บริษัทวิจัยตลาด TrendForce ออกรายงานตลาดแว่น VR/MR ทั่วโลกประจำปี 2024 คาดว่าขายได้ประมาณ 9.6 ล้านชิ้น เติบโต 8.8%
เจ้าตลาดแบบทิ้งห่างยังเป็น Meta ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงทิ้งห่าง 73% และมียอดขายเพิ่ม 11% ต่อปี จากการเปิดตัวแว่น Quest 3S ที่มีราคาถูกลงเหลือ 299 ดอลลาร์
อันดับสองคือ Sony PS VR2 ส่วนแบ่งตลาด 9% แต่ยอดขายลดลง 25% ต่อปี หลังจากโซนี่ไม่พยายามผลักดัน PS VR2 มากนักแล้ว และใช้วิธีเปิดให้เชื่อมต่อกับพีซีได้แทน
ส่วน Apple Vision Pro เพิ่งเข้ามาทำตลาดปี 2024 ชิงส่วนแบ่งตลาดได้ 5% ถือเป็นผู้เล่นอันดับสาม แต่ตลาดของแอปเปิลก็ยังจำกัดมากเพราะราคาที่แพงมากนั่นเอง
จดหมายข่าว Power On โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิมสัปดาห์นี้ อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่าแอปเปิลมีแผนเพิ่มยอดขาย Apple Vision Pro ให้มากขึ้นโดยเจาะตลาดเกมเมอร์ ด้วยการรองรับคอนโทรลเลอร์สำหรับเกม VR
บริษัทที่ Gurman ระบุชื่อคือ Sony โดยจะทำให้ visionOS ระบบปฏิบัติการพื้นฐานของ Vision Pro รองรับคอนโทรลเลอร์ PlayStation VR2 ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินงานอยู่
รายงานบอกว่าตามแผนเดิมนั้น แอปเปิลกับ Sony จะประกาศความร่วมมือเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ได้เลื่อนออกไปก่อน ซึ่งนอกจาก Sony แล้ว แอปเปิลก็เจรจากับบริษัทผู้พัฒนาอุปกรณ์รายอื่นด้วยเช่นกัน เพื่อให้ Vision Pro รองรับเกมโลกเสมือนมากขึ้น
Mark Gurman แห่ง Bloomberg มีรายงานเพิ่มเติมจากข่าวชิปโมเด็ม 5G ที่แอปเปิลพัฒนาขึ้นเอง จะเริ่มใช้กับ iPhone SE ในปีหน้า โดยบอกว่าเมื่อแอปเปิลมีเทคโนโลยีนี้ของตนเอง ทำให้บริษัทกำลังศึกษาแนวทางนำชิปเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ไปใส่ในฮาร์ดแวร์อื่นที่ไม่เคยมีฟีเจอร์เชื่อมต่อเครือข่าย 5G มาก่อนเพิ่มเติม
สินค้าหลักที่แอปเปิลสนใจเพิ่มการเชื่อมต่อ 5G เข้าไปก็คือ Mac ซึ่งแม้การที่แล็ปท็อปจะต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจะไม่ใช่ของใหม่ในอุตสาหกรรม แต่สำหรับ Mac นั้นเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามถ้ามี Mac ต่อ 5G ได้จริง เร็วที่สุดก็น่าจะเป็นปี 2026 ตามแผนการออกชิปโมเด็มรุ่นถัดมาที่จะใช้กับ iPhone 18 ด้วย
แอปเปิลประกาศเริ่มขายเฮดเซต XR Apple Vision Pro ที่ไต้หวัน ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2024 เป็นต้นไป โดยเริ่มเปิดพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม เวลา 9:00น. ตามเวลาท้องถิ่น
ราคาขาย Vision Pro ที่ไต้หวันเริ่มต้นที่ 119,900 ดอลลาร์ไต้หวัน สำหรับรุ่นความจุ 256GB
ลูกค้าในไต้หวันสามารถจองคิวเพื่อทดลองเดโมใช้งานเป็นเวลา 30 นาที ที่ร้าน Apple Store ซึ่งในไต้หวันมี 2 สาขา
เมื่อเดือนที่แล้ว Vision Pro เพิ่งเริ่มขายที่เกาหลีใต้และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
