Windows Phone และ Windows 10 Mobile ถือเป็น 1 ในความล้มเหลวที่ล้มดังที่สุดของ Microsoft ล่าสุด Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider พร้อมกล่าวถึง Windows Phone ว่าเสียใจที่ยอมแพ้ และถอนตัวออกจากตลาดโทรศัพท์มือถือ
Satya ได้พูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ มากมาย แต่มี 1 คำถามที่ถามถึงข้อผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ หรือการตัดสินใจผิดในฐานะซีอีโอของ Microsoft ซึ่ง Satya กล่าวถึงการที่บริษัทถอนตัวออกจากตลาดโทรศัพท์มือถือในตอนนั้นอาจจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีที่สุด และมองว่าอาจมีวิธีปรับปรุงเพื่อให้ระบบ Windows Phone ไปอยู่ตรงกลางระหว่างซีพี, แท็ปแล็ต และโทรศัพท์ได้
กล่าวคือถ้า Microsoft ยังลุยตลาดนี้อยู่ Windows 10 Mobile อาจแปลงสภาพไปเหมือนกับฟีเจอร์ DeX ของ Samsung ที่โทรศัพท์มือถือที่ต่อเข้ากับหน้าจอแล้วแปลงสภาพเป็นเดสก์ท็อปขนาดย่อม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ตอนนั้น Microsoft ไม่สามารถจูงใจนักพัฒนามาสู่ระบบโทรศัพท์มือถือของตนได้ ทั้ง ๆ ที่ Microsoft มีประสบการณ์ที่ล้นเหลือจาก Windows บนเดสก์ท็อป
ที่มา - Business Insider via Xda Developers
Comments
แล้วที่ตอนนี้ยกเลิกตัวนั้นตัวนี้เยอะๆ ไปทุ่ม AI นี่จะเสียใจอีกมั้ยนะ 🤔
ตัดสินใจพลาดเรื่องนี้ แต่มีอีกหลายมูฟที่ตัดสินใจได้เฉียบขาด
เพิ่งจะมาเสียใจเหรอ สำหรับผม มันคือของที่ดีที่สุดที่ผมเคยใช้ แต่ MS มาทำพังจนไม่เหลืออะไรเลย กลายเป็นที่ทับกระดาษ ใช้อะไรได้น้อยมาก ไม่ต่างอะไรกับขยะเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
lumia 920 สีเหลืองในชั้นวางของเก่าผมสั่น!!
..ผมยังจำวันเปิดตัวเข้าคิวรอรับเครื่องกDay one สิริกิต ได้อยู่นะครัสสสส
..ผมยังจำที่MS Spil ที่สาทร สัญญากับผมไว้ ms silverlight ที่คุณเข้าคอส เขียนกับเราแล้วเอาขึ้นStoreนิยอดเลยนะครับ คุณเขียนครั้งเดียวrunได้ทั้ง phone ทั้งpc นะครัสสสส
me in 2023 : OvO)/กำหมัด
ที่ยกเลิกไปนี่ พี่ขอบคุณ Lumia 720 เถอะครับ มือถือสมัยที่ใช้ voice เป็นหลักแล้ว ใส่กระเป๋าเดินไปเดิมมา ค้างแบบไม่รู้ตัว (คนโทรเข้าก็ไม่ได้ไง) อาการเสียแบบนี้ ผมรับไม่ได้จริงๆ นะ
ไม่รู้สินะ เหมือนเละตั้งแต่ Steve Ballmer ทำซะยับแล้ว ผลิตภัณฑ์อะไรดีๆ แกทำพังหมดสิ้นซาก ^_^
แอบเสียดาย
เสียดายมากครับ ในฐานะแฟนเดนตายที่ใช้มานาน ยังคงคิดถึงมันทุกวันเลยครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
น่าจะตัดสินใจถูกมากกว่า
ดูเหมือน MS เป็นบริษัทที่มีปัญหากับ supply chain ยังไงไม่รู้
เลยขาย hardware ไม่ค่อยรุ่ง
เสียดายเหมือนกันครับ ตอนนี้ีีแค่2ค่ายน้อยไปหน่อย คิด่าเสียสมดุลโลกมือถือเลย
ทำ Nokia พังไปด้วยจนคนฟินแลนด์เขาฮึ่มๆกัน
อืม เกิดไม่ทัน ไม่เคยเห็น
แลงมาก
ถ้าทำ Services มาแข่งกับ
-Google Search
-Google Map
-Youtube
