เมื่อคืนนี้กูเกิลเปิดตัว Android 15 Beta 2 ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาหลายอย่าง และเป็นรุ่น Beta ท้ายๆ ที่มีฟีเจอร์ใหม่แล้ว ก่อนเข้าช่วง Platform Stability เน้นแก้บั๊กและเพิ่มเสถียรภาพ เพื่อออกเวอร์ชันสมบูรณ์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี
Android 15 Beta 2 ยังเปิดให้ทดสอบกับมือถือของพาร์ทเนอร์หลายยี่ห้อ เช่น iQoo, Nothing, OnePlus, Lenovo, Sharp, Oppo, Realme, Techno, Vivo, Xiaomi, Honor รายชื่อทั้งหมด
ธีมหลักของ Android 15 ยังเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย ของใหม่ใน Beta 2 ในฝั่งของประสิทธิภาพ ได้แก่
- บีบการทำงานของ foreground service บางอย่าง เช่น dataSync และ mediaProcessing ให้ทำงานได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันเซอร์วิสเหล่านี้รันงานนานเกินไปจนเปลืองแบต, กำหนดให้แอพที่ขอรันแบบ foreground ต้องแสดง overlay ให้มองเห็นชัดเจนว่ารันอยู่
- ปรับขนาดของ page size ของหน่วยความจำ จากเดิมรองรับ 4 KB ขยายเป็น 16 KB ซึ่งจะช่วยให้แอพบางประเภท (เช่น ที่ต้องใช้หน่วยความจำมากๆ) ทำงานเร็วขึ้น ประหยัดพลังงานลง
- ฝั่งการประมวลผลกราฟิก รองรับ ANGLE ซึ่งเป็นการรันแอพเก่าที่เรียกใช้ OpenGL ES อยู่บน Vulkan ซึ่งเป็น API ที่ใหม่กว่า กูเกิลจะปรับการรัน ANGLE เป็นดีฟอลต์ในปี 2025 และในปี 2026 จะบังคับรัน OpenGL ES บน ANGLE เพียงอย่างเดียว
- เปลี่ยนมาใช้ไลบรารีถอดรหัสวิดีโอ AV1 ตัวใหม่ dav1d ของโครงการ VideoLAN
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย มีดังนี้
- Private Space รองรับการล็อคแอพบางตัวให้เข้าถึงได้เฉพาะผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนเท่านั้น (เหมือนกับฟีเจอร์ Private Folder ของซัมซุง) โดยผู้ใช้ต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกนนิ้วหรือใส่รหัสก่อน เพื่อปลดล็อค Launcher ให้แสดง Private Space อีกทีหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังรวมถึงแอพในหน้า sharesheet และหน้า photo picker ด้วย
- ป้องกันปัญหาแอพประสงค์ร้ายเรียก intent ของแอพตัวอื่นขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้เข้าใจว่าเป็นแอพเดิม (ที่ปลอดภัย) ทั้งที่จริงๆ แล้วแอพประสงค์ร้ายแอพทำงานอยู่เบื้องหลัง การโจมตีแบบนี้เรียกว่า "task hijacking" โดย Android 15 เพิ่มมาตรการป้องกันเข้ามา
- ตรวจสอบความปลอดภัยของ intent ให้เข้มงวดขึ้น การเรียก intent มาทำงานต้องใส่ค่าตรงกับสเปกตัวกรอง intent ที่เรียก และห้ามเรียก intent เปล่าๆ ที่ไม่มี action ด้วย
ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ที่ผู้ใช้สัมผัสได้ง่าย ได้แก่
- การ pin คู่แอพสองตัวลงใน taskbar สำหรับเรียกแอพสองตัวนั้นขึ้นมาพร้อมกันบนแท็บเล็ตหรืออุปกรณ์จอใหญ่
- โหมด Picture-in-Picture (PiP) ปรับการทำงานเล็กน้อย ให้การเข้าหรือออกโหมด PiP ดูลื่นขึ้น ไม่กระตุก
- หน้า Widget Previews สามารถสร้าง widget ตัวอย่างที่อิงกับข้อมูลของผู้ใช้ได้ เช่น ตัวอย่าง contact widget จะดึงรูปจาก contact ของผู้ใช้มาแสดง
- เปิดใช้งาน Predictive Back เป็นค่าดีฟอลต์ สำหรับคนที่ใช้ back gesture จะทำให้คาดเดาว่าจะ back กลับไปยังหน้าไหนได้แม่นยำขึ้น
- ปรับการแสดงผลของภาษาเอเชีย (รวมไทย) ให้ไม่ตัดบางส่วนของอักขระออก (clipped) ดูภาพตัวอย่าง
ที่มา - Android Developers Blog
Comments
เหลือเชื่อว่าเรื่องอักขระนี่เพิ่งจะแก้ใน Android 15 นะ 555
ไอ้เรื่องขลิปแบบนี้มันผิดที่ฟอนต์มากกว่าไหมนะ
เคยแจ้งเรื่องนี้ไปทาง github ของ cadsondemak ว่า เฮ้ ทำไม glyph ไปอยู่เลยกรอบได้ แล้วก็แปะตัวอย่างเป็น MS Office ไป สรุป ... cadsondemak ไม่แก้ คนแก้คือ microsoft แก้ให้รองรับเฉยเลย ...
สรุปคือใครทำเรนเดอเรอร์ใช้เองนี่คือต้องเผื่อเคสนี้ไว้ไม่งั้นจะโดนขลิบแบบนี้เหมือนกัน
ชอบ Secret Folder ของซัมซุงมาก
ถ้า Private Space เป็นฟีเจอร์พื้นฐานของแอนดรอยด์ ต่อไปอาจจะพิจารณายี่ห้ออื่นได้ง่ายขึ้น
Private Space ชอบตัวนี้นะ เวลาเอาโทรศัพท์ให้คนอื่นจะได้ส่วนตัวหน่อย ไม่ต้องกลัวคนเข้าแอพที่ไม่ต้องการ ลงดรอยหลักแบบนี้ ค่ายอื่นๆ น่าจะเอาไปลง นะ
Sharp ทำมือถือด้วยเหรอครับ