ดราม่าไม่เคยจางกับซีรี่ส์ Final Fantasy ล่าสุด คุณนาโอกิ โยชิดะ หรือฉายาโยชิพี โปรดิวเซอร์ของเกม Final Fantasy XVI ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการสารคดีสั้นในญี่ปุ่น ว่าเขารู้สึกเหนื่อยกับผลตอบรับในแง่ลบที่ไร้อารยะจากเทรลเลอร์ของเกมก่อนวางจำหน่าย
คุณโยชิดะได้เล่าว่า “มีคนมากมายมาตะโกนด่าผม เป็นคนที่ไม่เคยพบเจอหรือพูดคุยด้วยกันมาก่อน ซึ่งผมสงสัยว่า ผมไปทำอะไรให้ บางทีคนพวกนั้นอาจจะเขียนหรือพิมพ์มันขึ้นมาจากมุมมองร้าย ๆ เฉย ๆ ซึ่งมันน่าเบื่อมาก”
ผลตอบรับของ Final Fantasy XVI ปัจจุบันมีคะแนนเฉลี่ยจากเว็บรวบรวมการวิจารณ์เกมอย่าง Metacritic อยู่ที่ 87/100 คะแนน ในขณะที่คะแนนผู้เล่นอยู่ที่ 8.2/10 ตัวเกมได้รับคำชมว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับเกมซีรี่ส์นี้ แต่ก็มีผลตอบบางส่วนบอกว่าตัวเกมขาดความเป็น Final Fantasy จากการที่เลือกเปลี่ยนจากเกม RPG มาเป็นเกม Action ซึ่งในไทยเราก็มีดราม่าของเกมนี้ออกมาให้เสพอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นแหวนตัวช่วยเล่นทำให้สมดุลของเกมเสียหรือไม่ หรือการถกเถียงว่าระบบของเกมมีความลึกตื้นหนาบางเพียงใด
ภาพคุณนาโอกิ โยชิดะ จากงาน The Game Award 2022
ที่มา - Games Radar
Comments
ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องมัน Dark ไปหน่อย อย่างอื่นผ่านหมด
เรื่องแหวน ผมว่าตลกมาก
มันก็เหมือน easy mode ถ้าอยากให้เกมมันยากก็ถอดออก
แต่ที่งงกว่าคือคนที่ใส่แหวนแล้วบอกว่าง่าย กดปุ่มเดียวผ่าน?
ผมยังไม่ได้เล่น ไม่ได้ดูสปอย ไม่ได้ตามดราม่า แต่เห็นข่าวแกบ่อยมาก จนตอนนี้คิดว่าเกมมันไม่ดีจริงๆ หรือแกรับมือปัญหาไม่ดี หรือปลงไม่ตกไม่ยอมรับความจริง
ยอมรับความจริงไม่ไหว
ดราม่าเยอะมาก ตอน metacritic ก็โดนคนเล่นรีวิวบอร์มไปเยอะ ตกไปแถว 70 จนเวบต้องลบพวกรีวิว negative ออกคะแนนออกมาเลย 80 ขึ้น
ตอน FF15 ทาบาตะก็ไปสัมภาษณ์ พูดตำหนิใส่แฟนๆFF ที่ติเรื่องเกมว่าเป็นพวก 「FF病」 (ตอนเกมขาย Amazon โดนรีวิวบอม 1* เพียบเพราะเกมมันทำไม่เสร็จ)
พอมา FF16 โยชิดะเลยซวยเหมือนพวกที่เคยโดนทาบาตะว่ามาเอาคืน...แต่ก็อาจมีที่มาอื่นๆอย่าง
เปลี่ยนสไตล์เกมไปเป็นคนละแนว
เนื้อเรื่อง-เสียงพากย์อิงฝรั่ง ไม่อิงญี่ปุ่นลิปซิ้งไม่ตรง
อยากเปิดตลาดกลุ่มใหม่ แต่ลง exclusive เครื่องเดียว เครื่องที่เด็กญี่ปุ่นรุ่นใหม่ไม่สนใจกัน
