Tesla ประกาศลดราคา Subscription ซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ Full Self-Driving (FSD) สำหรับลูกค้าในอเมริกา จากเดิม 199 ดอลลาร์ต่อเดือน เหลือ 99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งราคา 199 ดอลลาร์นั้นเป็นราคาที่ใช้มานานแล้ว
การซื้อซอฟต์แวร์ FSD นั้นมีสองวิธีคือจ่ายรายเดือน หรือซื้อขาด ซึ่ง Tesla ปรับราคาขึ้นมาเรื่อย ๆ ราคาล่าสุดคือ 12,000 ดอลลาร์ ทำให้เมื่อเทียบกับการจ่าย Subscription แล้ว เท่ากับระยะเวลา 10 ปี ก็น่าจะทำให้คนที่ยังไม่ได้สมัครต้องพิจารณากันใหม่
ซอฟต์แวร์ FSD สำหรับ Tesla ในไทยหรือ ความสามารถในการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ คิดราคาเพิ่มเติม 244,000 บาท
ที่มา: Engadget
You can now subscribe to FSD (Supervised) for $99/month in the UShttps://t.co/0IwC9GC0aF Upgrades > Software Upgrades > Subscribe
— Tesla (@Tesla) April 12, 2024
Comments
วงการรถยนต์ก็หลังหักได้สินะ
ไม่หักสิ เดือนถัดไปก็ได้ลดราคา
บังคับขายอุปกรณ์ไปกลับรถแล้วซินะ ตอน BMW ระบบอุ่นเบาะคนด่า
ซอฟแวร์ที่ต้องมีการอัพเดทหรือซอฟแวร์ที่มีเซิร์ฟเวอร์จะมีรายจ่ายตลอดการใช้งานอยู่แล้วครับ
ไม่เหมือนเครื่องอุ่นเบาะที่สร้างแล้วเสร็จ
ยิ่ง FSD มันเป็น AI ที่เทรนตลอดเวลาด้วย ก็เหมือนเช่า ChatGPT อะนะ
กล้อง , sensor อื่นๆ (ที่ไม่น่าจะมีแล้ว) กับชุด compute ก็จ่ายไปเหมือนที่อุ่นเบาะนะครับ
แต่กล้องกับชุดประมวลผลมันก็ยังได้ใช้นะครับ(ใช้บันทึกรอบรถ, ทำให้จอที่อยู่กลางรถมันใช้งานได้ลื่นไหล หรือไม่ก็พวก Keep Lane, Adaptive Cruise Control) ไม่ได้เหมือนอุ่นเบาะของ BMW เลย ที่มีแต่ไม่ให้ใช้ถ้าไม่จ่าย
เดี่ยวนี้ไม่แยก h/w แล้วหรือเปล่าครับ เห็นถ้าคุ้นๆ ถ้าซื้อมานานจะอัพเกรด FSD เหมือนต้องเข้าศูนย์จ่ายตังค์เปลี่ยนของเปล่า
ตอนนี้ไม่แยกแล้วครับ เพราะเป็น HW3/HW4 หมดแล้ว ถ้าเป็นรถเก่าที่ยังใช้อยู่ HW2 อยู่เหมือนจะเปลี่ยนฟรีนะครับ
"ตามรายงานระบุว่า Sofiaan Fraval ได้นำรถ Tesla Model S P100DL (Dual motor, ludicrous) ซึ่งเป็นออปชันสูงสุดที่ Tesla มี เข้าไปเปลี่ยนไส้กรองอากาศ HEPA ที่ศูนย์บริการเมือง Santa Barbara รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยตัว Fraval เองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร แต่พอได้รถคืนกลับมีรายการติดตั้งคอมพิวเตอร์ FSD อยู่ด้วย และเจ้าหน้าที่ศูนย์ได้แจ้งว่ารถของเขาเป็นคันแรกที่ได้รับการอัพเกรดดังกล่าว แน่นอนว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม"
จาก: https://www.blognone.com/node/111918
hardware มันถูกจะตาย กล้องตัวละเท่าไหร่เชียว ยิ่งไม่ต้องติด radar, uss ด้วยแล้ว
แต่กล้องตัวเดียวกัน จะฉลาดขนาดไหนมันอยู่ที่ software ว่าจะเอากล้องไปทำอะไร เค้าคิดค่า software มันก็ถูกแล้ว ผิดยังไง
คอมเครื่องละหมื่นเหมือนกัน จะเอาไปฟังเพลงอย่างเดียว หรือทำงานหากินให้ได้เงินเป็นล้าน มันอยู่ที่สมอง
เหมือนคุณบ่นว่า cpu ที่จ่ายๆไป มีชุดคำสั่งอีกเยอะที่ไม่ได้ใช้ เสียงตังก์ไปฟรีๆ port lan ก็ไม่ได้ใช้ ใส่มาทำไม คิดตังก์ไปแล้วสิ
ถามว่าถ้าตัดออก ราคาจะลดมั๊ย ลดเท่าไหร่ 0.01%?
