Waymo บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในเครือ Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล แถลงข่าวว่า Waymo จะเริ่มเดินรถเพื่อเก็บข้อมูลในพื้นที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยในกระบวนการทดสอบนี้รถทั้งหมดจะมีคนขับรถควบคุมพวงมาลัย เริ่มต้นตั้งแต่สัปดาห์หน้า ใน 7 เขตของโตเกียว รวมทั้ง มินาโตะ และ ชิบูยะ
การเริ่มทดสอบ Waymo ในโตเกียวเป็นหมุดหมายสำคัญ เพราะเป็นการนำรถวิ่งบนถนนสาธารณะครั้งแรกนอกสหรัฐอเมริกา และยังเป็นการทดสอบรถอัตโนมัติพวงมาลัยขวาครั้งแรกด้วย โดย Waymo ประกาศแผนการให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ใช้รถยนต์ไฟฟ้า Jaguar I-PACE จำนวน 25 คัน
Uber ประกาศว่าบริษัทจะเริ่มให้บริการรถแท็กซี่อัตโนมัติในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ WeRide บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อัตโนมัติจากจีน โดยได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานคมนาคมของเมืองดูไบแล้ว
WeRide เป็นบริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การประกาศเปิดให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับร่วมกับ Uber นี้ เป็นเมืองที่สองต่อจากอาบูดาบี ที่เริ่มให้บริการเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว
หน่วยงานคมนาคมดูไบมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์อัตโนมัติ โดยตั้งเป้าหมายให้รถยนต์ 25% บนท้องถนนเป็นรถอัตโนมัติภายในปี 2030
จากกรณีรถ SU7 ของ Xiaomi เปิด Autopilot ชนแท่งปูนเสียชีวิต 3 ราย นักวิเคราะห์แนะว่าควรมีการสอนใช้ระบบโหมดช่วยขับ Navigate on Autopilot (NoA) ให้กับผู้ขับขี่หลายล้านคน เพราะพวกเขาต้องรับผิดชอบความปลอดภัยและชีวิตของผู้โดยสาร รวมทั้งรู้สึกตื่นตัวเต็มที่ตลอดเวลาแม้กำลังใช้ระบบอยู่
ด้าน Lei Jun ซีอีโอ Xiaomi โพสต์บน Weibo รายงานความคืบหน้าว่า บริษัทได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนของตำรวจ โดยจะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ตามข้อกังวลของลูกค้าทุกคน ซึ่งทางบริษัทได้รับฟีดแบคแล้ว และจะนำไปปรับปรุงอย่างแน่นอน
Xiaomi แถลงพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจในการสืบสวนอุบัติเหตุที่มณฑลอานฮุย หลังรถสปอร์ตไฟฟ้า SU7 เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา
Xiaomi ระบุว่าก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลา 22:27 น. รถกำลังแล่นอยู่บนทางด่วน Dezhou-Shangrao ที่ความเร็ว 116 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยโหมดช่วยขับ Navigate on Autopilot ก่อนจะมาถึงบริเวณที่มีการก่อสร้างเวลาประมาณ 22:44 น. ซึ่งเลนถูกปิดและมีทางเบี่ยง โดยคนขับพยายามชะลอรถและหมุนพวงมาลัยแต่ก็ชนเข้ากับแท่งปูนด้วยความเร็ว 97 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเกิดเพลิงไหม้เสียหายทั้งคัน (ดูรูปในที่มา) ส่งผลให้คนในรถ 3 คนเสียชีวิต