ทำเกมเอาใจตะวันตกมากเกินไปไม่เห็นหัวคนชาติตัวเอง
พฤติกรรมค่าย SE เอง ที่ทำให้เป็นเป้าถล่มตามอินเตอเนตของคนญี่ปุ่น
พอมีข่าว โยชิดะบอกความเห็นคนญี่ปุ่นมีแต่แง่ลบ ผิดกับคอมเม้นท์ต่างชาติ เลยเหมือนราดน้ำมันเพิ่มเม้นท์กับเป็นหมื่นคอมเม้นท์ตามอ่านไม่ไหว
ช่วงนี้ลองเข้าเวบญี่ปุ่นอ่านเกี่ยวกับ FF16 นี้มีแต่คอมเม้นท์แง่ลบเยอะและตอบกันเยอะมาก
เสียดายเนื้อเรื่องช่วงสุดท้ายแผล่วไปหน่อย
ทั้ง ๆ ที่กำลังพีคช่วงไททันกับบาฮามุท พอเข้าเฟสโอดีกับอัลติมาเหมือนงบหมด ถ้าขยี้ได้อีกจะสมบูรณ์แบบด้านเนื้อเรื่องมาก
แผล่ว > แผ่ว
กลับมาหน้าแข็งเหมือนงบหมด
ตอนปลดอิฟรีท กับ ได้การูด้ามาด ผมว้าวมากนะคอมโบก็พอได้ สนุกมาก
ก็ต่อคอมโบสนุกๆได้ แต่ DMC 4-5 มันก็เริ่มฟาร์มมณีแดงจนคอมโบยาก อย่าง 5 นี่
ไม่ฟาร์มก็เลิกคิดเรื่องคอมโบเลย
ต่อเชนยากมาก (หมั่นไส้ปรับง่ายเล่นเอาเนื้องเรื่องก็ได้ฟระ)
ประมาณนี้คิดว่าหยุดยาวน่าจะซัดจบได้.....(มั้ง ?TTWTT)
ไม่แน่ใจว่านอกเรื่องมั้ย ถ้าคนที่ยังยึดติดกับบรรยากาศ FF ยุคเครื่องแฟมิคอม/SFC (FF1-6) เราจะเรียกคนเหล่านี้ว่าเป็นสลิ่มไฟนอลฯ ได้ไหมครับ
กินนมแล้วนอนเยอะๆ
รำคาญชิบเป๋งที่ต้องเอาเรื่องการเมืองมาผสมมันทุกอย่าง เล่นเฟสทุกวันนี้ต้องไล่ปิด ไล่บล๊อคจนเบื่อ
ขอที่ว่างให้คนเบื่อการเมืองบ้างได้มั้ย?
คลั่งมาก ไปสิงบอร์ดการเมืองล้วนๆเถอะ หรืออย่างน้อยก็ไปพล่ามการเมืองในหัวข้อที่มันเกี่ยวข้องหน่อย
รำคาญชิบเป๋ง!
ผมว่าก็ใจเย็นๆกันหน่อยเถอะครับน่าๆ เค้าใช้คำพูดผิดก็
เตือนกันดีวๆ นะๆ
อ่านบริบทดีๆ ไม่ใช่แค่มีคำว่าสลิ่ม คำเดียวในประโยค ก็เหมาเอาไปโยงการเมืองแล้ว
มันจะกลายเป็นคุณเองที่พยายามโยงเข้าการเมือง
เด็กรุ่นใหม่เขาไม่ได้ใช้คำว่าสลิ่มกับการเมืองอย่างเดียวแล้วนะครับ คำมันกลายไปเป็นว่าคนที่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ คนมาติอะไรก็ไม่ยอมรับนะครับ เหมือนเคยเห็นคลิปที่มีการพูดถึงคำพวกนี้ด้วยนะครับถ้าหาเจอจะเอามาแปะให้อีกทีนะครับ
คงจะไม่ได้อัปเดตข้อมูลสินะครับ ตอนนี้คำว่า "สลิ่ม" เป็นคำที่ใช้แทนค่ำว่า ติ่ง หรือ พวกคลั่ง สิ่งใดสิ่งหนึ่งจนไม่ลืมหูลืมตาแล้วครับ ไม่เกี่ยวกับการเมืองใดๆ แล้วครับ
รำคาญชิบเป๋งที่อยู่ๆ ก็ไปว่าคนอื่นทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรตัวเองเลย.
fyi.
