คณะกรรมการดูแลกฎหมายการตลาดดิจิทัลของสหภาพยุโรป (Digital Markets Act - DMA) ประกาศให้ 4 บริการออนไลน์ ได้แก่ iMessage ของแอปเปิล และ Bing, Edge, Microsoft Advertising ของไมโครซอฟท์ ที่เคยระบุว่าเข้าข่าย gatekeeper ซึ่งทำให้ต้องเปิดแพลตฟอร์มให้บริการอื่นมาเชื่อมต่อใช้งานได้ ไม่เข้าสถานะดังกล่าวเนื่องจากยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
ก่อนหน้านี้ทั้งแอปเปิลและไมโครซอฟท์ ได้ยื่นคำร้องต่อ EU ให้พิจารณาสถานะของ 4 บริการนี้ใหม่ โดยระบุว่ามีผู้ใช้งานน้อยกว่าเกณฑ์ที่ EU กำหนดคือ 45 ล้านคน ซึ่งหลังจากคำตัดสินดังกล่าวออกมา ทั้งแอปเปิลและไมโครซอฟท์ก็ออกแถลงการณ์ว่ายินดีต่อคำตัดสินนี้
บริการแชทที่เข้าข่าย gatekeeper ของสหภาพยุโรปได้แก่ WhatsApp และ Facebook Messenger ซึ่งทั้งสองบริการเริ่มเปิดรองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มภายนอกแล้ว ส่วนเบราว์เซอร์ที่เข้าเกฑณ์ได้แก่ Chrome และ Safari
ทั้งนี้คณะกรรมการของสหภาพยุโรปบอกว่าจะยังคงตรวจสอบสถานะของบริการกลุ่มนี้ต่อไป และแจ้งการเปลี่ยนแปลงหากมีพัฒนาการในอนาคต
ที่มา: European Commission และ The Verge
Comments
ส่วนตัวคิดว่าไม่เปิดอะดีแล้ว แค่กลุ่มลูกค้ามันก็ต่างกันแล้ว Apple เขาขายความปลอดภัยและ Luxury การปล่อยให้คนนอกซึ่งก็จะมีหลายกลุ่มผู้ใช้งานมาปนกันคิดว่าไม่ใช่เรื่องดี ถ้าเป็นผมมีเงินใช้สินค้า Apple คงไม่อยากให้ใครที่ไหนก็ได้ส่งข้อความมาหาเราก็ได้ ก็อยากจะคัดกรองคนที่เข้ามาให้อยู่ฐานะเดียวกับตัวเอง
อันนี้ปั่นถูกมั้ยครับ?
อ่ะ เผื่อไม่ปั่น iMessage ช่วงนึงนี่ Spam กระจุยเลยนะครับ เพราะมันไม่เสียเงิน
คงต้องดูประวัติล่ะครับ ว่าปั่นหรือไม่ปั่น แต่ถ้าเป็นผมพิมพ์แบบนี้นี่ปั่นแน่นอน
ที่ผมเจอหมอด้วยกันเองใช้ไอโฟนไม่เยอะ ส่วนผู้ช่วยหมอ พนักงาน ไอโฟนรุ่นใหม่ๆกันแทบทุกคน ไม่รู้เอาเงินมาจากไหน 555
พอดีผมชอบไปนั่ง สตบ. ที่ทั้งหมอ และนศ.แพทย์มานั่งอยู่เยอะมาก (คือมันไม่ได้ไกลจากโรงพยาบาลศิริราช และมหาวิทยาลัยมหิดลมาก และเปิด 24ชม. ด้วย)
ส่วนใหญ่คือแอปเปิ้ลทุกชิ้นครับ อย่างน้อยต้องมีไอแพดหนึ่ง ใครมีตังค์หน่อยก็จะมีทั้ง ไอโฟน ไอแพด แม๊คบุ๊ค แอร์พอด เรียกว่าครบเซ็ตเลย ถ้ามี vision pro ขายแถว ๆ นี้ผมว่าก็น่าจะมีคนใช้นะ
เงินเขาน่าจะทำงานหามาครับ
สิ่งสำคัญที่หลายคนมักเข้าใจผิดในกม.นี้คือเขาต้องการให้ "เพิ่มทางเลือก" ไม่ใช่ "บังคับให้เปลี่ยน" ครับ เพราะงั้นในมุมที่คุณว่ามา ต่อให้โดน DMA อย่าง Apple ก็คงทำปุ่มเปิดปิดมา ซึ่งถ้าคุณปิดมันก็ไม่กระทบอะไรกับคุณอยู่แล้วล่ะครับ
หลังจากนี้ apple ก็จะหยุดทำ RCS ไปดื้อๆ 😝
Ooh
เห็นเพื่อนอยู่ทีมซัพพอร์ทให้อาจารย์ใน ม ที่ใช้ iPad ทำสื่อการสอน เข้าใจเลยว่าทำไมตอนเรียนมันต้อง Apple อาจารย์ติดปัญหาอะไรก็เดินมาที่ Shop แก้ปัญหาได้หมด เอาดรอย เอาวินโดว์ไปลง ใครจะซัพพอร์ทให้ แถมช่วยออกแบบบทเรียน หา App ช่วยสอนให้อีก
ผมมองกรณี iMessage ไม่ค่อยจะยึดตลาดเท่าไรเหมือนกัน มีเฉพาะอเมริกาเหนือเท่านั้นที่แทบจะเบ็ดเสร็จ ซึ่งก็ไม่ต่างจาก LINE ในบ้านเราเท่าไร
Microsoft Advertising นี่ไม่น่าจะโดนกับเพื่อนด้วยเลย