Unity ออกมาขอโทษชุมชนนักพัฒนาเกมอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศแนวทางใหม่ของการคิดเงินค่าใช้งาน Unity Engine ดังนี้
ผู้ใช้เอนจิน Unity Personal ตัวฟรี จะไม่ถูกคิดเงินค่า Runtime Fee ใดๆ, ขยายเพดานรายได้จากเกมที่มีสิทธิใช้ Unity Personal จากเดิม 100,000 ดอลลาร์เป็น 200,000 ดอลลาร์, ยกเลิกเงื่อนไขบังคับแสดงหน้าจอ Made with Unity ออกให้ด้วย
ผู้ใช้เอนจิน Unity Pro และ Unity Enterprise มีเงื่อนไขการคิดเงินใหม่ดังนี้
ในรายละเอียดแล้ว Unity ยังเลิกนับจำนวนการติดตั้ง (installs) มาเป็นการวัดจำนวนผู้เล่นแบบใหม่ที่ใช้คำว่า initial engagement ซึ่งหมายถึงผู้เล่นหนึ่งรายที่ดาวน์โหลดหรือเล่นเกมเป็นครั้งแรกในช่องทางหนึ่งๆ โดยไม่นับรวมผู้เล่นละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้เล่นที่เป็นบ็อตของบริษัทเอง และผู้เล่นเดิมที่ลบแล้วลงเกมซ้ำๆ หลายรอบ รายละเอียดบนหน้าเว็บ Unity
ส่วนวิธีคิดเงิน Runtime Fee แบบอิงกับจำนวนผู้เล่น (initial engagement) ยังแบ่งประเทศเป็น 2 กลุ่มเหมือนเดิม ประเทศกลุ่ม A ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้ว (เช่น สหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ราคาเริ่มต้นที่ 0.15 ดอลลาร์ต่อผู้เล่น และลดลงเรื่อยๆ หากผู้เล่นมีจำนวนเยอะขึ้น ส่วนประเทศอื่นๆ ที่เหลือ (รวมไทยด้วย) อยู่ในกลุ่ม B ราคาเริ่มต้นที่ 0.01 ดอลลาร์ต่อผู้เล่น
ที่มา - Unity
Comments
อ่านแล้วดูเหมือนเป็นแผน Damage Mitigation ล้วน ๆ เลย เพราะสูญความเชื่อมั่นไปเยอะมากก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการขึ้นแคปเงินของเวอร์ชัน Personal เป็น $200K ที่เหมือนพยายามเอาใจฐานเสียงเดิมที่พังไปแล้ว
ผู้พัฒนาเกมส์ ชีวิตไม่ได้ง่ายๆแหะ
ดีขึ้นแล้ว ต้องขึ้นถึงล้านเลย
เขาคงเข้าใจแล้ว ว่าตัวเองไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
ขนาด Apple คิดอย่างนั้น ขึ้นราคาบ้าเลือด สุดท้ายก็ต้องลดราคา
ผมว่าทำไลเซนส์แบบ Jetbrains ไปเลยน่าจะดีกว่า คือแทนที่จะไปคิดค่าไลเซนส์ตามจำนวนก็อปปี้ หรืออ้างอิงจากยอดขาย (แบบ backend load) ก็ไปคิดต่อหน้าไปเลยว่า เออ มีผู้ใช้กี่คน จ่ายคนละ 400 เหรียญต่อปีไป คิดแบบง่าย ๆ ให้มันจบ ๆ ไป
คือรู้สึกว่าการที่เราสร้างเงื่อนไขซับซ้อน นอกจากมันจะทำให้คนไม่พอใจเพราะเงื่อนไขเปลี่ยน + (อาจจะเอาเปรียบคนใช้ด้วย) ก็มีเรื่องความไม่พอใจที่เกิดจากความสับสนขึ้นมาอีก มันยิ่งทำให้คนไม่พอใจ
ก็ประกาศไปเลยว่า Personal ฟรีนะ ทำเกม commercial ไม่ได้ ใช้ในบริษัทไม่ได้ บริษัทไหนอยากใช้ ก็ซื้อเลย site license หรือหัวละ 400 เหรียญต่อปีไปเลย แล้วก็ไปซัพพอร์ตเขาดี ๆ เขาจะได้จ่ายอย่างสบายใจ ไม่ใช่เปิดบั๊กไปแปดปียังไม่แก้ (สมมติ) ฯลฯ อะไรแบบนี้ครับ
แน่นอนว่ามันก็จะมีแบบทีมโคตรใหญ่แต่ขายได้นิดเดียว หรือทีมเล็กนิดเดียวแต่ยอดขายดันเยอะ อันนี้คิดว่าปล่อยวางเถอะครับ ...
ส่วนเรื่องการใช้งานไลเซนส์ผิดประเภท คิดว่า ข้อมูล analytic ที่ส่งกลับยานแม่แทบตลอดเวลาน่าจะดักได้เยอะอยู่แล้วครับ
เอ แต่ที่ว่ามา unity มีอยู่แล้วนิครับ ($2,040/year per seats) ซึ่งเหมือนจะไม่พอ เลยต้องเพิ่ม Runtime Fee มา
บล็อก: nitpum.com
หน้าแหกเลยผม ผมก็ดันนึกว่ามีแค่ Personal Plus แล้วก็ Pro 5555
มีEnterpriseด้วย ซื้อseatเพิ่มได้
โห มันหิวขนาดนี้ มิน่าtechcastย้ายไปอันเรียลแล้วไม่หันกลับมาใช้ยูนิตี้อีกเลย
The Last Wizard Of Century.
หลายปีมานี้ Unity เน้นไปที่ฟีเจอร์Ad กะกินส่วนแบ่งตรงนี้เพิ่ม แต่กับไม่ค่อยมีเกมไหนใช้กัน
แถมไม่พอไปซื้อบ.Adเข้ามาอีก ทำเอาเงินสดขาดมือ
TOSก่อนหน้านี้ ก็มีข้อยกเว่้นruntime feeถ้าไปใช้Adของunity ก็คงกะบีบให้เกมอินดี้ยิงแอดในเกม เพื่อที่จะได้หาเงินจากAdเพิ่ม เลยออกมาเละแบบที่เห็นนี้แหล่ะ