The Dream hacker..
รำคาญก็แนะนำให้จัดการที่ตัวเองได้ครับ :)
ສະບາຍດີ :)
คำว่าสลิ่มถ้าใช้กับบริบทนี้ผมว่าไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองเลยนะ
เป็นคำเรียกกลุ่มคนที่แบบเชื่อมั่นยึดมั่นในความคิดตัวเองแบบสุดโต่งจนไม่ฟังเสียงคนอื่นเลย
มันเป็นคำที่เกิดจากการเมืองก็จริงแต่ก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้แค่ในวงการเมือง
ถามว่าก่อนที่จะเป็นคำจากการเมืองมันก็เคยเป็นชื่อเรียกขนมหวานมาก่อนมั้ย
แล้วขนมหวานมันเกี่ยวกับการเมืองมั้ยละคิดง่ายๆ แล้วทำไมคำนี้จะต้องใช้แค่การเมือง
ใช้คำว่าแฟนบอย/เดนตาย เถอะครับ
สลิ่มก็แรงเกิ๊นนนนนนนน
เอาจริงๆนะ FF7R มันคือการผสานที่ลงตัวสุดละ
สำหรับผมตั้งแต่ 13 15 7R 16
คำนี้ยังดูเป็นคอเกม แฟนบอย/เดนตาย/แฟนคลับ
คำว่า สลิ่ม เอาจริง นี้ก็คิดถึงการเมืองเหมือนกัน เพราะคำนี้ก็ใช้ด่าคนที่มีความคิดเห็นต่างจากตัวเอง
ถ้างั่นมันก็สลิ่มกันทุกคนแหละมั่ง ไม่มีใครความคิดเหมือนกันจริงๆหรอก ไม่แม้กระทั่งแฝด
เท่าที่อ่านความเห็นในโซเชียล บางคนนี่ยิ่งกว่าคำว่าแฟนเดนตายด้วยซ้ำ ก็คือลักษณะตามที่เม้นบน ๆ ว่าไว้ ถ้าผมใช้คำแรงไปก็ขออภัยด้วยครับ 🙏🙏🙏
คนอื่นผมไม่รู้นะ แต่ส่วนตัว "สลิ่ม" ไม่ใช่คนเห็นต่างครับ
"สลิ่ม" คือน้ำเต็มแก้ว ไม่พร้อมรับฟังเหตุผลใดๆ ตัวเองถูกเสมอ โลกหมุนรอบตัวเอง
มันก็ไม่มีใครคิดว่าตัวเองผิดหรอก จะหาเหตุผลให้ตัวเองเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่เสมอไม่ว่าจะคนที่ถูกด่าว่าสลิ่มหรือคนที่ด่าคนอื่นว่าสลิ่ม เพราะงั้นการเถียงกันเรื่องความคิดมันไม่มีวันจบสิ้น ตราบใดที่มนุษย์โลกยังมีความคิดที่ต่างกัน
ถ้าคุณยัง "หาเหตุผล" คุณไม่ใช่สลิ่มครับ
เพราะสลิ่ม ไม่ต้องการเหตุผล
เหตุผลที่เหมือนจะมีความหมายไม่เท่ากันเวลาคุย 🥲
คำว่าสลิ่มความหมายมันบิดไปหน่อยแล้วครับ ล่าสุดที่ update คือคำมันกลายเป็นมีความหมายว่าศรัทธากะสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะไม่ยอมรับคำต่อว่าใด ๆ เช่น สลิ่มiPhone สลิ่มAndroid สลิ่มส้ม สลิ่มแดง(ก็มีนะ) ตอนแรกผมก็งงว่าทำไมกลุ่มคนคนละขั้วมารวมกันมันแปลว่าอะไร แต่พอเข้าใจความหมายก็พอได้อยู่
ผมเองก็ชอบ 1-6 นะ (ชอบ 7 ด้วย) แต่ก็ไม่ได้ไปคอมเม้นด่าว่าอะไรภาคใหม่นะ อ่านแล้วเหมือนโดนเหมารวม
งั้นขอคำตรงข้ามที่จะใช้เรียกคนที่เห็นดีเห็นงามกับการที่เจ้าของเกมเอาเกมไปปู้ยี่ปู้ยำ (แบบอีล่อนกับทวิตเตอ) ด้วยครับ กะหรี่ได้ไหม?