ประเด็นการทดสอบ Tesla Model Y โดยยูทูบเบอร์ Mark Rober ที่ให้รถเคลื่อนที่ในโหมด Autopilot แต่ไม่สามารถแยกฉากถนนปลอม และรถก็พุ่งชนฉาก กลายเป็นที่ถกเถียงในโลกออนไลน์ เพราะ Tesla มีโหมด FSD ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ใช้งาน แต่ไม่ถูกนำมาทดสอบ
เรื่องนี้เลยทำให้ Kyle Paul ครีเอเตอร์อีกราย ตัดสินใจทดลองเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้ง โดยทดสอบสถานการณ์ด้วยโหมด FSD ใช้รถยนต์ทั้ง Tesla Model Y ที่เป็นฮาร์ดแวร์ HW3 ซอฟต์แวร์ FSD เวอร์ชัน 12.5.4.2 และ Tesla Cybertruck ที่เป็นฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ HW4 กับซอฟต์แวร์ FSD เวอร์ชัน 13.2.8
Tesla ประกาศให้ลูกค้าในประเทศจีนสามารถทดลองใช้งานแพ็คเกจ Full Self-Driving ได้ฟรี มีผลตั้งแต่ 17 มีนาคม ถึง 16 เมษายน ไม่จำกัดว่าเป็นลูกค้าปัจจุบันหรือลูกค้าใหม่
เงื่อนไขคือลูกค้านั้นต้องมีรถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์ซึ่งรองรับการใช้งานระบบช่วยเหลือการขับ รวมทั้งมีซอฟต์แวร์นำทางที่เป็นเวอร์ชันล่าสุด ทั้งนี้ Tesla มีแผนให้บริการระบบ FSD เต็มรูปแบบในจีนภายในปีนี้ โดยร่วมมือกับ Baidu ในการพัฒนาระบบ
รายงานบอกว่าขณะที่ระบบ FSD ในอเมริกา Tesla ไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์แผนที่นำทางทำงานร่วมกัน เพราะมีการฝึกฝนข้อมูล AI เก็บข้อมูลไว้อยู่แล้ว แต่ในจีนนั้น Tesla ไม่สามารถเก็บข้อมูลแบบนั้นได้ตามกฎหมายในจีน จึงต้องใช้ซอฟต์แวร์นำทางทำงานร่วมด้วย
ประเด็นเรื่องกล้อง vs lidar เป็นสิ่งที่ถกเถียงกันมานานในวงการรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งนิกาย Elon Musk และผู้ศรัทธา บอกเสมอว่ากล้องนั้นเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ lidar
ยูทูบเบอร์ Mark Rober จึงจัดการทดสอบ โดยนำ Tesla Model Y เปิดโหมด Autopilot เทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ใช้ lidar ช่วยตรวจจับสภาพแวดล้อม การทดสอบสำคัญคือสร้าง "ฉากถนนปลอม" (เหมือนในการ์ตูนเรื่อง Road Runner) แล้วดูว่ารถยนต์ทั้งสองรุ่นจะตรวจจับถนนปลอมได้หรือไม่
ผลการทดสอบเป็นไปตามคาดคือ รถยนต์ lidar ตรวจเจอได้สบายๆ ในขณะที่ "ศรัทธา" Model Y ชนกับฉากกั้นเข้าเต็มๆ
Waymo ประกาศเริ่มให้บริการแล้วในเมืองออสติน โดยต้องเรียกรถผ่านแอป Uber เท่านั้น ตามแผนงานที่ Waymo ประกาศเมื่อกันยายนปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตามการเรียกรถในออสตินผ่าน Uber เพื่อให้ได้เป็นรถ Waymo นั้นยังไม่สามารถเลือกได้เอง โดยผู้ใช้งานต้องเปิดอนุญาต (opt-in) ตัวเลือกรถ Waymo ก่อน จากนั้นเมื่อต้องการเรียกรถให้ใช้ตัวเลือก UberX, Uber Green, Comfort หรือ Comfort Electric ซึ่งหากมี Waymo อยู่ใกล้ก็จะได้รถเคลื่อนที่อัตโนมัตินี้มารับพาไปยังจุดหมาย ส่วนการสั่งปลดล็อกรถหรือสั่งให้รถเคลื่อนที่นั้นสามารถทำได้ผ่านแอป Uber เหมือนกับแอป Waymo One
Sundar Pichai ซีอีโอ Alphabet เปิดเผยว่าบริการรถยนต์โดยสารอัตโนมัติของ Waymo ตอนนี้ให้บริการเดินทางแบบจ่ายเงินมากกว่า 200,000 เที่ยวต่อสัปดาห์แล้ว
