Final Fantasy VII Rebirth เกมภาคที่ 2 ของการหยิบ Final Fantasy VII (1997) มาสร้างใหม่ มีบทวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ ออกมาแล้วได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 93/100 คะแนนจาก Opencritic และ Metacritic หลายสื่อชมว่าตัวเกมยกระดับ และแก้ข้อสังเกตจากภาค Remake ได้ดีแผนที่แบบโลกเปิดมีความลึกหลายระดับแม้จะเนื้อหาที่เกิน ๆ และมินิเกมที่น่าเบื่อหลุดมาบ้างก็ตาม โดยมีตัวอย่างบทวิจารณ์จากสื่อดังนี้
GameSpew 10/10: Rebirth เหนือกว่า Remake ในทุกด้าน มันเป็นผลงานชิ้นเอก มันบอกเล่าเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่กว่าพร้อมจุดหักมุมที่ทำให้ผู้เล่นอินได้ ถึงแม้ว่าองค์ประกอบเรื่องราวใหม่ ๆ อาจทำให้ผู้เล่นบางคนไม่เข้าใจ แต่มันทำให้เกมดูสดใหม่ขึ้นมันเกินความคาดหมาย ต่อยอดจากเกมต้นฉบับและ Remake อย่างแท้จริง Square Enix มอบภาคต่อที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่และดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน
Noisy Pixel 10/10: Rebirth เป็นภาคต่อที่เหนือความคาดหมายในเกือบทุกด้าน มันผสมผสานการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ, การต่อสู้ที่สร้างสรรค์ และเนื้อหาที่น่าสนใจมากมายเพื่อมอบการผจญภัยที่ยากจะลืมเลือน ด้วยความที่ภาคต่อนี้ถือเป็นการปูทางไปสู่ภาคสุดท้าย เลยทำให้แฟน ๆ ต่างตั้งตารอสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ Square Enix ก้าวข้ามตัวเองได้อย่างแท้จริง โดยแสดงให้เห็นถึงความลุ่มลึก และศักยภาพที่จักรวาล Final Fantasy VII ทำได้
IGN Japan 10/10: Rebirth อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่สร้างขึ้นมาอย่างดี แม้ว่าการเดินทางครั้งใหม่ของ Cloud จะยังไม่เสร็จสิ้น แต่ Rebirth ก็นำเสนอเรื่องราวสะเทือนอารมณ์เกิดขึ้นที่ทำได้ด้วยการรีเมคเท่านั้น แม้ว่าจะมีมินิเกมจำนวนเล็กน้อยที่น่าเบื่อ แต่ Final Fantasy VII Rebirth ก็เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่การสำรวจไปจนถึงการต่อสู้ มันมอบคุณภาพ, ปริมาณ และความหลากหลายในเนื้อหามากจนแทบจะไม่มีเนื้อหาอะไรที่เหมือนกันเลย
Game Informer 8.5/10: เกมภาคนี้มีเนื้อหากว้างขวาง และถึงแม้จะมีข้อดีมากมาย เช่น วิธีสำรวจโลกอันเป็นที่รักแบบใหม่ และสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย แต่มันก็มาพร้อมกับข้อเสีย เกมของพวกเขาไม่ได้แตกต่างจากเกมอื่น ๆ ที่แฟน ๆ เกมแนวนี้เคยสัมผัส แต่การเล่นเป็นตัวละครที่น่ารักก็ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดนี้ได้ แต่ความน่าเบื่อ และเนื้อหาที่บวม ๆ เกิน ๆ ของส่วน Open World อาจขัดขวางทำให้ Rebirth เปล่งประกายน้อยลง
Gamer Escape 8/10: ตอนนี้เราทุกคนควร Move On จาก Final Fantasy VII เวอร์ชันต้นฉบับได้แล้ว Rebirth พลิกโฉมให้ FFVII กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และแปลกใหม่ แต่เกมก็มีจุดอ่อนเช่นการต่อสู้ มันมีจุดที่ทำให้เล่น ๆ หยุด ๆ อยู่เยอะ แต่หากคุณตั้งตารอคอยเกมนี้ คุณจะไม่ผิดหวัง
Evilgamerz 7.5/10: การเขียนบทวิจารณ์เกมนี้เป็นการวิจารณ์ที่ยากที่สุด เพราะว่า Rebirth ทำทุกอย่างเพื่อให้คนรักเกมนี้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่อง แต่มันยังคงดีเยี่ยม เพลงประกอบก็ยอดเยี่ยม และกราฟิกในระหว่างคัตซีนก็ทำได้ดี ส่วน Open World ไม่ได้แย่แต่มันเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ไม่มีความหมาย ซึ่งมันทำหน้าที่เป็นตัวเติมเต็มให้โลกและการต่อสู้ได้ไม่เพียงพอ บางทีการเล่นก็ถูกขัดจังหวะบ่อยครั้งจนผลลัพธ์ทั้งหมดโน้มไปทาง "ก็โอเค" มากขึ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เกมนี้ควรเป็น
สำหรับเกมซีรี่ส์ Final Fantasy ภาคสุดท้าย(ที่ไม่นับภาคเสริม)ที่คะแนนรวมแตะ 90/100 คือสมัย Final Fantasy XII เมื่อปี 2006 ที่ทำคะแนนได้ 92/100 ในขณะที่ภาค XIII ทำได้ที่ 83/100, ภาค XIV: A Realm Reborn ทำได้ 86/100, ภาค XV ทำได้ 81/100 และภาค XVI ทำได้ 87/100
Final Fantasy VII Rebirth วางจำหน่ายวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้บน PS5 ราคาแบบดิจิทัลจะเริ่มต้นที่ 2,290 บาท ในขณะที่แบบแผ่นนั้นราคาจะแตกต่างกันไปในละร้านเนื่องจากเกมภาคนี้ Sony ประเทศไทยไม่ได้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแบบตอน Final Fantasy XVI
ที่มา - Metacritic และ Opencritic
Comments
เป็นเกมเดียวที่คิดอยากจะซื้อ PS5 มาเล่น ไม่รู้ต้องรออีกกี่เดือนถึงจะลง PC
เหมือนยังขัดเกลาส่วน open world มาไม่ดี แต่มันก็เป็นส่วนเสริม
ลุ่มลึก
ขอบคุณครับ แก้ไขเรียบร้อยครับ
พลังแห่งชุดว่ายน้ำรึเปล่านะ
XII มันเป็น masterpiece และเป็นคนละทีมกับ FF หลักด้วย
น่าเสียดายที่ภาค 12 มีปัญหาในการพัฒนาตอนท้าย ไม่งั้นคงจะสมบูรณ์แบบกว่านี้อีก