แสดงว่าคุณไม่ได้ยึดติดบรรยากาศไฟนอลภาค 1-6 จนแอนตี้ภาคใหม่ ๆ ฉะนั้นจึงไม่ใช่สลิ่มตามนิยามนี้ ส่วนภาคล่าสุด ถึงจะมีการอ้างถึงและเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบบางอย่าง (เช่น เปลี่ยนสาว ๆ Magus Sisters เป็นหนุ่ม ๆ Mageth Brothers) แต่ก็ห่างจากคำว่า "ปู้ยี้ปู้ยำ" ไปมาก และคำว่า "กะหรี่" ก็ไม่ค่อยตรงบริบทเท่าไหร่
ว่าตามบริบทการเรียก "สลิ่ม" ให้บุคคลอื่น(ไหนจะไม่ได้สนิทกันอีก)
มันกลายเป็น
คำ racist เหยียดในรูปแบบหนึ่งไปล่ะ
(เหมือนการล้อชื่อพ่อชื่อแม่ กับเพื่อนในห้อง นั่นก็จุดเริ่มต้นการบลูลี่รูปแบบหนึ่ง )
เพราะ เจตนาผู้ใช้ ก็รู้แก่ใจกันดีนะ
ถ้าเอาไว้ใช้ด่าผู้อื่น เหมือนกับสัตว์มีเขา และอวัยวะของสัตว์ ที่ใช้เรียกกลุ่มการเมือง อันนี้แน่นอน แต่เด็กรุ่นใหม่บางคนก็ใช้เรียกตัวเองว่าเป็น "สลิ่ม(ชื่อไอดอลที่ตนชอบ)ตลอดปัย" มันแล้วแต่บริบทจริง ๆ แต่ถ้าคุณคิดว่าคำ "สลิ่ม" มันแรงไปเพราะอ่านแล้วมีเสียงแห่งความเหยียดโพล่งออกมา ผมก็ขออภัยและจะเลิกใช้คำนี้ในบริบทของเกมด้วย
เพิ่งเคยเห็นการใช้ สลิ่ม ในบริบทที่ไม่ใช่การเมือง 🤔
ทำแบบเดิมก็คงบอกไม่ปรับตัว ทำแบบใหม่ก็บอกไม่มีความดั่งเดิม
เสียเวลาเปล่านะฟังแฟนบอย เหมือนสนิมเกาะกินมากกว่า
ส่วนตัวคือกลับไปเล่น turn-based แบบATBไม่ได้แล้วอะ ถ้าเป็น RTB แบบ7re พอได้อยู่
ข้อเสียคือ คัดซีนเยอะมากกกกก ถ้าเล่นแบบข้ามคัตซีนก็คือเล่นไว้ขึ้นเยอะมาก มอนต่างๆ ก็ไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่รู้เพราะติดกับเกมอื่นๆ ที่ไปฟาร์มมอน หาของบ้างไรบ้าง หรือว่าจริงๆ FF มันก็ไม่ได้ฟาร์มของอยู่แล้วปะนะ
สรุปเกมดี ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเวอร์อะไร ใครอยากเล่นเอามันส์ ก็ได้ ใครอยากเล่นเอาเนื้อเรื่องก็ได้ ใครอยากเล่นเอาความท้าทายก็ได้ แล้วคนที่บูลลี่คนที่ใช้แหวนก็หยุดเถอะ และ คนที่ใช้แหวนเล่นแถมเล่นโหมดเนื้อเรื่องแล้วด่าเกมกาก ไม่ต้องใช้สมองเล่น ก็หยุดเถอะ
The Dream hacker..