ปัจจุบัน Waymo One ที่เป็นบริการเรียกรถแท็กซี่อัตโนมัติหรือ Robotaxi ของ Waymo ให้บริการเต็มรูปแบบในพื้นที่เมืองฟีนิกซ์, ซานฟรานซิสโก และลอสแอนเจลิส ส่วนออสติน, แอตแลนตา และไมอามี กำลังเตรียมให้บริการเต็มรูปแบบ ตัวเลข 2 แสนนี้เพิ่มขึ้นจากสิงหาคมปีที่แล้วซึ่ง Waymo บอกว่ามีจำนวน 100,000 เที่ยวต่อสัปดาห์
Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber ให้สัมภาษณ์กับ Stratechery ในหลายประเด็นตั้งแต่ก่อนมารับตำแหน่งซีอีโอที่ Uber ไปจนถึงมุมมองเรื่องรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่ง Uber ได้ยกเลิกการพัฒนาและวิจัยส่วนนี้ในบริษัททั้งหมด เปลี่ยนมาใช้วิธีร่วมมือกับบริษัทอื่นแทน
Khosrowshahi ตอบคำถามเรื่องที่ Tesla เตรียมให้บริการ Robotaxi หรือรถแท็กซี่อัตโนมัติผ่านแอป Tesla ว่าไม่มีใครอยากแข่งกับ Tesla ตรง ๆ เพราะศักยภาพของ Tesla นั้นสูงมาก แต่ที่ Uber จะทำคือการเป็นพันธมิตรให้ความร่วมมือ เพราะ Uber วันนี้ก็มีรถยนต์ในระบบที่เป็น Tesla หลายแสนคัน คนขับเหล่านี้สามารถแปลงระบบรถเป็นอัตโนมัติในแอป Uber เมื่อเริ่มให้บริการได้ทันทีเช่นกัน การร่วมมือกันย่อมสร้างมูลค่าที่ดีกว่าต่างคนต่างทำ
บริษัทเรียกรถยนต์ Lyft เตรียมเปิดบริการแท็กซี่ไร้คนขับของตัวเองในปี 2026 "เป็นอย่างเร็ว" เริ่มจากเมืองดัลลัสเป็นแห่งแรก โดยจะใช้เทคโนโลยีจาก Mobileye บริษัทลูกของอินเทล
ตลาดแท็กซี่ไร้คนขับในสหรัฐอเมริกา นำโดย Waymo ที่เปิดบริการไปแล้วหลายเมือง และเพิ่งประกาศแผนขยายเป็น 10 เมืองในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วน Cruise ในเครือ GM ปิดตัวไปแล้วเมื่อปี 2024 และยังมี Cybercab ของ Tesla ที่ระบุว่าจะเริ่มผลิตรถจริงในปี 2026/2027
Waymo ประกาศเริ่มทดสอบนำรถเคลื่อนที่อัตโนมัติวิ่งบนถนน Freeway ซึ่งเป็นถนนที่สามารถขับรถได้เร็วขึ้นมากกว่าถนนชุมชนในเมืองลอสแองเจลิส คาดว่าจะช่วยลดระยะเวลาเดินทางให้กับผู้โดยสารได้มากถึงครึ่งหนึ่งในบางเส้นทาง โดยในช่วงทดสอบนี้จะเปิดให้เฉพาะพนักงานของ Waymo เท่านั้น ที่สามารถเรียกรถแบบเดินทางผ่านถนน Freeway ซึ่งรถจะเดินทางแบบไม่มีคนขับเหมือนกับ Waymo ที่ให้บริการปกติ
Mike Johns ชายชาวลอสแอนเจลิสแชร์ประสบการณ์ผ่าน LinkedIn หลังจากที่ตนติดอยู่ในรถแท็กซี่ Waymo ที่เขาใช้ไปสนามบิน เนื่องจาก Waymo ขับวนเป็นวงกลมในลานจอดรถ Johns ไม่สามารถหยุดหรือออกจากรถได้ แม้กระทั่งฝ่ายบริการลูกค้าที่เขาติดต่อก็ไม่สามารถควบคุมรถได้กระทั่งผ่านไปหลายนาที แต่สุดท้ายเขาก็ขึ้นเครื่องได้ทันเวลาพอดี
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่รถแท็กซี่ไร้คนขับของ Waymo ชนกับหุ่นยนต์ส่งของ Serve Robotics ชนกันที่สี่แยกในลอสแอนเจลิส จากวิดีโอที่เผยแพร่ผ่าน Reddit จะเห็นได้ว่าหุ่นยนต์ส่งของขนาดเล็กกำลังพยายามไต่ขึ้นทางเท้า โดยถอยหลังเล็กน้อยเพื่อตั้งหลัก ซึ่งตอนนั้นเองเป็นเวลาที่แท็กซี่ไร้คนขับเลี้ยวมาชนพอดี
