สตูดิโอ Bungie เปิดตัวเกมใหม่ Marathon เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 แต่หลังจากนั้นก็ประสบปัญหามากมาย ต้องปลดพนักงาน, เลื่อนวันออกเกม และปีนี้ต้องปลดพนักงานรอบสอง แบ่งทีมบางส่วนไปอยู่กับโซนี่ จนชะตาของ Marathon อาจไม่แน่ชัดว่าจะเป็นอย่างไร
ล่าสุด Joe Zeigler ผู้กำกับเกม Marathon ออกมาเผยความคืบหน้าของเกม โชว์ตัวละครสองตัว และประกาศว่าจะเริ่มทดสอบ playtest ในปีหน้า 2025 ส่วนกำหนดพัฒนาเกมเสร็จสมบูรณ์นั้นยังไม่ระบุชัดว่าเมื่อไร
NetEase เปิดตัวเกมมือถือ Destiny: Rising ที่อยู่ในจักรวาลเดียวกับเกม Destiny ของ Bungie
เกม Destiny: Rising เป็นเกมแนว FPS แบบเดียวกับภาคต้นฉบับ แต่อยู่ใน timeline คู่ขนานกับเกมภาคหลัก เกมรองรับทั้งโหมดเล่นคนเดียว, เล่นหลายคนแข่งกัน และเล่นหลายคน co-op ส่วนการควบคุมมีทั้งการใช้จอสัมผัสและต่อจอยภายนอก
เกมจะเปิดทดสอบแบบ closed alpha วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ แต่ยังไม่เปิดเผยกำหนดการว่าจะเปิดเต็มรูปแบบเมื่อไร
Bungie เคยรับเงินลงทุนจาก NetEase มาตั้งแต่ปี 2018 และมีสายสัมพันธ์กันมาตั้งแต่ตอนนั้น ถึงแม้ตอนนี้ Bungie กลายเป็นสตูดิโอในเครือ PlayStation ไปแล้วก็ตาม
เว็บไซต์ Eurogamer มีบทความวิจารณ์แนวทางการทำเกม live service ของโซนี่ผ่านการซื้อกิจการ ว่าล้มเหลวทั้งการซื้่อสตูดิโอ Bungie ผู้สร้าง Destiny (2022) และการซื้อ Firewalk Studios ผู้สร้าง Concord (2023) (สตูดิโอ Firewalk ก่อตั้งโดยอดีตทีมงาน Bungie ส่วนหนึ่ง)
จากกรณี Bungie ปลดพนักงาน 220 คน รวมถึงโอนพนักงานอีกบางส่วนไปให้โซนี่ ก็มีประเด็นวิจารณ์ตามมา หลังเหล่าพนักงานไปขุดเรื่องว่าซีอีโอ Pete Parsons เอาเงินไปจ่ายซื้อรถเก่าคลาสสิกจำนวนมาก หลังขายกิจการให้โซนี่ในปี 2022
สตูดิโอ Bungie ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ดังนี้
Bungie ใจดีแจกเกมเก่าคลาสสิค Marathon Trilogy บน Steam โดยเริ่มจากเกมภาคแรก Marathon ที่ออกในปี 1994 กดรับสิทธิได้แล้วบน Steam ส่วนอีกสองภาคคือ Marathon 2 (1995) และ Marathon Infinity (1996) มีหน้าเพจบน Steam แล้ว และจะทยอยแจกตามมา
IGN มีบทความสัมภาษณ์พนักงานของ Bungie หลังสตูดิโอปลดพนักงานออกราว 100 คนจากประมาณ 1,200 คน ด้วยเหตุผลว่าผลงานของเกม Destiny 2 ไม่ดีเท่าที่ควร