พวกนี้ไม่ได้ ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มีวันชนะครับ
คีย์เวิร์ดมีอยู่แค่นี้เอง มีเงินเยอะอยู่ในมือแต่ขาดความพยายาม
จริง Product มันดี แต่คนใช้เพราะ Service/Function
Lumia900 ไม่มีคีย์บอร์ดไทย
ยังตอบตัวเองไม่ได้เลย ตอนนั้นทนใช้ไปได้ยังไง
ผมก็คิดเหมือนเฮียแหละครับ
ทำงานไม่ต้องพก Laptop/Notebook แต่พกมือถือ Tablet ต่อ Docking ที่ Office หรือกลับบ้านทำงานได้เลย (Tablet เดี๋ยวนี้ก็เป็นแบบนั้นแล้ว) M$ เองก็มี Windows, Office, Cloud, Service ต่างๆ อยู่ในมือ ถ้า Integrate เชื่อมกันดีๆ บริษัทไม่ต้องแจก Laptop ให้พนักงานแล้ว ขาย Windows Phone พ่วงภาคธุรกิจไปเลย
ส่วนตัวผมก็อยากได้ Windows Phone
แต่ตอนนั้นติดเล่นเกมมือถือ เกมดีๆ มันก็ลง iOS หมด ขนาด Android ใครเล่นช่วงแรกๆ สมัย Gingerbread, Honeycomb, ICS จะจำได้ Store แทบไม่มีเกมอะไร ยกเว้นดังๆ Angry Bird, Fruit Ninja, Temple run นอกนั้นเกมอะไรไม่รู้ เพิ่งจะมายุคหลังๆ ที่เกมดีๆ ลง iOS Android เท่าเทียมกัน
ผมเลยซื้อมาใช้ไม่ได้ เอาจริงๆ
ไม่ใช่แค่มี Service, Feature ดี แต่เกมนี่สำคัญเลยนะ
เสียดายเช่นกันครับ
แต่จริง ๆ รู้สึกว่า windows phone โดนทำเละจากคนก่อนมาแล้วนะ
แต่ถ้ายังฝืนดันต่อ ก็อาจจะพลิกได้จริง ๆ นะ
จากผลงานของพี่แกทำมา ถือว่าเกงมาก ๆ เลย
ที่ผลักดันองค์กรณ์ที่การเมืองเข้มข้น เปลี่ยนมาได้ขนาดนี้
ถึงไม่ถอนยังไงก็ไปไม่รอดอยู่ดี
Dev กันแบบกั๊ก API แอพดังๆ เกมส์ดีๆ ไม่สนับสนุนซักตัว
แอพอะไรดังๆ สนุกๆ ตามเทรนสมัยนั้น ผู้ใช้มือถือค่ายนี้มองข่าวตาละห้อย หรือไม่ก็ได้แต่ทนใช้แอพเลียนแบบ
ไม่ได้เข้าใกล้ประสบการณ์ Personal Computer ซักนิด ก็แค่ Feature Phone ครอบ Theme Zune เอา Android มาทำยังจะดูรอดกว่านี้อีก
เป็นรองตลาดมันต้องจัดเต็ม แต่เอ๊า ผู้ใช้น้อยเลยไม่จริงจังไม่ทุ่มงบทำต่อ Marketplace ก็กวาดเอาแต่แอพขยะเข้ามา เน้นแต่ปริมาณไม่เน้นคุณภาพ
ไม่ได้เสียใจด้วยเลย มีแต่สมน้ำหน้า
/ขออภัย.. นึกถึงทีไรแล้วขึ้น
ตอนนั้นผู้ถือหุ้นก็เคยถามแล้วว่าจะให้คำมั่นสัญญาได้ไหมว่าจะจริงจังกับวินโดว์โฟน ท่านก็ให้ไม่ได้ 😅 ถ้าพยายามต่อก็อาจได้เห็น Surface Phone แต่ก็คงเจอความท้าทายอยู่ดีในประเด็นแอปจากค่ายใหญ่
ปล.ทุกวันนี้ก็หยิบ 950 XL มาเปิดเป็นครั้งคราว ไลน์ในเครื่องก็ยังเปิดได้ เข้าไปอ่านแชทเก่าๆ ที่เคยทักไปจีบแฟนครั้งแรก จนตอนนี้เป็นภรรยาและมีลูกน้อยด้วยกันแล้วครับ ฮา
เอาจริง MS ยุคนั้นแทบจะไม่มีอะไรเลยที่เป็นของ Consumer ภาพลักษณ์มันดูนำสมัยเท่าไหร ตอนนั้น Google ยังทำAndriod แบบกั๊กอยู่เลยถ้าทนอีกนิดให้ Dev มาลงน่าจะรุ่ง จากผู้ใช Lumia 920 Day One ฮ่าๆ
ส่วน Vision ที่พูดตอนท้ายจริงๆ Lumia 950 พยายามทำอยู่นะแต่มันก็ได้แค่ Office Mobile ส่วนหนึ่งที่มันไม่เกิดเพราะ MS ใหญ่ไปแล้วแต่ละส่วนทำงานไม่คุยกันเลย
เสียดายมาก
จนถึงวันนี้ Lumia 630 อายุ 10 ปีผมก็ยังใช้อยู่เลย
.