เหตุการณ์นี้ไม่มียานพาหนะคันใดเสียหาย ทั้งคู่ติดกันอยู่ราว ๆ หนึ่งนาทีก่อนจะขับไปตามทางของตัวเองต่อ โฆษกของ Serve Robotics บอกกับ TechCrunch ว่านี่เป็นครั้งแรกที่หุ่นยนต์ส่งของชนกับรถแท็กซี่ไร้คนขับ และยืนยันว่าหุ่นยนต์อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ดูแลระยะไกลในขณะเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวิธีการที่บริษัทใช้อยู่แล้วสำหรับควบคุมหุ่นยนต์ข้ามแยก
Waymo อ้างสถิติจากรายงานของ Swiss Re บริษัทรับช่วงประกันภัยต่อ (reinsurance) รายใหญ่ของโลก ว่ารถยนต์ไร้คนขับของ Waymo มีอัตราการเคลมทรัพย์สินเสียหาย (property damage claim) น้อยกว่ารถยนต์ปกติที่ขับโดยมนุษย์ 88% และการเคลมร่างกายบาดเจ็บ (bodily injury claim) น้อยกว่า 92%
หากนับเป็นจำนวนการเคลมจริงๆ รถของ Waymo ถูกเคลมทรัพย์สินเสียหาย 9 ครั้ง และเคลมร่างกายบาดเจ็บ 2 ครั้ง เทียบกับระยะทางวิ่งทั้งหมด 25.3 ล้านไมล์ หากใช้มนุษย์ขับรถยนต์ที่ระยะทางเท่ากัน จะมีโอกาสเคลมทรัพย์สินเสียหาย 78 ครั้งและร่างกายบาดเจ็บ 26 ครั้ง
Waymo บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับของ Alphabet บริษัทแม่กูเกิล ประกาศว่าบริษัทจะเริ่มทดสอบให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับในพื้นที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการทดสอบให้บริการนอกประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกของ Waymo ด้วย
Waymo จะให้บริการในโตเกียวด้วยรถยนต์ไฟฟ้า Jaguar I-PACE แบบเดียวกับที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา ผ่านความร่วมมือสองบริษัทท้องถิ่นคือ Nihon Kotsu บริษัทให้บริการแท็กซี่ และ GO แพลตฟอร์มเรียกรถแท็กซี่ โดย Nihon Kotsu จะเข้ามาช่วยส่วนของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ที่คอยควบคุมรถหลังพวงมาลัย
Waymo บอกว่าความท้าทายของพื้นที่โตเกียวแตกต่างจากพื้นที่อื่นที่ให้บริการอยู่ปัจจุบัน ทั้งความหนาแน่นของการจราจรและเมือง รวมทั้งเป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา
ไมโครซอฟท์รายงานข้อมูลในเอกสาร 8-K เกี่ยวกับการลงทุนใน Cruise บริษัทพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ GM ที่เพิ่งประกาศยุติการให้บริการแท็กซี่อัตโนมัติ ว่าไมโครซอฟท์จะลงบันทึกขาดทุน 800 ล้านดอลลาร์ กระทบกำไรต่อหุ้นสุทธิ 0.09 ดอลลาร์ จะมีผลในรายงานผลประกอบการไตรมาสปัจจุบัน
GM หรือ General Motors ประกาศหยุดการลงทุนในธุรกิจรถแท็กซี่อัตโนมัติ Cruise โดยให้เหตุผลเพื่อปรับโฟกัสเงินลงทุนของบริษัท และการแข่งขันในตลาดรถแท็กซี่อัตโนมัติที่สูง
ฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีของ Cruise จะถูกรวมเข้ากับทีมพัฒนาเทคโนโลยีของ GM โดย GM ยังคงลงทุนเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับของ Cruise ต่อไป แต่เป็นการใช้งานสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล
