เว็บไซต์ Ars Technica ประเมินสถิติแหล่งที่มาของการผลิตไฟฟ้าในสหรัฐ (อ้างอิงตัวเลขจาก US Energy Information Agency) คาดว่าในปี 2023 สหรัฐอเมริกามีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าที่ไม่ปลดปล่อยคาร์บอน เพิ่มขึ้นมาแตะหลัก 40% ได้สำเร็จแล้ว
ส่วนที่เหลือยังเป็นการผลิตไฟฟ้าที่เกิดการปล่อยคาร์บอน ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ 44% และถ่านหิน 16% ทิศทางการใช้ถ่านหินนั้นลดลงจากเกือบ 20% ในปี 2022 มาเหลือ 16.2% ในปี 2023 ส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติกลับเพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2022 มาเป็น 43.4% ในปี 2023
บทความที่เกี่ยวข้อง เตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ Vogtle 3 ในสหรัฐฯ เปิดใช้งาน เตาแรกในรอบ 7 ปี
ภาพประกอบโดย Erik Wilde จาก Wikipedia
ส่วนตัวเลขของประเทศไทย เท่าที่หาได้มาจากรายงานสรุปสถิติปี 2565 ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน โดยก๊าซธรรมชาติ + ถ่านหิน + น้ำมัน รวมกัน 71%, พลังงานหมุนเวียน + น้ำ รวมกัน 13% แต่ต้องหมายเหตุว่ามีสัดส่วนของพลังงานนำเข้าจากต่างประเทศด้วยอีก 16% ทำให้ไปเทียบกับตัวเลขของสหรัฐตรงๆ ไม่ได้
ที่มา - Ars Technica
Comments
ไม่มีพวกพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) เหรอเนี่ย เห็น Yellowstone ร้อนๆ
ด้วยความที่ืเป็นอุทยานเลยสร้างไม่ค่อยจะได้ครับ
ดูแล้วน่าจะดันขึ้นยาก สงสัยต้องรอนิวเคลียร์รุ่นใหม่เป็น Buffer
ปลอดภัยแค่ไหนถ้ายังใช้ชื่อนิวเคลียอยู่ก็มีกระแสต่อต้านอยู่ดี
พระแม่ธรรมชาติพึงพอใจ
ส่วนไทยมีเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าที่ไม่ปลดปล่อยคาร์บอนทั้งหมดในปี 2608 ถึง 2613
ข่าวดีสำหรับชาวโลก
ส่วนประเทศเราต่อให้ใช้พลังงานสะอาด 100% ปัญหาฝุ่นก็ไม่หายไป เพราะมันขยะกันแทบทุกบ้าน