Federal Trade Commission (FTC) สั่งปรับ Avast ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเป็นเงิน 16.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเก็บข้อมูลการเข้าเว็บผ่านส่วนขยายเบราว์เซอร์และนำไปขายให้กับองค์กรอื่นกว่า 100 ราย
FTC ระบุว่า Avast เริ่มเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์มาตั้งแต่ปี 2014 จากทั้งเบราว์เซอร์พีซีและโทรศัพท์มือถือ โดยรวมทั้งข้อความค้นหาและรายชื่อเว็บที่ผู้ใช้เข้าใช้งาน แม้ว่าบริษัทจะโฆษณาว่าส่วนขยายของเบราว์เซอร์จะช่วยลดการติดตามตัว เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ทาง Avast ระบุว่าข้อมูลที่ส่งต่อนั้นลบข้อมูลส่วนบุคคลออกแล้ว แต่ FTC ก็ยืนยันว่ามาตรการไม่เพียงพอ เพราะ Avast ไม่ได้ส่งต่อข้อมูลแบบสรุป (aggregated) แต่ส่งข้อมูลรายชิ้น ระบุหมายเลขประจำตัวเบราว์เซอร์, เมืองที่ผู้ใช้ใช้งาน, เวลาที่เข้าเว็บ, ชนิดของอุปกรณ์และยี่ห้อเบราว์เซอร์ ข้อมูลเหล่านี้เพียงพอที่ผู้ที่ได้ข้อมูลไปจะพยายามระบุตัวตนผู้ใช้อยู่ดี
โทษของ FTC นอกจากการปรับแล้ว ยังต้องแจ้งผู้ใช้ถึงการถูกลงโทษครั้งนี้, ลบข้อมูลเดิม, ห้ามขายข้อมูลจากสินค้าในแบรนด์ Avast อีกต่อไป, สินค้ากลุ่มอื่นที่ไม่ได้ใช้แบรนด์ Avast จะต้องขอความยินยอมผู้ใช้ใหม่
ที่มา - FTC
Comments
เจ้านี้นี่พอๆกับไป๋ตู่แถมมากับสารพัดโปรแกรมลบก็ยาก ฝังเป็นไวรัสเลย
+1
แถมทำให้เครื่องช้าด้วยครับ เพราะว่าเคยเจอมาแล้ว
Antivirus ขวัญใจชาวเว็บม่วง 👍👍👍
ตอนนี้รู้สึกว่า Antivirus software ทำตัวน่ารำคาญกันหมดเลย ผมใช้ Kaspersky แล้วแบบว่าเอิ่ม เสียตังค์ซื้อแล้วยังต้องรำคาญกับความฉลาดของท่าน
ถ้าแบบไม่โดนกฏให้ใช้ Antivirus แล้วต่อ VPN ลูกค้าไม่ได้เนี่ย ผมไม่ใช่แน่ๆ เพราะบน Windows ผมขอแค่ Windows Defender พอละ ชีวิตเข้าแต่เว็บทั่วไป แถมไม่ค่อยได้โหลดอะไร ที่โหลดมาทำงานก็ทำบน Linux เป็นหลัก)
..: เรื่อยไป
securityทุกอย่างมันก็มาพร้อมกับขั้นตอนและความยุ่งยากที่เพิ่มขึ้นแหละ แต่มันไม่วัวหายล้อมคอกถ้ารอให้เกิดความเสียหายถึงตอนนั้นจะมานึกเสียดายก็ไม่ทันละ แล้วคนไทยละเลยเรื่องพวกนี้กันเยอะ ชอบคิดว่าไม่เป็นไร ต้องรอโดนเข้ารหัสทั้งเซิร์ฟเรียกค่าไถ่ก่อนถึงสำนึกกัน อารมณ์เดียวกับbeltหรือหมวกกันน็อคที่คนไทยไม่ชอบคาด/ใส่ บอกก็ยังไม่เคยชนแต่ถ้ารอให้ชนก็ไม่ทันแล้วขิตอยู่ในหลุมละ
มันไม่ได้ยุ่งยากเรื่องความปลอดภัย แต่มันยุ่งยากยุบยับเพราะ software อื่นๆที่เจ้าของ anti-virus พยายามยัดเยียดใส่เข้ามาเพื่อขายส่วนเสริมเพิ่ม เพื่อหาเงินล้วนๆ ทั้งรกทั้งน่ารำคาญ
ใช่ครับ ที่รำคาญคือยัดเยียดการขายฟีเจอร์เสริม เรื่องความปลอดภัย ผมว่า user ใน bn ส่วนใหญ่เราคำนึงกันตรงนั้นอยู่แล้ว เช่นการให้สิทธิ์ของ app, การจัดการ firewall, port ต่างๆ การปิด root อะไรงี้
..: เรื่อยไป
Windows Defender (ปัจจุบันชื่อ Microsoft Defender Antivirus) นี่ก็เลิศแล้วครับ
เดี๋ยวนี้แอนตี้ไวรัสมีแต่โฆษณาฟีเจอร์ใหม่
แบบทดลอง 1-3 เดือน แถมฟีเจอร์แพงกว่า
ตัวโปรแกรมหลัก.....
ปล. ตอนนี้ใช้แฟมิลี่ ค่ายแดง
ของที่ติดมากับวินโดส์มันเพียงพอไหมนะ