จุดขายสำคัญของเฮดเซต Apple Vision Pro คือการแสดงผลวิดีโอแบบ Immersive ที่ให้ความรู้สึกสมจริงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้น และกรณีการนำไปใช้งานหนึ่งที่น่าจะทำให้คนสนใจมากขึ้นก็คือการดูถ่ายทอดสดกีฬา ที่ให้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในสนาม
มีรายงานจาก Marca สื่อของสเปนโดยอ้างคำพูดของ Florentino Pérez ประธานสโมสรฟุตบอล Real Madrid บอกว่าทุกคนต่างต้องการมาชมการแข่งขันในสนาม Santiago Bernabéu ทำให้ตอนนี้ทางสโมสรกำลังเจรจากับแอปเปิล เพื่อให้แฟนบอลสามารถใส่แว่นตาแล้วนั่งชมการแข่งขันได้เหมือนกับนั่งอยู่ในสนาม ทำให้สนาม Santiago Bernabéu มีความจุที่ไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป
แอปเปิลเริ่มขายเฮดเซต Apple Vision Pro เพิ่มเติมอีกสองประเทศคือ เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยลูกค้าสามารถจองเพื่อทดสอบการใช้งาน Vision Pro ได้ที่ร้าน Apple Store ที่นั่น
แอปเปิลเริ่มขาย Vision Pro ในสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นจึงเพิ่มประเทศที่ขายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม โดยในเอเชียมีจีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เมื่อรวมกับเกาหลีใต้และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้ Vision Pro มีขายแล้วใน 12 พื้นที่
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลในจดหมายข่าว Power On สัปดาห์นี้ว่าด้วย iPad Air และ Apple Vision Pro
เริ่มที่เฮดเซต Apple Vision Pro ซึ่ง Gurman บอกว่า Vision Pro รุ่นที่สองนั้น มีแนวทางพัฒนาออกมาหลายรูปแบบซึ่งแอปเปิลยังไม่ได้สรุป แต่มีโอกาสสูงที่จะใช้ดีไซน์แบบเดิม แล้วอัปเกรดชิปกับฮาร์ดแวร์ด้านในแทน ข้อมูลนี้สอดคล้องกับรายงานของ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ขาประจำอีกคน ที่บอกว่า Vision Pro รุ่นที่สอง จะใช้ชิป M5 กำหนดขายในปีหน้า
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On คราวนี้มาหลากหลายสินค้า รายละเอียดดังนี้
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิล ที่ใช้แหล่งข่าวสายซัพพลายเชน โพสต์ข้อความใน X บอกว่าจากข้อมูลที่เขามีตอนนี้ แอปเปิลจะเลื่อนเปิดตัวเฮดเซต Apple Vision Pro ออกไปอย่างน้อยในปี 2027 ทำให้สินค้าใหม่ในตระกูล Mixed Reality ตามแผน จะมีเฉพาะ Vision Pro รุ่นใหม่ชิป M5 ออกมาปีหน้า 2025 ซึ่ง Kuo เคยรายงานก่อนหน้านี้
Canon ประกาศว่าเลนส์คู่ RF-S7.8mm F4 STM DUAL ที่ใช้กับกล้อง EOS R7 ในการถ่ายวิดีโอแบบ Spatial สำหรับเฮดเซต Apple Vision Pro ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนในงาน WWDC24 จะเริ่มขายในเดือนพฤศจิกายน 2024 นี้
RF-S7.8mm F4 STM DUAL ออกแบบมาสำหรับการสร้างเนื้อหา 3D หรือ VR ด้วยระยะโฟกัส 7.8 มม. มีมุมมองภาพ 60 องศา การใช้งานทำได้สะดวกเหมือนกับเลนส์ 2D ทั่วไป เมื่อบันทึกวิดีโอด้วยเลนส์นี้แล้ว สามารถใช้งานปลั๊กอิน EOS VR ของ Adobe Premiere Pro เพื่อแปลงเป็นฟุตเทจ 3D 180 องศา หรือใช้ซอฟต์แวร์ EOS VR Utility สามารถแสดงผลได้ทั้ง Apple Vision Pro หรือ Meta Quest 3
ราคาขายในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 449.99 ดอลลาร์
