Central Provident Fund (CPF) หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแห่งชาติสิงคโปร์ประกาศเตรียมจำกัดวงเงินการถอนต่อวันเหลือ 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 50,000 บาท เพื่อสู้กับการหลอกลวงต่างๆ รวมถึงแอปดูดเงิน
นโยบายใหม่นี้มีผลวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้และจะบังคับกับผู้ที่มีสิทธิ์ถอนเงินอายุ 55 ปีขึ้นไป การตั้งค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ จากนั้นผู้ใช้จะสามารถสแกนใบหน้าเพื่อปรับค่าระหว่าง 0-200,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ได้เอง แต่หลังการสั่งปรับวงเงินแล้วจะต้องรออีก 12 ชั่วโมง คำสั่งจึงจะมีผล
แนวทางการสแกนใบหน้าเมื่อมีการทำธุรกรรมสำคัญจะค่อยๆ ขยายไปเรื่อยๆ เช่น การเปลี่ยนข้อมูลติดต่อ, การเปลี่ยนข้อมูลบัญชีเงินฝาก แนวทางนี้คล้ายกับมาตรการที่ใช้ในธนาคารไทย (แถมวงเงินใกล้เคียงกัน) แต่ของไทยยังไม่มีการหน่วงเวลาเมื่อมีการทำธุรกรรมสำคัญ
ที่มา - The Strait Times
Comments
ถ้ามีหน่วงเวลานี่โหดเกินสำหรับเงินฝาก กรณีที่ต้องการโอนเยอะๆบางทีมันมาด่วน ไม่สามารถวางแผนล่วงหน้า 12-24 ชม ได้เลย
ซึ่งถ้าเป็นคนกลุ่มนี้ก็ควรตั้งวงเงินตั้งแต่วันแรกหรือเปล่าครับ
lewcpe.com, @wasonliw
บางทีมันไม่สามารถตั้งได้ทันก่อนออกไปครับ และคนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยตั้งวงเงินสูงๆโดยไม่จำเป็นด้วยครับ ถ้าไม่ใช่กลุ่มที่ทำตรงนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ก็เป็นคนกลุ่มน้อยนะครับ ผมว่าการแก้ปัญหาพวก Scam น่าจะมีสเกลที่ใหญ่กว่า
มันมีงานกี่ประเภทหรือครับ ที่ต้องจ่ายเงินเป็นแสนโดยไม่รู้ล่วงหน้า หรือรู้แล้วรอ 12 ชั่วโมงไม่ได้ หนี้บัตรเครดิตหน่วงวันนึงยังยอมกันเลย
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่องหน่วงหรือ pending เนี่ยอเมริกาใช้นานแล้วครับสมัยผมไปเรียนต่อ บัญชีออมทรัพย์จะถูกลิมิตเงินเลยว่าใช้ได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 800 USD ยกเว้นว่าเราจะไปแจ้งให้เพิ่มยอดสูงสุดต่อสัปดาห์
แล้วการ pending โอนเงินนี่คือ 3 วันครับ พวกสแกมในอเมริกามันเลยเปลี่ยนไปหลอกคนแก่ว่าโอนเงินมาเกินให้ส่งเงินสดทางพัสดุกลับหามันแทน เพราะธนาคารเดี๋ยวนี้ตรวจสอบหนักมากต่างจากของไทย (กฎหมายที่นั่นแรงกว่าไทยมากครับ)
เรื่องดูดเงินในบัญชีของอเมริกาเขาแก้ปัญหาแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้วครับ
ผมอ่านข่าวแล้วเข้าใจว่า
ที่โดนหน่วง12ชม. คือคำสั่งขยายวงเงิน
ป้องกันแฮกเกอร์ แฮกได้ก็สั่งเปลี่ยนวงเงินแล้วดูดหมดบัญชีได้ทันทีอยู่ดี
งานยากขึ้นเรื่อยๆ อีกเรื่องคือตอนนี้ไปฝากเงินที่ตู้
ต้องกดบัตรประชาชน ใส่เบอร์มือถือรอรับotp
ขั้นตอนเยอะจัด ต่อไปจะมีอะไรยุ่งยากกว่านี้ไหม😂
ถ้ากฏใหม่ที่ตั้งไปนี้ ยังมีปัญหาอีก ก็จะมีมาเรื่อยๆแหละครับ
ฝากเงินที่ตู้ถ้าสอดบัตร ATM/Debit ตัวเอง ก็จะ Bypass ขั้นตอนเหล่านั้นได้นะครับ แต่เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้หลายคนไม่ทำบัตรกันแล้ว
ยกเลิกไปครึ่งปีเจอแบบนี้ก็คิดอยู่ครับว่าจะกลับไปทำบัตรดีไหม
ไม่สอดบัตรทำเสียเวลาเยอะขึ้นมากกกกเลยครับ😩😩😩
ที่ขัดใจยิ่งกว่าคือ บางตู้มีช่องเสียบบัตรประชาชน แต่ใช้ยืนยันได้แค่เพื่อเปิดใช้แอปอย่างเดียว...
ขอแบบ hardware token เพื่อ bypass ผ่าน nfc ได้ไหมยอมจ่าย