ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการจัดการการหลอกลวงออนไลน์ แบ่งออกเป็นกระบวนการจัดการบัญชีม้าให้เปิดบัญชีใหม่ได้ยากและปิดบัญชีได้เร็วขึ้น ร่วมกับการออกบริการใหม่ให้ผู้ใช้สามารถป้องกันตัวเองได้มากขึ้น
สำหรับกระบวนการจัดการบัญชีม้านั้น จะมีมาตรการ 3 ระดับสำหรับกลุ่มผู้ต้องสงสัยรูปแบบต่างๆ
อีกฝั่งหนึ่งคือการป้องกันตัวเองของผู้ใช้บริการ โดยภายในสิ้นปีนี้ธนาคารจะมีมาตรการเพิ่มเติมให้ลูกค้าเลือกใช้งาน เช่น เปิดให้ตั้งค่าตรวจสอบใบหน้าได้เอง ไม่ต้องโอนเงินเกิน 50,000 บาทเสมอไป, เปิดให้ลูกค้าเลือกใช้บัญชีล็อกให้ทำธุรกรรมออนไลน์ได้จำกัดแบบเดียวกับสิงคโปร์, ตลอดจน
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยยังเปิดเผยถึงความเสียหายจากการหลอกลวงประเภทต่างๆ โดยบัญชีม้ามีอัตราการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คดีส่วนมากเป็นการหลอกลวงให้ซื้อสินค้า แต่ความเสียหายที่มากจริงๆ กลับเป็นการหลอกลงทุนที่ความเสียหายสูงถึง 36% และความเสียหายของแอปดูดเงินคิดเป็น 4% (สิงคโปร์รายงานการหลอกลงทุน คิดเป็นมูลค่า 31.4% และแอปดูดเงินคิดเป็น 5.2%)
ที่มา - ธนาคารแห่งประเทศไทย
Comments
ไม่แน่ใจว่าเป็นหน้าที่ ธปท. รึเปล่า แต่อยากเห็นการให้ข้อมูลป้องกันการหลอกลวงที่เป็นเชิงรุกมากกว่านี้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ
facebook ทำอะไรบ้างครับ
WE ARE THE 99%
โพสต์ที่คุณรายงานไม่ได้ละเมิดข้อปฏิบัติชุมชน
เป็นเจ้าของคอกม้าครับ.
5555555
ดีมากเลย // อยากรู้ว่าตั้งแต่ธนาคารทำให้แอพป้องกันการแคปจอและ remote อัตราการโดนดูดเงินมันน้อยลงบ้างไหม หรือโจรก็ย้ายไปหลอกให้เหยื่อโอนเองแทน
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ดูจากกราฟที่แบงค์ชาติเอามาเปิดเผย เหมือนมาตรการป้องกันจาก app ไม่มีผลในการชะลอเลยนะครับ
เรียกได้ว่าเป็นการป้องกันผิดจุดอย่างค่อนข้างชัดเจน ในมุมผมนะ
ลงทุนไป20กว่าธนาคารสูญเปล่ามากๆ
เรียกว่าโทรมาพูดหลอกให้เนียน ยังใช้ effort น้อยกว่าไปนั่งรีโมทเข้าเครื่องเหยื่อสินะ เคสเพิ่มไม่หยุด
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ก็ไม่ผิดจุดหรอกครับ อย่างน้อยก็ลดการหลอกให้ลงแอพหรือรีโมทมาดื้อๆไปได้