Mary Barra ซีอีโอ GM กล่าวในช่วงแถลงรายละเอียดกับนักวิเคราะห์ว่า Cruise มีการดำเนินงานที่ดีในบริการรถแท็กซี่อัตโนมัติ แต่ในการให้บริการรถแท็กซี่นั้นมีอีกหลายที่ปัจจัยต้องดูแลเพิ่มเติม เช่น การบริหารปริมาณรถยนต์ที่วิ่งในถนน ทำให้ GM เลือกมาโฟกัสเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีของรถยนต์เท่านั้น
Uber ประกาศให้บริการรถแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัตินอกพื้นที่สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยจะให้บริการในเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผ่านความร่วมมือกับ WeRide บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของจีน
Uber และ WeRide บอกว่าบริการรถขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ เป็นการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนอกสหรัฐอเมริกาและจีน โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานคมนาคมของอาบูดาบี
ในช่วงแรกของการให้บริการ รถยนต์จะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยอยู่หลังพวงมาลัยก่อน และจะให้บริการแบบไร้คนขับเต็มรูปแบบภายในปี 2025
Baidu ได้รับใบอนุญาตให้ทดสอบรถยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติในฮ่องกง ผ่านบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ Apollo Go ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Baidu ได้ทดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัตินอกพื้นที่จีนแผ่นดินใหญ่
ใบอนุญาตของบริษัท Baidu Apollo นี้ ให้บริษัททดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้ 10 คัน วิ่งอยู่ในพื้นที่ North Lantau ใบอนุญาตมีระยะเวลา 5 ปี การทดสอบช่วงแรกต้องทำในถนนที่ระบุไว้เท่านั้น และมีเจ้าหน้าที่อยู่หลังพวงมาลัยเพื่อควบคุมรถในกรณีจำเป็น
ปัจจุบัน Apollo Go ให้บริการในหลายเมืองของประเทศจีน เฉพาะในเมืองอู่ฮั่นมีจำนวนรถยนต์มากกว่า 400 คัน ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าประเทศที่ Baidu พิจารณาขอใบอนุญาตทดสอบรถยนต์นี้เพิ่มเติมคือสิงคโปร์ และประเทศในแถบตะวันออกกลาง
Pony.ai บริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับจากประเทศจีน นำบริษัทไอพีโอเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นแนสแดคของสหรัฐแล้ว โดยใช้ตัวย่อในการซื้อขาย PONY
ไอพีโอของ Pony.ai เป็นการออกใบแทนหุ้นแบบ ADS จำนวน 20 ล้านหุ้น ที่ราคา 13.00 ดอลลาร์ต่อหุ้น ได้เงินเพิ่มทุนไป 260 ล้านดอลลาร์ ที่มูลค่ากิจการราว 5.25 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเปิดตลาดหุ้นราคาได้ปรับเพิ่มไปถึงประมาณ 15 ดอลลาร์ แต่ปิดตลาดก็ปรับลดลงที่ 12 ดอลลาร์
ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของ Pony.ai มีรายได้รวม 39.5 ล้านดอลลาร์ ขาดทุนสุทธิ 93.9 ล้านดอลลาร์ รายได้หลักของ Pony.ai มาจากการให้บริการรถขนส่งสินค้าแบบไร้คนขับ ส่วนรถแท็กซี่สำหรับลูกค้าทั่วไปยังเป็นรายได้ส่วนน้อย