Vimeo แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ เปิดตัวแอปสำหรับ Apple Vision Pro เพื่อเพิ่มความสามารถการนำเสนอประสบการณ์ผ่าน Spatial Video ที่เป็นฟอร์แมตใหม่สำหรับ Vision Pro สามารถบันทึกและอัปโหลดได้ผ่าน iPhone 15 Pro และ iPhone 16 ทุกรุ่น
นอกจากนี้ Vimeo ยังเปิดตัวภาพยนตร์สั้น "currents" ซึ่งเล่าเรื่องราวผ่านฟอร์แมต Spatial Video บน Vision Pro โดยจะเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน
The Information อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องโดยตรงหลายคน บอกว่าแอปเปิลเตรียมหยุดการผลิตเฮดเซต Apple Vision Pro ภายในปีนี้ หลังจากเริ่มสั่งลดจำนวนผลิตลงตั้งแต่เมื่อกลางปี โดยให้เหตุผลว่าจำนวนที่ผลิตจนถึงสิ้นปี เพียงพอสำหรับความต้องการไปจนถึงปีหน้าแล้ว
เรื่องนี้อาจสรุปได้ยากว่า Vision Pro ขายได้มากหรือน้อยอยู่ที่จำนวนซึ่งแอปเปิลประเมินไว้ โดยตัวเลขฝั่งซัพพลายเออร์รายหนึ่งบอกว่าผลิตชิ้นส่วนสำหรับ Vision Pro ไปแล้วประมาณ 5-6 แสนอัน ขณะที่บางซัพพลายเออร์ก็หยุดการผลิตชิ้นส่วนไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
Luxshare ซึ่งเป็นโรงงานที่ประกอบ Vision Pro ให้แอปเปิล มีตัวเลขว่าการผลิตตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1,000 อันต่อวัน ลดลงครึ่งหนึ่งจากช่วงที่กำลังการผลิตสูง
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ The Wall Street Journal ในหลายประเด็นเกี่ยวกับนวัตกรรมรวมทั้ง Apple Vision Pro และ Apple Intelligence
ว่าด้วยเรื่องของ Apple Vision Pro เฮดเซต Mixed Reality ราคาแสนสอง (3,500 ดอลลาร์) ซึ่งยังเป็นคำถามว่าผลิตภัณฑ์นี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ Cook ยอมรับว่าที่ราคาสินค้าตรงนี้ มันไม่ใช่สินค้าแมสสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่เป็นสินค้าสำหรับคนที่อยากนำหน้าใช้งานก่อน ได้เล่นกับเทคโนโลยีวันพรุ่งนี้ก่อนใคร ซึ่งแอปเปิลโชคดีที่มีคนกลุ่มนี้มากพอ
รายงานข่าวลือสินค้าใหม่แอปเปิล จากจดหมายข่าวประจำสัปดาห์โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม คราวนี้ว่าด้วยสินค้าตัวใหม่ ข้ามไปไกลปี 2027 และเฮดเซต Apple Vision Pro รุ่นราคาถูกลงที่ยังอยู่ในแผน
เริ่มด้วย Vision Pro ซึ่งรุ่นปัจจุบันแอปเปิลขาย 3,499 ดอลลาร์ และมีข่าวเกี่ยวกับรุ่นถัดไปมาตลอดว่าอาจเป็นทั้งรุ่นถัดไปสเป็กแรง หรือรุ่นที่ทำราคาถูกลง ข้อมูลของ Gurman บอกว่าจะยังมีทั้งสองแนวทาง โดยรุ่นราคาถูกลงอาจลดลงครึ่งหนึ่ง ลดสเป็กชิปมาเป็น M1 หรือตระกูล A จากปัจจุบันเป็น M2 และตัดฟีเจอร์ EyeSight ที่แสดงดวงตาออกจอภายนอก วัสดุก็อาจเปลี่ยนเป็นพลาสติก เปิดตัวเร็วที่สุดต้นปีหน้า
Bloomberg รายงานว่า Dan Riccio หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิลฝ่ายฮาร์ดแวร์ ที่ทำงานกับแอปเปิลมานานถึง 26 ปี ได้เกษียณจากการทำงานในเดือนนี้ ซึ่งเคยมีรายงานออกมาก่อนหน้านี้