ส่วนตัวผมรู้สึกว่าปัญหาของแกคือการรับมือเรื่องเหล่านี้ได้ไม่ดีพอยังไงก็ไม่รู้แฮะ
ผมมองว่ายังไง hater gonna hate อยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เพราะงั้นการรับมือกับเรื่องพวกนี้ก็คือการไม่ตอบโต้โดยตรง ถ้ามัวแต่ไปใส่ใจและตอบโต้กับข้อความพวกนี้ก็จะยิ่งได้ใจ hater ไปเปล่าๆและยังอาจส่งผลให้ลูกค้าคนอื่นๆรู้สึกกังวลอีกด้วย แถมยังสุขภาพจิตตัวเองเสียอีก
ปล. ไม่ได้บอกว่าต้องไม่รับฟังคำติชมนะ คำติชมก็เรื่องนึง ข้อความ toxic จาก hater ก็อีกเรื่องนึง
+1 เห็นด้วยครับ ผมที่ตั้งใจแต่แรกว่าจะหลบสปอย ไม่ตามดูตามอ่านอะไร พอลง PC จะได้ซื้อมาเล่น ตอนนี้กลายเป็นกังวลลังเลว่าถึงตอนนั้นจริงจะซื้อมาเล่นดีไหม สุดท้ายก็ต้องไปตามหาข้อมูลว่าเรื่องของเรื่องมันคืออะไรกันแน่
ลองไล่อ่านดูก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ คะแนนเกมก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น เหมือนจะเป็นที่ตัวแกเองรึป่าวที่อาจจะตั้งความหวังว่ามันต้องเพอร์เฟคทุกอย่าง พอไม่เป็นอย่างทีคาดมีคนมาติมาท้วงก็รับมือแบบผิดวิธี ทั้งที่จริงแล้วมันไม่น่าจะใช่เรื่องอะไรที่จะเอามาดราม่าเลย เรื่องพื้นๆ ที่ทุกเกมน่าจะต้องเจอด้วยซ้ำ
แต่ละคนก็มีความเซ้นซิทีฟต่างกัน โยชิดะจะแนวๆแคร์เสียงผู้เล่นมากเพราะงั้นเวลามีfeedbackจากผู้เล่นโยชิดะจะรับฟังเก็บไปคิดไปแก้ไขตลอดไม่ignoreกับfeedbackที่ได้รับมา แน่นอนว่าเกมipใหญ่ระดับนี้เสียงมันทั้งเยอะและดังมากเค้าฟังมาเยอะก็เสียใจมันก็ต้องระบายออกมาแหละ คนที่สามารถรับมือhaterได้ดีถ้าไม่เป็นพวกignoreก็เป็นแนวอีโก้หนาจัดๆซึ่งก็ไม่ตรงกับบุคคลิคของโยชิดะเลย ผมว่าแกเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วถ้าได้ทำภาคหน้าแกก็จะเก็บfeedbackเหล่านี้ไปปรับปรุงปัญหาของภาคใหม่แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ทำรึเปล่าอะนะเหมือนว่าตำแหน่งตอนนี้จะได้เลื่อนเป็นผู้บริหารแล้วไม่ได้ลงมาทำเองโดยตรง
ตามที่ผมย้ำไว้ในปล.ครับ.. ว่าการ ignore hater ไม่ได้หมายถึงให้ ignore feedback
