Xiaomi ประเทศไทยประกาศวางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ Redmi Note 13 Series จำนวน 3 รุ่นประกอบไปด้วย Redmi Note 13 (4G), Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 Pro+ 5G ราคาเริ่มต้น 6,999 บาท พร้อมได้แบมแบมเป็นพรีเซนเตอร์คนล่าสุด
Redmi Note 13 (4G) มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080
- ความสว่างสูงสุด 1800 nits คอนทราสต์ 5,000,000:1
- อัตรารีเฟรช 120Hz
- ช่วงสีกว้าง 100% DCI-P3
- กระจก Corning Gorilla 3
- กล้องหลัก 108MP f/1.75
- กล้องอัลตราไวด์ 8MP f/2.2
- กล้อง Macro 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 16MP f/2.4
- ถ่ายวิดีโอได้ 1080p 30fps
- ชิป Snapdragon 685 เทคโนโลยีกระบวนการผลิต 6nm
- แรม LPDDR4X 6GB/8GB
- ความจุแบบ UFS2.2 128GB/265GB
- มีช่องใส่ microSD รองรับความจุสูงสุด 1TB
- รองรับ 4G, Wi-Fi 5, Bluetooth 5.1, NFC, USB Type-C 2.0
- ลำโพงคู่ Dolby Atmos
- ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
- น้ำหนัก 188.5 กรัม
- ความทนทาน IP54
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 33W
- เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- AI ปลดล็อกด้วยใบหน้า
- มี 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Mint Green และ Ocean Sunset
- ราคา 6,999 บาท (8GB + 256GB)
Redmi Note 13 5G มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
- หน้าจอ FHD+ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080
- ความสว่างสูงสุด 500 nits คอนทราสต์ 5,000,000:1
- อัตรารีเฟรช 120Hz
- ช่วงสีกว้าง 100% DCI-P3, 10 bit
- กระจก Corning Gorilla 5
- การหรี่ไฟ PWM 1920Hz
- กล้องหลัก 108MP f/1.7
- กล้องอัลตราไวด์ 8MP f/2.2
- กล้อง Macro 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 16MP f/2.4
- ถ่ายวิดีโอได้ 1080p 30fps
- ชิป MediaTek Dimensity 6080 เทคโนโลยีกระบวนการผลิต 6nm
- แรม LPDDR4X 6GB/8GB
- ความจุแบบ UFS2.2 128GB/265GB
- มีช่องใส่ microSD รองรับความจุสูงสุด 1TB
- รองรับ 5G, Wi-Fi 5, Bluetooth 5.3, NFC, USB Type-C 2.0
- ลำโพงเดี่ยว Dolby Atmos
- ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
- น้ำหนัก 174.5 กรัม
- ความทนทาน IP54
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 33W
- เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านข้าง
- AI ปลดล็อกด้วยใบหน้า
- มี 3 สีได้แก่ Graphite Black, Arctic White และ Ocean Teal
- ราคา 7,999 บาท (8GB + 256GB)
- ราคา 9,999 บาท (12GB + 512GB)
Redmi Note 13 Pro+ 5G มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
- หน้าจอ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220
- ความสว่างสูงสุด 1800 nits คอนทราสต์ 5,000,000:1
- อัตรารีเฟรช 120Hz
- ช่วงสีกว้าง 100% DCI-P3, HDR10+, 12 bit
- กระจก Corning Gorilla Victus
- รองรับ Dolby Vision
- การหรี่ไฟ PWM 1920Hz
- การปรับความสว่าง 16,000 ระดับ
- กล้องหลัก 200 MP f/1.65 OIS ขนาดเซนเซอร์ 1/1.4
- กล้องอัลตราไวด์ 8MP f/2.2
- กล้อง Macro 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 16MP f/2.4
- ถ่ายวิดีโอได้ 720p 240fps / 1080p 120fps / 4k 24-30fps
- ชิป MediaTek Dimensity 7200-Ultra เทคโนโลยีกระบวนการผลิต 4nm
- แรม LPDDR5 8GB/12GB
- ความจุแบบ UFS3.1 265GB/512GB
- รองรับ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC, USB Type-C 2.0
- ลำโพงคู่รองรับ Dolby Atmos
- ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
- น้ำหนัก 204.5 กรัม
- ความทนทาน IP68
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 120W
- เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- AI ปลดล็อกด้วยใบหน้า
- มี 3 สีได้แก่ Midnight Black, Moonlight White และ Aurora Purple
- ราคา 13,990 บาท (8GB + 256GB)
- ราคา 15,990 บาท (12GB + 512GB)
ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 13 ครอบด้วย MIUI 14 เริ่มเปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมเป็นต้นไป
ที่มา - Xiaomi, Redmi Note 13, Redmi Note 13 5G, Redmi Note 13 Pro+ 5G
Comments
รุ่น Redmi Note 13 (4G) ในไทย มี NFC ใหม
ไม่รู้ว่าแยกตามประเทศหรือเปล่า
กล้องอัลตราไวด์น้อยไปนิดอ่ะ ให้มาสัก 12-16 mp ก็ไม่ได้
WE ARE THE 99%
กล้อง Macro 2MP นี่เอามาใช้แนวไหนนี่ น้อยจังหรือแค่วัดมุมระยะเฉยๆ
หมื่นห้า ไปเอา Poco F5 ดีกว่า