Riccio เริ่มงานที่แอปเปิลในปี 1998 ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ในปี 2012 มีส่วนร่วมทั้งสินค้าหลักทั้ง iPhone, iPad, Mac และ Vision Pro ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านมาเป็น Apple Silicon
ตำแหน่งล่าสุดที่มีการเปิดเผยของ Riccio คือหัวหน้าทีม Vision Pro โดยในช่วงเดียวกันเขาก็ดูแลส่วนรถยนต์ไร้คนขับหรือ Project Titan ที่แอปเปิลยุติโครงการไปแล้วด้วย
Juno แอปสำหรับดูวิดีโอ YouTube บนเฮดเซต Apple Vision Pro เปิดเผยว่าแอปได้ถูกถอดออกจาก App Store แล้ว หลังจาก YouTube ได้ร้องเรียนไปที่ App Store ของแอปเปิล
ในตอนแรกที่แอปเปิลเปิดตัว Vision Pro ทาง YouTube ได้ออกมาบอกเองว่ายังไม่สนใจทำแอป native บน visionOS และแนะนำให้ผู้ใช้งานไปดูวิดีโอผ่านเว็บบน Safari แทน จึงทำให้เกิดช่องว่างสำหรับนักพัฒนาแอปที่ดึงวิดีโอมาเล่นผ่าน YouTube API ซึ่งรวมทั้ง Juno ด้วย
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิลขาประจำ โพสต์ข้อมูลล่าสุดว่าด้วย Apple Vision Pro รุ่นใหม่ ซึ่งเขาบอกว่าจะเริ่มเข้าสู่สายการผลิตหลักครึ่งหลังปี 2025 โดยใช้ชิป M5 (รุ่นปัจจุบันเป็น M2) ซึ่งทำให้การใช้งาน Apple Intelligence ได้ประสบการณ์ดีที่สุด
อย่างไรก็ตามนอกจากชิปรุ่นใหม่แล้ว สเป็กฮาร์ดแวร์ส่วนอื่น และการออกแบบภายนอกจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ซึ่งแอปเปิลคาดว่าจะช่วยทำให้ต้นทุนถูกลง และทำให้ราคาขายลดลงได้
เมื่อ Vision Pro จะเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เข้ามา ส่วนจอที่สวมติดกับศีรษะจึงเป็นโจทย์สำคัญในการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน ให้สั่งการต่าง ๆ ได้ราบรื่น และอาจเป็นคำตอบของการพัฒนาฮาร์ดแวร์ AI ในอนาคตด้วย
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับแอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On ซึ่งคราวนี้เขาลงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการขาย Vision Pro ของแอปเปิล เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น หลังจากเริ่มขยายประเทศที่จำหน่ายในเอเชียช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แอปเปิลเริ่มส่งมอบเฮดเซต Apple Vision Pro ให้กับลูกค้าในเอเชียได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ตามที่ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นประเทศกลุ่มแรกที่ Vision Pro มีขายนอกสหรัฐอเมริกา หลังจากเริ่มขายมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
ราคาขายนั้นใกล้เคียงกับราคาในสหรัฐ ที่เริ่มต้น 3,499 ดอลลาร์ (1.3 แสนบาท) โดยสิงคโปร์ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5,299 ดอลลาร์สิงคโปร์ (1.4 แสนบาท), ญี่ปุ่นเริ่มต้น 599,800 เยน (1.37 แสนบาท) หรือในฮ่องกงราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 27,999 ดอลลาร์ฮ่องกง (1.32 แสนบาท)
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่าแอปเปิลได้ปรับโฟกัสการพัฒนา Apple Vision Pro เฮดเซต Spatial Computing จากการออกรุ่นใหม่ที่อัปเกรดสเป็กฮาร์ดแวร์ มาเป็นการออกรุ่นที่ราคาถูกลงภายในปีหน้าแทน ล่าสุด Mark Gurman แห่ง Bloomberg มีข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้