ปัจจุบัน Bungie ถือเป็นสตูดิโอของโซนี่ แต่เงื่อนไขการซื้อกิจการ ทำให้ Bungie ยังรักษาความเป็นอิสระในการทำงานเอาไว้ ตราบเท่าที่ยังรักษาระดับผลประกอบการไว้ได้ดังเดิม หากผลประกอบการลดลง โซนี่มีสิทธิเปลี่ยนบอร์ดออก (บอร์ดชุดปัจจุบันมีตัวแทน Bungie 3 คน + โซนี่ 2 คน)
หลังจากวันก่อนที่ Bungie ประกาศปลดพนักงานและ เลื่อนวางจำหน่ายเกม Destiny 2 The Final Shape และ Marathon ล่าสุดมีข้อมูลว่า มีพนักงานโดนปลดออกราว 100 คน คิดเป็น 8% ของพนักงานทั้งหมด 1,200 คน
Pete Parsons ซีอีโอของ Bungie บอกกับพนักงานที่เหลืออยู่ว่าตอนนี้บริษัทรักษาคนที่เหมาะสม (The right people) เพื่อพัฒนาเกม Destiny 2 ต่อไป และบอกว่าการเลิกจ้างส่วนใหญ่มาจากเกม Destiny 2 ทำผลงานได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ในปีที่แล้ว เช่นเดียวกับยอดสั่งจองล่วงหน้าของส่วนขยาย The Final Shape ก็ที่ต่ำกว่าที่คาดไว้
ความคืบหน้าเพิ่มเติมของข่าว Bungie ปลดพนักงาน สื่อเกมต่างๆ ได้สัมภาษณ์อดีตพนักงานและพนักงานปัจจุบัน ได้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
สตูดิโอ Bungie ผู้สร้างเกม Destiny ปลดพนักงานออกจำนวนหนึ่ง (ตัวเลขยังไม่ระบุชัด) ซึ่งเป็นการปลดพนักงานหลังขายกิจการให้โซนี่เสร็จในช่วงกลางปี 2022 เพียง 15 เดือน
Bungie ถือเป็นสตูดิโอในเครือโซนี่อีกแห่งที่ปลดพนักงานในช่วงนี้ โดยสตูดิโอก่อนหน้านี้ที่ต้องปลดพนักงานคือ Naughty Dog ผู้สร้าง The Last of Us และ พนักงานในทีม Visual Arts ของ PlayStation Studios
สตูดิโอ Bungie ซึ่งตอนนี้อยู่ในเครือ PlayStation Studios แล้ว เปิดตัวเกมใหม่ Marathon ซึ่งเป็นการรีบูตเกมยิงไซไฟอวกาศซีรีส์ Marathon ของ Bungie เองที่ออกขายในทศวรรษ 1990s (มีสามภาค ออกปี 1994, 1995, 1996)
Marathon เวอร์ชันรีบูตไม่ใช่เกมภาคต่อของไตรภาคต้นฉบับ แต่เป็นเกมใหม่ที่เคารพเนื้อเรื่องและธีมของต้นฉบับ ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเคยเล่นเกมเก่ามาก่อนก็เข้าใจได้ ทีมสร้างบอกว่าเกมนี้ให้กลิ่นอายของเกมยิง Bungie ทั้งหลาย (Halo, Destiny) ที่มีโลกในเกมสวยงาม มีตำนานลุ่มลึก เกมออกแบบมาให้เป็น PvP มาตั้งแต่แรก ไม่มีโหมดเล่นคนเดียว แต่จะเล่าเรื่องผ่านส่วนต่างๆ ของเกมลักษณะเดียวกับ Destiny
ก่อนหน้าหน้าทาง PlayStation ได้เสริมทัพทีมพัฒนาเกมโดยซื้อกิจการเข้ามา อย่าง Bungie, Haven Studio และ Firewalk Studios ซึ่งตอนนี้ PlayStation Studios กำลังพัฒนาเกมประเภท Live Service อยู่ประมาณ 10 เกม ในวันนี้ทาง PlayStation ได้ออกมาประกาศเพิ่มเติมว่าเกมที่พวกเขากำลังพัฒนาอยู่นั้นจะแตกต่างจากที่มีอยู่ในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นแนวเกมหรือกลุ่มผู้เล่น
