได้ไม่เกินวันที่ 13 มีนาคม ส่วนกลุ่มเงินฝากไม่ได้รับการคุ้มครอง จะจ่ายดอกเบี้ยล่วงหน้าให้ก่อนภายในสัปดาห์หน้า
TechCrunch รวบรวมกรณีจากสตาร์ทอัพหลายแห่งต่อเหตุการณ์ SVB เช่น บริษัทหุ่นยนต์ Polymath Robotics ผู้ก่อตั้งตัดสินใจโอนเงินของบริษัท 50% ที่อยู่ใน SVB ไปธนาคารอื่นทันที หลังเห็นข้อความเตือนใน WhatsApp กลุ่มของ Y Combinator และพยายามโอนส่วนที่เหลือในวันต่อมา แต่ก็ไม่ทันเพราะธนาคารถูกสั่งปิดแล้ว ซึ่งปัญหานี้อาจส่งผลระยะสั้นต่อการจ่ายเงินเดือนด้วย สำหรับบริษัทที่ใช้บัญชีเงินเดือนพนักงานกับ SVB
ยังมีกรณีของ Camp สตาร์ทอัพอีคอมเมิร์ซขายของเล่น ประกาศแบบตรงไปตรงมาว่าธนาคารที่บริษัทใช้บริการได้ปิดกิจการลง จึงตัดสินใจลดราคาของทุกอย่างในเว็บ 40% เมื่อใส่โค้ด BANKRUN เพื่อหาเงินสดเข้าบริษัทเพิ่มเติม
Promo code: BANKRUN 🙃 pic.twitter.com/P3l0EXh8jn
— Dan Frommer (@fromedome) March 10, 2023
หรือกรณีของ Rebundle สตาร์ทอัพพัฒนาผมถักสำหรับต่อผม ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฝากเงินทั้งหมดไว้ที่ SVB และไม่สามารถถอนออกมาได้ทัน อย่างไรก็ตามบริษัทยังมี 250,000 ดอลลาร์แรกที่ได้รับการคุ้มครอง ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะเพียงพอสำหรับการดำเนินงานนานแค่ไหน
Zach Tratar ผู้ก่อตั้ง Embra ทวีตว่าต่อให้บริษัทนั้นไม่มีเงินฝากใน SVB แต่ผลกระทบต่อวงการสตาร์ทอัพก็จะขยายวงจากนี้ เช่น หากอยู่ระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการ ดีลก็ต้องเลื่อนออกไป, หากอยู่ในขั้นตอนสเตจเพิ่มทุน ก็ต้องเลื่อนไปเช่นกัน หรือบริษัทที่มีเงินฝากในนั้น ไม่น่าจะจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ตามกำหนด
ที่มา: TechCrunch, CNBC ภาพ Instagram: @siliconvalleybank
ภาพประกาศแจ้งปิดที่หน้าธนาคาร SVB
Banking regulators shutter SVB, collapse unnerves investors https://t.co/MPZRag23Fx pic.twitter.com/iMeTkc9PpQ
— Reuters (@Reuters) March 10, 2023
Comments
เหตุการณ์แบบนี้ย้ำอีกรอบว่า "เงินฝากไม่ใช่เงินสด" (แม้จะใกล้เคียงกัน) แต่เป็นหนี้ที่ธนาคารมีต่อเรา ธนาคารเป็นลูกหนี้ ธนาคารเบี้ยวได้
lewcpe.com, @wasonliw
+1
เอาเงินฝากไว้กันคนอื่นอิอิ