By: arjin 
on 22 January 2024 - 06:22
Tags:
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข่าวแอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On โดยคราวนี้เขาพูดถึงปัญหาเฮดเซต Apple Vision Pro ที่อาจมีแอปภายนอกจากนักพัฒนาไม่มากพอ ซึ่งมาจากหลายสาเหตุรวมกัน
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังแอปเปิลเปิดให้สั่งจอง Vision Pro ก็มีแอปรายใหญ่เช่น Netflix, YouTube และ Spotify ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีแอปเวอร์ชัน Vision Pro ออกมา และบอกให้ใช้งานผ่าน Safari บน Vision Pro แทน ถึงแม้ในฝั่งนักพัฒนาจะสามารถกดส่งแอป iPad มาใช้บนสโตร์ Vision Pro ได้เลย แต่ผู้พัฒนาเหล่านี้ก็เลือก opt-out
Gurman บอกว่าสาเหตุนั้นมีหลายอย่าง ตั้งแต่ผู้พัฒนามีต้นทุนทำแอปที่สูงขึ้น โดยเฉพาะหากต้องแก้ไขแอปสำหรับ Vision Pro (native) แต่ก็น่าสนใจว่าทำไมพวกเขาไม่เลือกส่งแอป iPad ไปเลย, นอกจากนี้ผู้พัฒนาบางราย ก็มีประเด็นขัดแย้งกับแอปเปิลเรื่องค่าธรรมเนียมสโตร์ แม้ล่าสุดแอปเปิลให้จ่ายเงินภายนอกได้ แต่ค่าธรรมเนียมก็ยังสูงถึง 27%
ปัญหาถัดมาจากฝั่งผู้พัฒนาเกม หลายรายมีเกมที่ออกแบบบนเฮดเซต VR ได้ดี ซึ่งต้องใช้คอนโทรลเลอร์มือที่ Vision Pro ไม่รองรับ ถ้าจะเปลี่ยนมาใช้การควบคุมด้วยสายตาบวกมือที่เป็นแนวทาง Spatial Computing ของ Vision Pro ผู้พัฒนาเกมก็ยังต้องการทดสอบมากกว่านี้ก่อนว่ามันให้ประสบการณ์ที่ดีพอ
สุดท้ายเป็นผลงานอดีต เนื่องจากระบบแอปสโตร์ช่วงหลังของแอปเปิล ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ตั้งแต่สโตร์ของ Apple Watch, Apple TV หรือสโตร์ iMessage ทำให้ผู้พัฒนาที่จากเดิมเร่งทำแอปลงแพลตฟอร์ม จึงเลือกรอดูไปก่อนแทน
ที่น่าสนใจคือแม้แต่แอปเปิลเอง ก็ยังมีแอปพื้นฐานจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้พัฒนาใหม่เป็นเวอร์ชันสำหรับ Vision Pro แต่พอร์ตแอปจาก iPad มาเลย เช่น Podcasts, News, Calendar หรือ Reminders
ที่มา: Bloomberg
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สรุปสาระสำคัญและของใหม่จาก Microsoft Ignite 2023 | Cloudnone Special EP
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
- Microsoft, Amazon, Google ประกาศตั้ง Data Center ในไทย แล้วไงต่อ | Cloudnone EP 16
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
Comments
นึกถึงตอน Nintendo 3DS เปิดตัวใหม่ๆ ใส่เทคโนโลยีสุดว้าวแต่ตั้งราคาสูงเกิยไปคนซื้อไม่เยอะ แต่พอลดราคาคนซื้อเยอะขึ้น นักพัฒนาลงเกมรัวๆ จนกอบกู้สถานการณ์มาได้
ตัดภาพไปที่ vita ;_;
ทำไม apple ไม่จ่ายเงิน จ้างทำแอปไปเลย จะได้วินๆ ทั้ง 2 ฝ่าย
จะว่าไป Maps ของ Apple เองก็ยังไม่เอามาลงเลยนะ
ใส่เดินถนน ใส่ขับรถเลยเหรอครับ ฮ่าๆ
เอาไว้ดู VR Street View น่ะครับ
Native Vision Pro ในระดับใช้งาน Production ได้แบบจริงจัง พัฒนาลำบากมากครับ ลองละ
