ตำรวจฮ่องกงแถลงข่าวจับกุมเหตุฉ้อโกงครั้งล่าสุด 43 ราย จาก 32 คดี โดยระบุว่าสองในสามของผู้ถูกจับกุมครั้งนี้เป็นผู้เปิดบัญชีม้าให้คนร้ายอาศัยเป็นช่องทางฟอกเงิน พร้อมกับเตือนประชาชนว่าอย่าให้เช่าหรือยืมบัญชีไปก่ออาชญากรรมเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงินที่โทษสูงสุดจำคุกถึง 14 ปี
ความพิเศษของตำรวจฮ่องกงคงเป็นการเปิดบริการค้นหา Scameter ระบบค้นหาข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหรือไม่ โดยสามารถค้นได้ทั้ง URL เว็บ, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, ชื่อบัญชีออนไลน์ต่างๆ, หมายเลขบัญชีธนาคาร, รวมถึงหมายเลขไอพี
แพลตฟอร์ม Scameter เป็นแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลที่ผู้ใช้แจ้งกันเข้ามาเอง ร่วมกับฐานข้อมูลการแจ้งเหตุไปยังตำรวจ และให้คะแนนจากต้นทาง เช่น เบอร์โทรเข้าต่างประเทศที่ฮ่องกงใช้หมายเลข +852 รูปแบบเดียวกับของไทยที่ใช้หมายเลข +697
ที่มา - South China Morning Post
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
อารมณ์ประมาณ Blacklistseller ของบ้านเราไหม
เว็บนี้อย่างแย่เลยครับ ใครส่งข้อมูลอะไรไปก็ขึ้นเลยทันที ข้อมูลเท็จก็ขึ้น ตัดต่อสลิปไปก็ส่งได้
แถมบอท Google มาเก็บไวทันใจ มีการกลั่นแกล้งเป็นว่าเล่น
ไม่มีช่องทางให้คนที่ถูกกลั่นแกล้งเข้าไปลบข้อมูลออกด้วย
ถ้าออกกฎหมาย จะท่องเว็บต่างๆต้องยืนยันเลข
บัตประชาชน พาสปอร์ต ถึงจะเข้าถึงอิเตอร์เน็ตได้
จะช่วยลดเรื่องพวกนี้มั้ยครับ
ปล.เรื่องสิทธิ์ส่วนบุคคล หรือ ความเป็นส่วนตัวต่างๆเอาออกไปก่อน
พูดถึงแค่ที่ยกมาจะช่วยลดได้มั้ย ขอบคุณครับ
... ถ้าเข้าถึง internet ด้วย รถยนต์ เครื่องจักร หน้าจอกดสั่งอาหารในร้าน ATM TV กล้องวงจรปิด เครื่องดูดฝุ่น หรือ แม้กระทั้ง เครื่องคิดเงิน POS เราจะใช้บัตรประชาชนของใครครับ ? มันออก internet กันหมดนะครับสมัยนี้
น่าจะได้ครับ แต่ไม่มีใครใช้ ไม่มีบริการต่างๆ ที่เราเห็นทุกวันนี้
เว็บที่เราเห็นจำนวนมาก รวมถึง Blognone เป็นเว็บทำสมัยเรียน จดทะเบียนกันแบบงงๆ ถ้าคนเข้าต้องลงชื่อ (ซึ่งก็จะลดจำนวนผู้ใช้ไปมาก) คนเปิดบริการต้องลงชื่อ จดทะเบียนให้บริการ (ให้บริการข้ามประเทศกันยังไง?) สุดท้ายมันก็จะแพ้เครือข่ายบางอย่างที่ให้เสรีกว่าอยู่ดี เหมือนที่ก่อนหน้าอินเทอร์เน็ตก็มี American Online มาก่อนแล้ว
lewcpe.com, @wasonliw
Internet เป็นได้แค่ medium ล่ะครับ (ซึ่งก็ถูกแล้ว) หลากหลายบริการล้วนให้บริการอยู่บนนี้จะไปบังคับให้ต้องยืนยันตัวตนถูกต้องจริงๆคงทำไม่ได้ เราทำได้แค่ให้ความรู้กับผู้ใช้งาน
อย่างที่คุณ lew บอก การจำกัดการเข้าถึงมีประโยชน์แต่ก็เพิ่มความไม่สะดวก ขนาดเว็บไซด์ดังในอดีตอย่างพันทิป ช่วงหลังยังต้องผ่อนปรนเงื่อนไขลง(เยอะมาก) เพราะต้องการจำนวน active users
ปัญหาตอนนี้คือเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Anonymous ล้วนมาเป็นรูปแบบผสม มิจฉาชีพเลยมีช่องให้โจมตีเยอะ
กรณีธรุกรรมสำคัญ จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนอย่างถูกต้อง อันนี้อาจจะต้องเคร่งครัดกันเลย เหมือนกับที่ทางธนาคารกำลังปรับตัวกันอยู่ตอนนี้
อีกอย่างคือการทำธุรกรรมกับภาครัฐ อันนี้ก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่ง...เว็บไซต์ของภาครัฐถือเป็นช่องโหว่สำคัญในตอนนี้เลย
..: เรื่อยไป
ใช้ ไอพีปลอมไมได้เหรอ น่าจะพอหลบได้นะ