แอปเปิลออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ จากประเด็นแอป Beeper Mini ที่ทำให้สามารถรับ-ส่งข้อความ iMessage บน Android ได้ โดยปลายทางเห็นเป็นข้อความที่ส่งจาก iMessage กล่องข้อความสีฟ้าด้วยวิธีวิศวกรรมย้อนกลับ จากนั้นในไม่กี่วันฟังก์ชัน iMessage ก็ไม่สามารถใช้งานได้ทันที โดยคาดว่าแอปเปิลทำการบล็อกการใช้งานนี้
Nadine Haija ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ของแอปเปิลชี้แจงว่า แอปเปิลสร้างผลิตภัณฑ์และบริการ โดยให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลมาก่อน ตอนนี้แอปเปิลได้บล็อกเทคนิคที่ทำให้สามารถสวมรอยปลอมเป็น iMessage ได้แล้ว และย้ำว่าเทคนิคนี้มีความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ฝั่ง Beeper ก็อัพเดตล่าสุดตอนนี้ iMessage สามารถใช้งานได้แล้วผ่านแอปดั้งเดิมคือ Beeper Cloud แต่ยังใช้ใน Beeper Mini ไม่ได้
ส่วน Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Beeper ให้ความเห็นหลังจากแอปเปิลออกแถลงการณ์ โดยยืนยันว่าไม่เข้าใจความคิดของแอปเปิลที่บล็อกการเข้าถึง iMessage เพราะเท่ากับผลัก ให้ผู้ใช้ Android ต้องคุยกับ iPhone ผ่านโปรตอคอล SMS ที่ไม่ปลอดภัยแทน เขายินดีให้ทีมความปลอดภัยของแอปเปิลร่วมรีวิวโค้ดในทุกบรรทัดเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน ตามแนวทางที่แอปเปิลต้องการ
ที่มา: The Verge
Comments
เหตุผลที่แท้จริงคือ “ถ้าแอนดรอยด์ใช้ได้ ยอดขายมือถือเราก็ตกสิ”
ไม่น่าใช่เหตุผลที่แท้จริงนะครับ น่าจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวมากกว่า…
จากความเห็นข่าวก่อนหน้าก็ถูกนะครับ ถ้า client ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือทาง server ไม่ได้เปิด public ไว้ ก็ถือเป็นการเข้าทางช่องโหว่ของ server การอุดช่องโหว่ของ apple ก็ไม่ผิด เค้าไม่ได้อนุญาตแต่แรกอยู่แล้ว
เหตุผลที่แท้จริงคือ "จู่ๆ มี Client จากไหนไม่รู้มาต่อ Server โดยที่เราไม่ได้อนุญาต เราก็ต้อง Block ตามปกตินะครับ"
ง่ายๆ ลองคิดว่า Facebook ผ่อนปรนให้ คนแปลกหน้าที่ไม่ใช่เพื่อเราแชทมาหาเราแล้วตั้งค่าให้แชทไปกองที่หน้าหลักของ Messenger ไม่แยกไม่คัดกรองไปไว้หน้าอื่นๆ เราจะโอเครกันไหมล่ะครับ ถ้าไม่โอเครคนใช้ไอโฟนเค้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ
ก็เห็นมีข้อความจากคนแปลกหน้า พนันออนไลน์ เข้ามาที่iMessageทุกวันเลยครับ
ผมไม่เห็นนานแล้วนะครับ
+1
เค้าถามว่าโอเคกับข้อความลักษณะนี้หรือเปล่านะครับ
แต่ที่มาทาง imessage ไม่เห็นนานแล้วนะครับ จะมีก็มาแต่ทาง sms
ไม่เห็นแล้วนะครับ ผมเจอแต่ SMS คุณไปเอาข้อความไหนในอดีต มาพูดต่อหรือเปล่าครับ ตอนนี้ผมเจอแต่ทาง SMS ลิงค์หลอกลวงยังมาอยู่
เอาจากอดีตนั่นแหละครับ ผมมาช่วยยืนยันอีกเสียงว่าไม่มีเหตุการณ์ข้อความพนันโผล่มาแล้วจริงๆ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
appleเห็นแก่ตัวเป็นปกติอยู่แล้ว รวมถึงบริวารของมันอย่าง procreate
ใจป๋าต้องดู google เป็นตัวอย่าง
ไม่จริงครับ สุดท้ายขึ้นอยู่กับผลประโยชน์กันหมด
ไมโครซอฟท์โวย กูเกิลบล็อคไม่ให้ทำแอพ YouTube for Windows Phone
แฉเบื้องหลังสงคราม YouTube for Windows Phone
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
เรื่องเมื่อทศวรรษที่แล้ว แถมลงมาได้แค่เรื่องเดียว เทียบกับecosystemแบบโครตปิดของappleไม่ได้เลย ตั้งแต่เรื่องของการexportที่สุดท้ายต้องไปทำในXcodeอยู่ดี
apple tv ที่ปิดยิ่งกว่าamazon prime video แทบไม่ต้องเทียบกับ youtube ด้วยซ้ำ
ผมว่ามันย้อนกลับไปประเด็นเดิม คือบริษัทเหล่านี้ เมื่อเป็นมวยรอง หรือเป็นรายย่อยก็มักอิงมาตรฐานเปิดหรือเป็นมิตรกับภายนอกมากกว่า ขณะที่พอคุมภาพใหญ่ได้แล้วก็แสวงหาประโยชน์สูงสุด
ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีต่อผู้บริโภคแต่อย่างใด ในฐานะผู้บริโภคเราก็อาจจะต้องเรียกร้องการกำกับดูแลที่เข้มข้นขึ้น (แบบ DMA ของยุโรป?? หรือแบบอื่น?)