ถ้าแค่อยาก Hello World มันก็swiftUI ออกมา ImmersiveSpace ลอยๆ หนึ่งอัน บน Emu. ....แต่ถ้าทำเป็นเรื่องเป็นราว
ต้องมีความรู้ C# และ การวาง object ของ Unity,ARKit สำหรับการทำ RealityKit เข้ามาด้วย
(เหมือนจ้างdev Unity เพิ่มเข้ามาอีกคนในทีม) cost,time การพัฒนาก็เพิ่มขึ้น
แอปไม่ต้องมากครับ มีแค่ตัวเดียวที่ใช้ได้จริงก็คุ้มแล้ว
อำนาจการต่อรองสูญหายไปกับ iCEO
ราคาสินค้าแพงมหาศาล
กลุ่มเป้าหมายกลุ่มบน เศรษฐกิจแบบนี้ น่าจะเหนื่อย
โกลบอลไม่ได้
เคยแอบคิดว่า สินค้า apple จะเป็นอะไรที่คนตามหา HomePod ก็เช่นกัน นิ่งทั้งๆที่มันน่าจะขายดี
ถ้า apple ทำคนยังลังเล สงสัยจะเกิดยากละแว่น vr
บริษัทเอเปิล ทุนหนาขนาดนี้่ จ้างนักพัฒนาให้มาทำแอพลงเยอะๆ ก็ได้แล้ว มั้ง
ปริมาณแอพก็ส่วนนึง แต่ถ้าไม่มีแอพดึงดูดหรือจูงใจมาใช้ก็ยากที่จะเกิด
ราคาก็แพงมีแต่แอพหาประโยชน์ใช้งานไม่ได้มันก็ดูไม่ค่อยคุ้มนะครับ
ยังไม่รวมกลุ่มลูกค้าที่จำกัดด้วยกลุ่มเล็กๆ(apple วางตัวไว้ในกลุ่ม luxuryอาจะไม่มองตรงนี้)
แบบที่ไมโครซอฟท์เคยทำกับ Windows Phone เหรอครับ 😏
สายเกมยังไงก็ไม่เวิร์ค เพราะคนเล่นเกม VR จริงๆจะรู้ว่ามันมีจังหวะที่ตัว Headset มันมองไม่เห็นมือคนเล่นอยู่แล้ว เช่นเอื้อมไปหยิบดาบจากด้านหลังคนเล่น เอื้อมไปหยิบของจากกระเป๋าข้างแบบไม่ได้มอง
แล้วไหนจะพวก ท่าทางที่มีรายละเอียดอีก พวกหยิบ จับ ฟัน ยิง เขวี้ยง ที่มีความเร็วที่แตกต่างกันอีก หรือพวก feed back ที่มือยังไงก็ดักว่่าเอามือกวาดลม
แต่เข้าใจได้แหละ ว่า Apple ออกแบบมาสำหรับสายนั่งใช้งานมากกว่า ดูจากที่มีสายก็สอบตกสำหรับคนใช้ยืนหรือเดินเล่นแล้ว
เอ มีสายแต่ใส่กระเป๋าติดตัวนี่ครับ 🤔 ก็ไม่น่าแย่ขนาดนั้น
ส่วนเกมนี่คงยากจริงถ้าไม่มีปุ่มอะไรให้กด แต่เอาจริง controller ของ Quest 3 (ได้ไม่ได้ซื้อตัวที่มีกล้องใน controller มาใช้) เอื้อมไปข้างบนและข้างหลังนี่ก็เละอยู่นะครับ orz
ผมใช้ xreal air ถึงจะไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็ต้องเสียบสายเหมือนกัน แล้วก็ไม่ได้ใช้เล่นเกมหรือขยับเร็วๆอะไร แค่ใช้ดูหนังตอนเข้าครัวเฉยๆก็มีเดินไปเดินมาหยิบจับของ(ในโลกจริง)นิดหน่อย ส่วนอุปกรณ์ก็เอาใส่กระเป๋าเสื้อ/กางเกง (กรณีของผมคือ Powerbank + Google TV + Adapter เพราะไม่มีมือถือที่รองรับ)
โดยส่วนตัวผมก็รู้สึกว่าใช้งานได้ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้นครับ เพราะงั้นผมคิดว่าเรื่องสายไม่น่าจะเป็นอุปสรรคมากมายอะไรสำหรับการยืนหรือเดินเล่นนะครับ
สเปคแบตน้ำหนักและขนาดใหญ่กว่า Powerbank ทั่วไปอยู่นะ ใส่กระเป๋ากางเกงเดินสั้น ๆ ไปหยิบของคงได้ แต่ใส่เพื่อยืนเล่นกางเกงน่าจะห้อย จังหวะนี้กระเป๋าคาดเอวคาดหน้าอกต้องเข้าละ แต่ยังไงรอดูของจริงละกัน เหมือน appple ถ่ายรูปถ่าย vidoe ไม่ค่อยให้เห็นแบตเท่าไหร่
ใช้ทำงานอะไรได้ ตัดวีดีโอไม่ได้แน่ ทำเพลงก็ไม่ได้ กราฟฟิคดีไซน์ก็ไม่ได้
ผู้จะพลิกวิกฤตนึ้ได้คือ pornhub โปรดให้ access ได้ด้วยเถิด
ตรงประเด็น
คิดว่า ราคาแรงเกิน ท่ามกลางเศรษฐกิจ/อัตราดอกเบี้ยแบบนี้ 🤔