ทำเหมือนที่ผู้ก่อตั้งเคยทำสิ
Os ไง
สร้าง Os ที่ทำให้ใครๆโหลดมาลงในมือถือเอง
แทน Android ได้
แล้วขายโปรแกรม ใน Os นั้น
เสียดายจริง สำหรับผมสิ่งที่ชอบใน WP มากที่สุดคือ User Interface ทุกวันนี้ก็ยังชอบที่สุด ชอบกว่า iOS หรือ Android อีก
จุดแข็งของ MS คือสร้าง OS เลยนะ ทำไมไม่ลงทุนทำดีๆไปเลย จะได้แข่งกับเค้าได้ แต่หลังๆมา OS หลักก็หวังไรไม่ได้มากละ ออกมาแต่ละทีบั๊กกระจายเหมือนทำงานไม่ได้คุยกันเลย รอดู Windows 12 หวังว่าจะแก้ตัวได้ดีกว่านี้ T_T
เสียดาย เสียดายทั้ง Nokia และ Windows phone
ทำแล้วแต่ไม่ตั้งใจไปให้สุด
ผมเดาว่าที่ MS เสียดายคือตัวเองไม่มีอุปกรณ์เคลื่อนที่ ที่สามารถนำมาสนับสนุนหรือเติมเต็มการขายโซลูชันตอนนี้ ซึ่งไมโครซอร์ฟเองในตอนนั้น ยังทำเงินจากคลาวด์ไม่ได้เหมือนทุกวันนี้ เลยจำเป็นต้องตัดทิ้ง
การที่ Google และ Apple กล้าทุ่มทุนสร้าง ecosystem ของตัวเอง เพราะเห็นตัวเลขรายได้ที่กลับเข้ามาตั้งแต่ตอนนั้น จุดแข็งของ Google อย่าง SE หรือ Map สามารถสร้างรายได้มหาศาลจากจำนวนมือถือที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง Google เน้นการขายโทรศัพท์ในวงกว้าง ราคาหลักร้อยไปถึงหลักหมื่น เพื่อเพิ่มจำนวน user ทำให้เห็นทราฟฟิคและภาพการเติบโตได้ค่อนข้างชัดเจน
ส่วน Apple เอง รายได้จาก HW เกรดพรีเมียม ที่ขยายไลน์ออกไปตั้งแต่โทรศัพท์ แทปเล็ต ไปจนถึงนาฬิกา (อันหลังนี่ timing มาจังหวะดีที่คนออกกำลังกายกันเยอะ) บวกกับรายได้จากค่าธรรมเนียมใน App store เนื่องจากเป็นระบบปิด ทำให้ธรุกิจโตอย่างต่อเนื่อง
แต่ MS ตอนนั้น กำลังโฟกัสไปที่ Cloud ส่วนฝั่ง PC รายได้หลักเหมือนอยู่ที่ลูกค้าสำนักงาน คนกลุ่มนึง(ที่ค่อนข้างใหญ่)เริ่มเข้าถึงสื่อบันเทิงผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ยอดขายลูกค้าทั่วไปลดลงอยู่ในช่วงของการปรับฐานใหม่จากกลุ่มที่ใช้งานคอมพิวเตอร์มาเพื่อความบันเทิง
ตัวโทรศัพท์เองก็นะ เหมือนที่ข้างบนบอก ทำแบบไม่กล้าทุ่มหมดหน้าตัก จำนวนฐานแฟนก่อนหน้ามีจำนวนไม่น้อย ทั้งจาก Nokia และผู้ใช้ Windows Phone สมัย Samsung, HTC แต่พอประสบการณ์ใช้สู้อีกสองค่ายไม่ได้และโดนหนีห่างออกไปเรื่อยๆ สุดท้ายคนก็ย้ายออก
..: เรื่อยไป
ไม่ต้องเสียใจ เพราะโลกไม่ได้ต้องการระบบ OS ที่ 3 อยู่แล้ว
เช่นกัน
ชอบลอยแพลูกค้าตลอด เบื่อมาก ทำ nokia เจ๊ง นี่ surface duo ก็ทำท่าจะแบบเดิมอีกละ
เสียดายนะ ผมที่ตอนนั้นพร้อมจะเป็นแฟนบอย ที่ถอยมาทั้ง lumia 920 และตามมาด้วย lumia 1520
เป็นมือถือที่ได้ลองจับแป๊บเดียวแต่เป็นทุกวินาทีที่ประทับใจมาก ลืมภาพลักษณ์เดิม ๆ ของ Android หน่วง ๆ ช่วงนั้นไปเลย เสียดายศักยภาพมาก ๆ
ผมเสียใจ แต่ประชาชนทั่วไป อาจจะรู้สึกดีใจ