คุณแค่เคยชินกับการตลาดรถญี่ปุ่น ที่ option โง่ๆ ราคาถูกๆ เช่น กระจกตัดแสง ไฟเลี้ยว ฝาท้าย radar พวกนั้น เอาไว้ใส่เฉพาะรุ่น top ที่แพงกว่ากันหลายแสน
ระบบอุ่นเบาะมีแค่สั่งเปิด-ปิด อุปกรณ์เดียว
ระบบ fsd มีระบบเปิด-ปิด ตรวจจับวัตถุรอบรถ ระบบการตัดสินใจ ระบบการเรียนรู้ ระบบสั่งเร่ง-เบรค ระบบสั่งเลี้ยว ระบบคำนวณรูปแบบการขับขี่ต่างๆ ฯลฯ และ "ยังต้องมีเจ้าหน้าที่และเซิฟเวอร์กลางคอยพัฒนาและเทรนโมเดลให้ระบบฉลาดขึ้นอยู่ตลอดเวลา" ไม่ใช่ซื้อมาแล้วจบเหมือน acc หรือ drcc แบบค่ายอื่นที่ไม่จำเป็นต้องเทรนอะไรต่อ
เคยรับงานเขียนซอฟต์แวร์และต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับงาน maintenance กับอุปกรณ์นั้นๆไหม? นั่นแหล่ะ แบบเดียวกัน
คงไม่เคยอะครับ เป็นแค่พนักงานธรรมดาไม่ได้เจ้าของธุรกิจรับเองหรือ Freelance ทำสาย Infra งบ MA มักไม่มีด้วย
แล้วก็ปล่อยให้มันเน่าไปงั้นแหล่ะ :P
เออเนอะ...บริษัทก็ต้องจ่ายค่า subscription (เงินเดือน) ให้กับพนักงานอยู่แล้วนี่หน่า...
ไปกลับ -> ไปกับ
บริการแบบนี้ควรคิดเป็น Subscription มันถูกต้องแล้วเพราะมันไม่ได้เหมาะกับ user ทุกคน แต่ Tesla ทุกคันพื้นฐานฟังก์ชั่นเบสิคเทียบกับราคาที่ให้มามันก็แซงหน้ารถยุโรป รถญี่ปุ่น ไปหมดแล้ว
ตอนนี้เอาแค่ Smart Summon กลับมาก่อน
ซอฟต์แวร์ FSD สำหรับ Tesla ในไทยหรือ ความสามารถในการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ที่ยังใช้ไม่ได้ในประเทศไทย คิดราคาเพิ่มเติม 244,000 บาท แม้แต่ระบบ EAP ก็ใช้ได้จำกัดมาก แค่บางเส้นทางเท่านั้น
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6