ปัญหาเกมเมอร์มีพฤติกรรม toxic คงเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่มีวันจบสิ้น ที่ผ่านมาค่ายเกมก็ใช้มาตรการต่างๆ ในการจำกัดพื้นที่ของเกมเมอร์เหล่านี้ แต่ล่าสุดสตูดิโอ Bungie เลือกใช้วิธีฟ้องเกมเมอร์รายหนึ่งที่มีพฤติกรรมแย่ๆ มากมาย และถึงขั้นขู่ทำร้ายพนักงานของ Bungie ด้วย
เกมเมอร์รายนี้ชื่อว่า Luca Leone มีพฤติกรรมใช้โปรแกรมโกงในเกม Destiny 2, ขายไอเทมในเกมที่มาจากบัญชีที่ถูกขโมย พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เขาเคยโดนแบนไปแล้วนับสิบครั้ง แถมยังเคยโพสต์ในโซเชียลว่าอยากไปวางเพลิงที่สำนักงานของ Bungie ที่เมืองซีแอทเทิลด้วย
Bungie เรียกค่าเสียหาย 150,000 ดอลลาร์ และขอให้ศาลสั่งห้าม Leone มาขู่ แอบติดตาม ยุ่งเกี่ยว กับพนักงานของ Bungie รวมถึงผู้เล่น Destiny 2 คนอื่นๆ ด้วย
หลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โซนี่ประกาศเข้าซื้อกิจการ Bungie ที่เคยฝากผลงานเกมดังอย่าง Halo (ปัจจุบันเป็นแฟรนไชนส์ในเครือ Xbox Game Studios ของไมโครซอฟท์ และพัฒนาโดยทีม 343 Industries) รวมไปถึงเป็นเจ้าของแฟรนไชนส์ Destiny ด้วยมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์
ล่าสุด โซนี่ประกาศว่า ดีลการเข้าซื้อกิจการ Bungie เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้กลายเป็นบริษัทในเครือของ Sony Interactive Entertainment (SIE) อย่างเป็นทางการ ซึ่งดีลนี้จะครอบคลุมไปถึงการถือแฟรนไชนส์ Destiny รวมไปถึง IP ใหม่ ๆ ที่จะออกมาของ Bungie (อย่างไรก็ดีเกมใหม่ ๆ จาก Bungie จะยังคงลงแพลตฟอร์มอื่น ๆ เหมือนเดิม)
ในงานแถลงผลประกอบการของโซนี่ไตรมาส 4/2021 มีช่วงอธิบายรายละเอียดการซื้อ Bungie มูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์
ประเด็นที่น่าสนใจคือ โซนี่เปิดเผยว่าราว 1 ใน 3 ของเงินที่ซื้อ Bungie จะถูกใช้กับการจูงใจพนักงานให้ยังอยู่กับบริษัทต่อไป โดยจะทยอยจ่ายในช่วงหลายปีข้างหน้าหลังกระบวนการซื้อกิจการเสร็จสิ้นแล้ว
Approximately one-third of the US$3.6 billion acquisition consideration consists primarily of deferred payments to employee shareholders, conditional upon their continued employment, and other retention incentives.
