Yoshinori Kitase ให้สัมภาษณ์กับ Eurogamer ถึงเกม Final Fantasy VII Rebirth ที่กำลังจะวางจำหน่าย ส่วนนึงของการสัมภาษณ์พูดถึงประเด็นก่อนหน้าที่ Kitase เคยสัมภาษณ์กับยูทูบชาวฝรั่งเศสว่า หากจะรีเมค FFVI อาจต้องใช้เวลาเป็น 2 เท่าของ FFVII ถึงจะสร้างเสร็จครบทุกพาร์ท โดยทาง Eurogamer ถาม Kitase ว่าเป็นไปได้ไหมที่จะรีเมค Final Fantasy VI เป็นเกมขนาดเล็กกว่า เช่น การใช้สไตล์ภาพ 2D-HD จาก Octopath Traveller ?
Kitase ตอบว่าถ้ามีนักพัฒนาภายในบริษัทต้องการใช้สไตล์นั้น (2D-HD) หรือสไตล์อื่นที่รู้สึกว่าเหมาะสมกับเกมที่จะรีเมค และเป็นสไตล์ที่แฟน ๆ อยากเห็น Kitase คิดว่าเป็นไปได้ และตัวเขาก็อยากเห็นเช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น Kitase อธิบายเพิ่มเติมว่าการรีเมค FFVII ถูกแยกออกจากเกมซีรีส์หลักอย่างสิ้นเชิง แม้ไตรภาค FFVII จะประสบความสำเร็จแต่ไม่ได้หมายความว่า Square Enix จะหยิบเกมในซีรี่ส์มารีเมคต่อควบคู่ไปกับเกมภาคใหม่
ภาพจาก Final Fantasy VI Pixel Remaster
ที่มา - Eurogamer
Comments
แค่คิดว่าถ้าภาค 7 REMAKE ทำตาม OG ทุกอย่างก็คงสเกลใหญ่กว่านี้มากมาย แล้วภาค 6 รีเมค 3D เต็มรูปแบบต้องขายได้เท่าไหร่จึงจะคุ้มทุนทรัพยากรเนี่ย.
ถ้าเป็น 2D เกมเมอร์ก็เล่นของเก่าอรรถรสก็ไม่ได้แตกต่างกัน
กลัวการทำเกมใหม่ขนาดนั้นเลยรึ เข้าใจว่าต้นทุนการทำเกมมันสูงขึ้นมา เลยต้องทำอะไรที่ปลอดภัยไว้ก่อน แต่มันก็ทำให้ไม่ก้าวไปข้างหน้าเหมือนกัน
ลองดูโมเดลการทำเกมที่ประสบความสำเร็จสูงอย่าง Elden Ring สิ มีโครงเกมเดิมมาต่อยอดปรับปรุงไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องสร้างใหม่จากศูนย์ทุกครั้ง หวังว่า SQEN จะมี framework ที่ทำให้เดินไปข้างหน้าได้สักที
ถ้ากลัวเค้าไม่ไปทำforspokenหรอกลงทุนทำสตูแยกทำเอนจิ้นใหม่เหลวทุกภาคส่วนเงินจมไปตั้งเท่าไหร่ ปัญหาคือทีมงานยุคหลังพยายามสร้างเกมให้ยูนีคแต่ดันมือไม่ถึงพลาดหลายๆสิ่งสำคัญๆไปหมด อย่าง16ทีมสร้างไม่เข้าใจว่าเกมofflineไม่ควรจะทำระบบหลายๆอย่างเหมือนเกมออนไลน์ มันทำให้เกมขาดความสนุกในการสำรวจในการฟาร์มไปเลยแล้วก็ใส่ซีนีมาติกมามากเกินไปจนคนเล่นเบื่อ ต้องเข้าใจด้วยว่าคนเล่นส่วนใหญ่เค้ามาเล่นเกมไม่ได้มาดูหนังความคาดหวังมันต่างกันมานั่งดูคัทซีนยาวๆแล้วมานั่งกดทริกเกอร์แบบอาชูร่าวอชซึ่งเป็นระบบที่หลายๆคนไม่ได้ชอบ เสียดายcgกับเพลงที่ทำได้ดีมากแต่ไม่ได้เป็นตำนานเพราะเกมโดยรวมเฉยๆเกินไป