หลังจากวันก่อนที่ Bungie ประกาศปลดพนักงานและ เลื่อนวางจำหน่ายเกม Destiny 2 The Final Shape และ Marathon ล่าสุดมีข้อมูลว่า มีพนักงานโดนปลดออกราว 100 คน คิดเป็น 8% ของพนักงานทั้งหมด 1,200 คน

Pete Parsons ซีอีโอของ Bungie บอกกับพนักงานที่เหลืออยู่ว่าตอนนี้บริษัทรักษาคนที่เหมาะสม (The right people) เพื่อพัฒนาเกม Destiny 2 ต่อไป และบอกว่าการเลิกจ้างส่วนใหญ่มาจากเกม Destiny 2 ทำผลงานได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ในปีที่แล้ว เช่นเดียวกับยอดสั่งจองล่วงหน้าของส่วนขยาย The Final Shape ก็ที่ต่ำกว่าที่คาดไว้

ด้านพนักงานของ Bungie ก็มักได้รับแจ้งตลอดเวลาว่าความเชื่อมั่นของผู้เล่นในเกม Destiny 2 นั้นอยู่ในระดับต่ำตลอดเวลา โดยยอดผู้เล่นเกม Destiny 2 ลดลงมาก มีผู้เล่นเพียง 45% ของยอดคาดการณ์ รายได้จึงไม่เป็นไปตามเป้า และ IGN ได้รับรายงานว่าปัญหานี้ถูกแจ้งเข้ามาอยู่หลายครั้งหลายเดือนก่อนที่จะมีการเลิกจ้าง โดยพนักงานร้องขอโอกาสปรับปรุงเกมเพื่อดึงผู้เล่นกลับมา

อดีตพนักงาน Bungie คนหนึ่งเล่าว่า Bungie ให้คำมั่นแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจาก Sony เข้าซื้อกิจการ Bungie ในปี 2022 ว่าจะไม่มีการเลิกจ้าง และอ้างถึงรายงานรายไตรมาสของ Sony ที่อ้างว่าการซื้อกิจการ Bungie มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์จากทั้งหมด 4 พันล้านดอลลาร์นั้น มุ่งเป้าไปที่การรักษาพนักงานอย่างชัดเจน พนักงานหลายคนยืนยันว่ามีการแจกจ่ายเงินให้กับพนักงานตามสิทธิ์อย่างครบถ้วน โดยเงินจะแบ่งชำระเงินหลายครั้งแตกต่างกันไปตามระเบียบวินัย และความอาวุโสของพนักงาน

พนักงานหลายคนแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการเลิกจ้าง โดยกล่าวว่าพวกเขารู้สึกว่าการตัดสินใจของ Bungie ที่แก้ปัญหาเรื่องการเงินของบริษัทนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา และคนที่ถูกเลิกจ้างถูกลงโทษในปัญหาที่พวกเขาไม่ได้ก่อขึ้นโดยส่วนใหญ่ โดยอดีตพนักงานคนหนึ่งบอกกับ IGN ว่า มันแปลกที่การถูกเลิกจ้างนั้นพิจารณาจากการตัดสินใจของคนในแผนกอื่น

IGN ยังได้รับแจ้งว่ามีพนักงานในทีม QA จำนวนมากถูกไล่ออกในช่วงหลายสัปดาห์ และหลายเดือนก่อนที่จะมีการประกาศการเลิกจ้าง แม้ว่าจะไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่จำนวนคนที่ถูกไล่ออกในช่วงเวลาหนึ่งโดดเด่นถึงขนาดที่หัวหน้าฝ่ายควบคุมคุณภาพของบริษัท ต้องส่งอีเมลไปหาพนักงานเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งในอีเมล์ดังกล่าว ระบุว่า นี่ไม่ใช่การเลิกจ้างพนักงาน และไม่ได้เป็นผลมาจากการลดต้นทุนแต่อย่างใด และถ้าเลิกจ้างบริษัทจะตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก

ที่มา - IGN, Eurogamer