เขาบอกว่าแอปเปิลกำลังพัฒนา Vision Pro ที่ราคาถูกลง (ซึ่งก็ไม่น่ามีคำว่า Pro แล้ว) โค้ดเนมภายใน N107 มีสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นปัจจุบันคือมุมมองของภาพแคบลง และต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับ iPhone หรือ Mac ตลอดเวลาที่ใช้งาน ทำให้ลดต้นทุนส่วนการประมวลผลที่เฮดเซตได้ กำหนดเปิดตัวภายในต้นปี 2025
มีรายงานจาก The Information อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่าก่อนหน้านี้แอปเปิลแบ่งโครงการพัฒนาเฮดเซต Vision Pro รุ่นใหม่ เป็นสองโครงการคือ Vision Pro 2 และ Vision รุ่นที่ราคาถูกลง แต่ล่าสุดซัพพลายเออร์รายหนึ่ง ได้รับข้อมูลว่าโครงการ Vision Pro รุ่นใหม่ได้ถูกระงับไว้ชั่วคราว เพื่อโฟกัสที่การทำเฮดเซต Vision ที่ราคาถูกลงอย่างเดียว โดยมีกำหนดเปิดตัวในปีหน้า
Canon ประกาศว่าบริษัทกำลังพัฒนาเลนส์คู่ RF-S7.8mm F4 STM DUAL สำหรับใช้กับกล้อง EOS R7 ในการถ่ายวิดีโอแบบ Spatial ซึ่งสามารถดูได้ผ่านเฮดเซต Apple Vision Pro ตามที่แอปเปิลได้ประกาศในงาน WWDC24 เมื่อคืนนี้
Canon บอกว่าเลนส์คู่รุ่นนี้เป็นหนึ่งในสินค้าตระกูล EOS VR System กำหนดขายภายในปลายปีนี้ (กันยายน-ธันวาคม) โดยยังไม่ประกาศราคา ซึ่งเป็นผู้ผลิตเลนส์รายแรกที่รองรับการถ่ายวิดีโอสำหรับ Vision Pro
เลนส์ RF-S7.8mm F4 STM DUAL มีมุมมองการเก็บภาพเหมือนกับมุมมองของบุคคล และมีระบบโฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูง เมื่อบันทึกวิดีโอผ่านเลนส์ดังกล่าว ให้แปลงข้อมูลผ่านแอป EOS VR Utility เพื่อให้รองรับการใช้งานกับ Vision Pro
แอปเปิลนำเสนอ visionOS 2 ระบบปฏิบัติการ Spatial Computing สำหรับเฮดเซต Apple Vision Pro เวอร์ชันใหม่ ซึ่งเพิ่มความสามารถในการแสดงรูปภาพ, คำสั่งมือ และเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา
Photos เพิ่มความสามารถสร้างรูปภาพแบบ Spatial ที่มีมิติความลึกมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแชร์อัลบั้มภาพระหว่างผู้ใช้คนอื่นผ่าน SharePlay ทำให้ได้ประสบการณ์ดูรูปภาพร่วมกันแบบใหม่ นอกจากนี้แอปเปิลยังประกาศว่า Canon จะออกเลนส์ Spatial ตัวใหม่สำหรับกล้อง EOS R7 ภายในปีนี้ ทำให้ครีเอเตอร์สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Spatial ได้ จากปัจจุบันมีใน iPhone 15 Pro
แอปเปิลประกาศขายเฮดเซต Apple Vision Pro เพิ่มเติมในอีกหลายประเทศ มีรายละเอียดดังนี้
ที่มา: แอปเปิล
เฮดเซต Apple Vision Pro มีรายงานมาก่อนหน้านี้ว่าแอปเปิลเตรียมขายในประเทศอื่นเพิ่มเติม จากปัจจุบันมีขายที่สหรัฐอเมริกาที่เดียว ซึ่งเดิมนั้นคาดว่าแอปเปิลจะประกาศประเทศที่มีขายก่อนงาน WWDC สัปดาห์หน้า แต่ก็ยังไม่มา
ล่าสุด Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สายซัพพลายเชนที่ให้ข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลอยู่เป็นประจำ บอกว่าแอปเปิลจะเริ่มจัดส่ง Vision Pro ไปยังประเทศต่าง ๆ กลางเดือนนี้ หรือหลังงาน WWDC จึงคาดว่าแอปเปิลน่าจะประกาศวันขายในงาน