การรับฟัง feedback ต่างๆเป็นเรื่องดีครับ แต่ feedback ที่ไม่สร้างสรรค์จาก hater นั้น น้อยมากที่จะมีคุณค่าให้รับฟัง และมันแทบไม่มีคุณค่าใดๆให้โต้ตอบเลยครับ เอาเวลาไปโต้ตอบกับลูกค้าคนอื่นดีกว่า ซึ่งนี่ไม่ใช่การ ignore หรืออีโก้สูงแต่อย่างใดครับ เรียกว่าการรับมือลูกค้าแบบมืออาชีพมากกว่า
แน่นอนว่าทุกคนมีความรู้สึกเสียใจเมื่อได้รับคำติ(ไม่ว่าจะสร้างสรรค์หรือไม่ก็ตาม)และบางครั้งก็อยากระบาย แต่การระบายออกสื่อมันไม่ได้ส่งผลดีใดๆกับธุรกิจเลยครับ (กลับกัน ยิ่งระบายว่าตัวเองเสียใจมันก็ยิ่งเข้าทางพวก hater เข้าไปใหญ่ด้วยซ้ำ) และนี่คือสิ่งที่ผมมองว่าแกยังรับมือได้ไม่ดีพอครับ
เรื่องพูดอะใครๆก็พูดได้ว่าทำแบบนั้นดีแบบนี้สิดี
ความเป็นจริงคนเรามันมีอารมณ์ความคิดอยู่ แต่ละคนก็มีความรู้สึกต่างกัน
ยิ่งเป็นคนที่แคร์feedbackมากเค้าก็ยิ่งรู้สึกมาก
ธุรกิจมันไม่ได้บอบบางถึงขนาดจะเสียหายจากที่โยชิดะระบายออกมามากขนาดนั้นหรอก
ผมมองว่าเค้าได้ระบายออกมาบ้างมันก็เป็นผลดีต่อสุขภาพจิต
จะมองว่ารับมือไม่ดีไม่เก่งมันก็ถูกครับ
แต่ผมก็มองว่าการที่โยชิดะออกมาระบายมันก็มีข้อดีของมันอยู่
แล้วผมก็ชอบแกตรงที่เป็นคนแบบนี้ ไม่ได้ชอบที่โยชิดะใจหินใจแกร่ง
ถ้าติดตามแกมานานจะรู้ว่าแกทุ่มเทกับงานหนักขนาดไหน
รับfeedbackแย่ๆมาก็เยอะไม่ใช่ครั้งแรก
เวลามีอะไรผิดพลาดก็ออกมาก้มหัวร้องไห้ขอโทษออกไลฟ์ด้วยซ้ำ
เพราะงั้นถึงเข้าใจว่าแกไม่สามารถปล่อยวางความคิดแย่ๆออกจากหัวไปได้
ถึงอยากให้แกสุขภาพจิตดีขึ้นสักหน่อยก็ยังดี
ไม่ใช่มานั่งห่วงผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆของบริษัทจนเป็นบ้าไปก่อน
การระบายไม่ได้มีเพียงแค่ระบายออกสื่อแค่วิธีเดียวนะครับ
และอย่างที่บอก นอกจากเรื่องธุรกิจแล้ว การระบายออกสื่อมันจะยิ่งทำให้ความคิดเห็น hater หนักขึ้นอีก (เพราะรู้ว่าอีกฝั่งอ่าน) ถ้ายังไม่สามารถจัดการกับความคิดตัวเองได้ มันก็จะยิ่งหนักเข้าไปอีกครับ
ท้ายที่สุดแล้ว ผมก็แค่วิเคราะห์การกระทำว่ายังรับมือได้ไม่ดีเท่านั้นเองครับ ไม่ได้มีอะไรลึกไปกว่านั้นเลย (และคุณก็เห็นด้วยว่ายังรับมือไม่ดี ประเด็นของผมก็จบแค่นั้นแหละครับ) ผมรู้อยู่แล้วว่าการจัดการกับความรู้สึกและควบคุมอารมณ์มันทำได้ยาก ผมก็ไม่ได้มั่นใจว่าผมจะทำแบบที่ผมบอกได้ถ้าเจอกับผมเองด้วยซ้ำ และถ้าหากผมได้เจอคุณโยชิดะผมก็ไม่คิดจะพูดกับเขาตามสิ่งที่ผมพิมพ์อยู่แล้วครับ