Lyft บริการแอปเรียกรถแท็กซี่ในอเมริกา ประกาศความร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติหลายราย ได้แก่ Mobileye, May Mobility และ Nexar เพื่อนำรถยนต์อัตโนมัติให้บริการบนแพลตฟอร์ม
โดยส่วนของ May Mobility นั้น จะเริ่มให้บริการรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในเมืองแอตแลนตาภายในปี 2025 โดยใช้รถยนต์ Toyota Sienna และเตรียมขยายเมืองที่รองรับเพิ่มเติมในอนาคต ส่วน Nexar ที่เป็นผู้พัฒนากล้องติดรถยนต์อัจฉริยะ จะนำข้อมูลฟุตเทจวิดีโอมาร่วมพัฒนาระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกับ Lyft
Mobileye ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของอินเทล ก็จะร่วมมือนำรถมาให้บริการผ่าน Lyft เช่นกัน แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก
Elon Musk ยอมรับอย่างเป็นทางการว่าฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์รุ่น HW3 ที่ใช้ในรถยนต์ Tesla นั้น บริษัท "ไม่มั่นใจ" ว่าสามารถใช้งาน full self-driving ได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนกับฮาร์ดแวร์รุ่น HW4 ที่ใหม่กว่า
ประเด็นเรื่องฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า HW3 จะไม่สามารถรัน unsupervised FSD (ขับเองแบบไม่ต้องมีคนช่วยกำกับ) ได้เต็มที่ เป็นสิ่งที่พูดกันมานานแล้วในชุมชนผู้ใช้งาน Tesla เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ยิน Elon ออกมายอมรับตรงๆ
WeRide บริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของจีน นำบริษัทไอพีโอเข้าซื้อขายที่ตลาดหุ้นแนสแดคเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวย่อในการซื้อขายคือ WRD โดยราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 16.55 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มจากราคาเริ่มต้น 6.8% มูลค่ากิจการเพิ่มเป็น 4.5 พันล้านดอลลาร์
WeRide มีบริการรถยนต์ไร้คนขับผ่านแพลตฟอร์ม WeRide One โดยได้ระดับการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ L2 ถึง L4 ขึ้นอยู่กับลักษณะยานพาหนะและสถานที่ใช้งาน
WeRide ให้บริการรถในหลายรูปแบบทั้งแท็กซี่ รถตู้โดยสาร และรถทำความสะอาดถนน ได้ใบอนุญาตทดสอบและให้บริการใน 30 เมือง 7 ประเทศ รวมทั้ง จีน สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐอเมริกา
Huawei Central รายงานว่า Tesla เตรียมนำเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ Tesla FSD ลงไปแข่งตลาดจีนในปี 2025 โดยมี Huawei เป็นคู่แข่งสำคัญ
เดิมที Tesla ต้องการเข้าสู่ตลาดจีนให้ได้ภายในปี 2024 และได้รับอนุญาตให้ทดสอบในจีนตั้งแต่ต้นปี แต่ตอนนี้ยังติดเรื่องการอนุมัติตามระเบียบต่าง ๆ ทำให้แผนล่าช้าไปถึงต้นปี 2025
ล่าสุด Huawei ได้พัฒนาเทคโนโลยี Qiankun ADS 3.0 ที่มีประสิทธิภาพสูง จอดรถอัตโนมัติได้แม้ไม่มีคนขับ โดย Yu Chengdong ประธาน Huawei Automotive Solutions Business Group อ้างว่าโซลูชันของ Huawei ดีกว่าแม้ไม่มี LiDAR แถมยังชนะในการทดสอบการขับขี่อัตโนมัติหลายครั้งในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ หรือแคนาดา