Jim Ryan ซีอีโอของ Sony Interactive Entertainment ให้สัมภาษณ์กับ GamesIndustry.biz อธิบายเหตุผลในการซื้อสตูดิโอ Bungie เจ้าของเกม Destiny
สิ่งแรกที่ Ryan บอกคือ Bungie จะยังบริหารงานเป็นอิสระ ทำเกมลงหลายแพลตฟอร์มเหมือนเดิม เพราะทุกคนอยากเห็นชุมชนผู้เล่น Destiny 2 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แนวทางนี้จะครอบคลุมถึงเกมของ Bungie ในอนาคตด้วย เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นแรกๆ ที่เขาพูดคุยกับ Pete Parsons ซีอีโอของ Bungie ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ ซึ่งเขาตอบตกลงทันที
หลังมีข่าว Microsoft ซื้อ Activision Blizzard ก่อนหน้านี้ วันนี้ฝั่ง Sony ก็เริ่มขยับตัวบ้าง เข้าซื้อ Bungie สตูดิโอผู้สร้างเกม Halo (แต่ปัจจุบันลิขสิทธิ์ Halo อยู่กับ 343 Studios ที่อยู่กับ Microsoft) รวมถึงเป็นผู้สร้างและเจ้าของเกม Destiny และ Destiny 2 ในปัจจุบัน ด้วยมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.2 แสนล้านบาท)
Bungie จะกลายเป็นสตูดิโอในเครือ Sony Interactive Entertainment หรือ SIE แต่ยังย้ำชัดว่ายังเป็นสตูดิโอมัลติแพลตฟอร์ม ที่ยังคงความเป็นอิสระด้านความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนา และการจัดจำหน่ายเกมของตัวเองไว้อย่างครบถ้วน
สตูดิโอ Bungie ผู้สร้างเกม Destiny เป็นสตูดิโอรายล่าสุดที่มีปัญหาวัฒนธรรมที่ทำงานมีการคุกคามทางเพศ จนล่าสุดซีอีโอ Pete Parsons ต้องออกมาเขียนจดหมายขอโทษแล้ว
Bungie เคยมีประเด็นเรื่องวัฒนธรรมการทำงานเมื่อเดือนกันยายน หลังมีพนักงานรายหนึ่งออกมาแฉปัญหาในบริษัท ซึ่งตอนนั้น Parsons ออกมาประกาศมาตรการหลายอย่างด้านความหลากหลายในที่ทำงาน
แต่ล่าสุด IGN มีบทความสัมภาษณ์พนักงานทั้งอดีตและปัจจุบันจำนวน 26 คน พบว่าปัญหาภายในที่ทำงานของ Bungie ยังเหมือนเดิม มีทั้งเรื่องวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ ไปจนถึงฝ่าย HR กลับปกป้องผู้กระทำผิดซะเอง นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการทำงานหนักเป็นเวลานานๆ หรือศัพท์ในวงการเกมเรียกว่า crunch time ด้วย
Peter Fabiano ผู้อำนวยการสร้างเกม RE7, RE: Village และ Devil May Cry 5 ของ Capcom ประกาศย้ายงานบนทวิตเตอร์ ไปเป็น “ผู้จัดการฝั่งโปรดักชั่นที่ Bungie”
Fabiano เคยดูแลฝั่งแปลภาษาให้กับเกม Mega Man 11, Resident Evil 5, และ Mega Man Zero Collection ก่อนจะขยับมาเป็นผู้อำนวยการสร้างเกมต่างๆ ของ Capcom เช่น Devil May Cry 5, RE: Revelations, RE2 และ RE3 ภาครีเมค รวมถึง RE7 และ RE: Village
Pete Parsons ซีอีโอสตูดิโอเกม Bungie ออกมาปฏิเสธข่าวลือว่า Bungie กำลังเจรจาเพื่อขายกิจการให้ไมโครซอฟท์ (อีกครั้ง)
ข่าวลือการซื้อกิจการครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะไมโครซอฟท์เคยเป็นเจ้าของ Bungie มาแล้วรอบหนึ่งระหว่างปี 2000-2007 โดยสิทธิความเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ Halo ที่ Bungie เป็นฝ่ายเริ่มสร้างยังอยู่กับไมโครซอฟท์ (และไมโครซอฟท์ตั้งสตูดิโอ 343 Industries มารับช่วงต่อแทน) ในขณะที่ Bungie ก็ออกมาทำเกมตระกูล Destiny แทน