+
พึงระลึกไว้เสมอว่าเราทำงานในฐานะบริษัท ที่ธรรมดาก็ไม่มีสิทธิส่วนบุคคลอยู่แล้ว เพราะบริษัทเป็นเพียงนิติบุคคล การแสดงออกความรู้สึกควรเก็บไว้แสดงในพื้นที่สื่อส่วนตัวมากกว่าที่จะใช้สื่อมวลชน มันกระทบไม่ใช่แต่กับตัวบุคคลแต่กับคนอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกันในองค์กรอีกด้วย องค์กรล่มเพราะคน ๆ เดียวเกิดขึ้นมานักต่อนักแล้ว
จริงๆลองทำ FF17 กลับมาเป็น turn-base แบบคลาสสิคเลย กราฟฟิกสวย ตัดฉากสู้
ถ้าขายไม่ดี จะได้เอายอดขายยัดปากพวกอนุรักษ์นิยมไปเลย
เออ .. บ.เขาจะเจ๊งแล้วเจ๊งเลยเอานะ
ได้ Final สมชื่อ ไม่มีโอกาส FF18 แก้มือ
ก็เขาไม่ชอบแอคชั่น เลยมาเล่น DQ FF กันไม่ใช่เหรอ
มาแนวนี้ เท่ากับผลักคนที่เล่นมา 10 กว่าภาคทิ้งไป
ทั้งๆที่เป็นฐานหลักมาแต่แรก
อย่างน้อย ตอน New game ก็แยกโหมดไป โหมดนี้แอคชั่นจ๋า DMC กันไป
ผมว่า FF กับ DQ ภาคใหม่ๆ มันไปคนละทางกันนะ FF มันเปลี่ยนเกมเพลย์ตามสมัยนิยมไปเรื่อย ตรงข้ามกับ DQ ที่ภาคหลักยังใช้เกมเพลย์แบบอนุรักษ์นิยมแบบเก่า
คิดว่าคนที่ชอบเทิร์นเบสคงหนีไปเล่นเกมอินดี้กันหมดแล้ว
มีให้เลือกหลากหลาย เนื้อเรื่องดี ระบบน่าสนใจ แถมกราฟฟิก 2Dยังสวยกว่าเยอะ สวยกว่าOctopathที่โครตมืดแถมสีแสบตาอีก
ตอนนี้ฟาร์ม AP อยู่เพื่อถ้วยแพลต เหลือแค่ถ้วยจบเกมกับมาสเตอร์ทุกอบิลิตี้ และพิชิตทุก trail กับสะสมของ
ความรู้สึกคือครึ่งแรกทำดีนะ พอข้ามมาแดน Ash เท่านั้นแหละ อีหยังวะ คนละเกรดเลย อารมณ์เหมือนทำไม่เสร็จงบหมด แมพเอาพอหอมปากหอมคอพอ สตอรี่ที่เส้นตรงอยู่แล้วยิ่งตรงแหนวไปอีก คล้ายๆ Tales of Arise คือดีงามมากแต่พอหลังตีเมืองแห่งดินได้ลอร์ดโดลาไฮม์มาร่วมตี้ ไปเมืองลมก็เริ่มเอ๊ะ เมืองน้ำยิ่งมั่นใจ พอจบพาร์ทแรก พาร์ทสองข้ามโลกเท่านั่นแหละ เหมือนทำไม่เสร็จแน่ๆ รีบเข็นออกมาขาย
สรุปคือสนุกกว่า XV แต่ไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุด และก็ไม่แย่ที่สุด ได้แพลตง่ายกว่าFF7 re เยอะ เพราะไม่ต้องโหนบาร์ ไม่ต้องเล่นซ้ำไปซ้ำมาเก็บชุดแอริธ(ชุดแต่งหญิงคลาวด์ด้วย)