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่อง ecosystem แบบปิด อันนี้เห็นด้วยกับคุณครับ แต่ผมไม่เห็นด้วยเรื่อง "google ใจป๋า" เพราะไม่ใช่เรื่องจริง
นอกจากเรื่องแอพตามที่คุณ lew ตอบ ในทางสาย AI ยังมีเรื่องอย่าง ONNX ที่ tensorflow ยังไม่รองรับแบบทางการ ขณะที่เจ้าอื่น ๆ รองรับกันไปหมดแล้วครับ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
YouTube บล็อคคนที่ใช้ส่วนเสริมข้าม ads อันนี้ป๋ามั้ยฮะในมุมมองนี้
มันคือการสวมรอย+ปลอมตัว ทำไมจะต้องอนุญาตให้ใช้งานด้วยนะ
คนที่ไปใข้ service เค้าก็ใช้ฟรี ถ้าทำระบบเค้ามีปัญหาขึ้นมาก็ไม่ได้รับผิดชอบอีก อย่างน้อยก็ไปทำระบบเค้ามี load เพิ่มขึ้นแน่ๆ
อีกอย่างเค้าก็ไม่ได้เปิด public ตั้งแต่แรก
ผมก็งงอยู่ว่ามีเหตุผลอะไรที่ต้องให้มาแอบใช้งาน
ครั้งนึงเคยมีข้อความโฆษณาเว็ปพนันผ่านเข้ามาทาง iMessage จนคนใช้ iPhone ในเมืองไทยหัวหมุนกันหมด แต่ Apple ก็จัดการเรียบในเวลาไม่ถึง 3 เดือน นี่เชื่อว่าระบบความปลอดภัยที่ Apple หมายถึงคือตรงนี้แหละ สำหรับ Beeper หากยังเปิดไว้ scammer ทั้งหลายคงจะใช้เป็นช่องทางนึงบุกเข้ามาแน่ อุดไว้แต่เนิ่นๆนะดีแล้ว
เป็นการลักไก่ หรือแฮกเข้ามาใช้เครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
อยากติดต่อเข้าหากันต้องรอแอปเปิ้ลรองรับ rcs ปีหน้า
ยังวนเวียนอยู่แถวๆระบบเปิดระบบปิด ถ้าระบบเปิดมันไม่มี App ดีๆให้ใช้ ไม่ปลอดภัยก็ไม่มีความหมาย ถึงจะมีเป็นล้านๆ App
เจอเด็ก PC ก็ฝังหัวมาแบบนี้เลย แถมบอกยังไง PC ก็ระบบเปิดกว่า Mac แรงก็แรงกว่าเยอะ แต่คนพิมพ์ประโยคนี้มาไม่เคยใช้ Mac นี่สิ 55
นั้นสิ แล้วอย่าง rcs ใครจะนั่งกรอง scam spam
แหม่ ผมล่ะเจอแต่สาวก mac เพ้อเจ้อมาบอกแต่ว่า PC จอฟ้า ใช้แต่โปรแกรมเถื่อนว่ะ ใครก็ไม่รู้น่าสงสาร คงโดนปลูกฝังมาแบบนี้
มาแล้ว แฟนพันธุ์แท้แอปเปิลตัวจริง
ก็ถูกน้า เพื่อความปลอดภัย ทุกอย่างห้ามมายุ่งกับ ระบบ ของเอเปิล