Bungie ประกาศแผนการระยะยาวของเกมยิงไซไฟ Destiny 2 ในอีก 3 ปีข้างหน้า (2020-2022) ยืนยันว่าจะยังไม่ทำ Destiny 3 แต่จะเป็นการออกภาคเสริมปีละภาค รวม 3 ภาคแทน
Bungie บอกว่าตอนเปลี่ยนจาก Destiny 1 มาสู่ Destiny 2 ใช้นโยบายตัดเนื้อหาและฟีเจอร์ทั้งหมดของ Destiny 1 ไม่ยุ่งเกี่ยวกับ Destiny 2 เลย ทำให้ผู้เล่นแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งมีผลเสียต่อชุมชนผู้เล่นอย่างมาก รอบนี้จึงไม่อยากผิดพลาดซ้ำอีกด้วยการออก Destiny 3 ที่แยกขาดจาก Destiny 2
NVIDIA ประสบปัญหาค่ายเกมใหญ่ๆ ทยอยถอนตัวจาก GeForce Now เช่น Activision, Bethesda, 2K เพราะเจรจาผลประโยชน์กันไม่ลงตัว ตอนนั้นคำตอบของ NVIDIA คือ "ขอให้รอ" ว่าจะมีอัพเดตอย่างไร
เมื่อต้นปีนี้ ไมโครซอฟท์ประกาศนำ Halo: Reach ภาคแยกของเกมซีรีส์ Halo ที่เคยออกบน Xbox 360 เมื่อปี 2010 มาออกบนแพลตฟอร์ม Windows และ Xbox One โดยรวมอยู่ในชุด Halo: The Master Chief Collection
เกมเพิ่งวางจำหน่ายเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) โดยขายทั้งบน Microsoft Store และบน Steam ซึ่งก็ทำยอดขายได้ดีเยี่ยม ตัวเลขผู้เล่นบน Steam ถึง 1.6 แสนคนพร้อมกัน ถือว่ามากเป็นอันดับสาม เป็นรองแค่ CS:GO และ Dota 2 ที่เป็นเกมยอดนิยมตลอดกาลและเป็นเกมฟรีอยู่แล้ว แถมตัวเลขนี้ยังเป็นตัวเลขเฉพาะบน Steam อย่างเดียวเท่านั้น ไม่รวม Microsoft Store และ Xbox One
แฟนคลับ Destiny เกม Looter Shooter ที่ให้เราตะลุยอวกาศปะทะศัตรูนั้น หลังจาก Bungie แยกตัวจาก Activision และได้สิทธิ์จัดจำหน่ายเกม Destiny 2 กลับมาทำเองแล้ว ตอนนี้ตัวเกมเวอร์ชั่นฟรีได้ใช้ชื่อว่า New Light Edition รวมทั้งทีมผู้พัฒนาก็เปิดขายส่วนเสริมใหม่ชื่อ Shadowkeep บนระบบ Steam แล้ว รวมทั้งรองรับ cross-play เล่นข้ามแพลตฟอร์มไปหาชาวคอนโซลได้ด้วย
Destiny 2: Shadowkeep จะนำเราไปยังตะลุยพระจันทร์ดวงใหม่พร้อมกับเพิ่มเนื้อเรื่อง, ดันเจี้ยน, Raid boss ชุด, ระบบเสื้อเกราะแบบใหม่และอื่น ๆ เข้ามาอีกมากมาย นอกจากนี้ยังทำการปรับบาลานซ์หลายอย่างในตัวเกมให้ดีขึ้นจากตอนแรกอีกด้วย
สตูดิโอ Bungie ผู้พัฒนาเกม Halo แยกตัวออกจากไมโครซอฟท์ กลายเป็นบริษัทอิสระตั้งแต่ปี 2007 จากนั้นในปี 2010 บริษัทก็เซ็นสัญญากับ Activision ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมให้ สัญญามีอายุนาน 10 ปี
ผลงานของ Bungie และ Activision ภายใต้สัญญานี้คือ Destiny ทั้งสองภาค อย่างไรก็ตาม วันนี้ Bungie ประกาศไม่ต่อสัญญากับ Activision แล้ว โดยสิทธิการจัดจำหน่ายเกม Destiny จะกลับคืนมาอยู่กับ Bungie ทั้งหมด
Bungie ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้เล่น และฝั่งของ Activision ก็ออกมาขอบคุณ Bungie ที่ร่วมงานกัน ซึ่งหลังจากนี้ไป Activision ก็จะหันไปโฟกัสที่เกมในเครือของตัวเองเป็นหลัก