ตอนนี้ข่าวหลังๆคือข่มขู่ หลอกลวง ล่อลวงแทบจะล้วนๆเลย มีผสมกันด้วยอีกตะหาก อ่านข่าวล่าสุด ขู่ให้โอนเงินไปตรวจสอบเงินเพราะต้องสงสัยบัญชีม้า บลาๆ แต่มีข้อเสนอว่าโอนไปให้ตรวจสอบแล้วให้ดอกเบี้ยผลตอบแทนเยอะแบบเว่อๆ งงกันไปเลย แถมโอนเป็น20ล้านเอาบ้านไปจำนองเพิ่มเพราะหวังผลตอบแทนอีกตะหาก คือมันใช้ทั้งขู่ให้เกิดความกลัวกับล่อลวงความโลภพร้อมๆกันได้ ก็ทึ่งนะ
ป.ล. บางทีจะอ้างว่าคนแก่ไม่รู้ข่าว เลยโดนหลอก มันไม่ใช่หรอกครับ ข่าวดังขนาดนี้มีหรือจะไม่รู้ ญาติผู้ใหญ่ผมรู้ข่าวแก๊งcallcenterกันหมดขนาดคนที่ไม่เล่น SNS ยังรู้เลย แต่ไม่คิดว่าจะโดนกับตัวเองมากกว่า และยิ่งคนแต่งบทละครเนียบเนียนมากๆ+ผสมกับล่อลวงให้โลภยิ่งไปกันใหญ่
ป.ล.2 อย่างพวกเคสที่อ้างว่าจนท.ตำรวจโทรมา มันก็เนียนอยู่นะ เพราะเมื่อก่อนเคยไปตามคดีให้ญาติ จนท.ตำรวจตัวจริงโทรไปหาผู้ต้องสงสัยเพื่อติดตามก็พูดแบบนั้นแหละ(สมัยนั้นยังไม่ค่อยมีแก๊งค์callcenter)ยิ่งพวกแก๊งคอลฯมีแบบอ้างชื่อจนท.จริงๆ บอกเบอร์โทรสภ.จริงๆด้วย มีvideo call อีกตะหากคนที่โดนข่มขู่ก็อาจจะกลัวไปก่อนจริง ซึ่งผมก็ไม่รู้จะป้องกันยังไงเหมือนกัน นอกจากแนะนำญาติถ้าเจอแบบนี้ว่าให้แจ้งว่าจะติดต่อทนายและติดต่อเข้าไปพูดคุยที่สภ.(ที่มักเป็นจังหวัดห่างไกลมากๆ) ซึ่งถ้าโทรไปสภ.จริงๆ(ค้นจากเบอร์ส่วนกลาง)มันก็เช็คได้ว่ามีคดีนี้จริงไหม แต่ถ้าโดนขู่จนกลัวความผิดจนยอมจ่ายสินบนหรือจ่ายเงินตามที่แก๊งค์ขู่ไปก่อน ก็คงทำไรไม่ได้(ส่วนใหญ่ก็โดนกล่อมแบบนี้แหละให้โอนไปพักเงินเรื่องจะได้จบ..)
ป.ล.3 เสริม แต่เรื่องนึงที่บอกญาติๆไปคือถ้าอ้างว่าเป็นจนท.หน่วยงานนั้นๆมีข้อมูลเราครบก็ยังเชื่อไม่ได้ เพราะข้อมูลเราหลุดไปหมดแล้วแหละ
ทุกวันนี้โดนแก๊งอ้างเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ติ๊กต่อกโทรมาทุกวันจากเบอร์ขึ้นต้นด้วย 02
สงสัยว่า กสทช ดูแลแต่ซิมม้าแต่ไม่มาดูแล landline เลยเหรอครับ เห็นใช้กันมานานแล้ว แถมเบอร์น่าเชื่อถือกว่าเบอร์มือถือด้วย
พวกนี้เป็นพวกชวนเล่นพนันออนไลน์มากกว่านะ หรือไม่ก็ให้ลงทุนแบบหลอกลวง แบบโอนไปสิบบาทก่อนถอนได้ยี่สิบ แต่พอหน้ามืดโอนไปสองหมื่น ก็ถอนไม่ได้แถมโดนขู่แจ้งความ เคสพวกนี้หลอกเด็กวัยรุ่นได้เยอะเลย ญาติเป็นครูมัธยมบอกเจอเคสเยอะมาก เด็กขโมยเงินพ่อแม่ไปโอนแล้วก็โดนขู่ว่าถ้าไม่โอนเพิ่มจะดำเนินคดีอีกตะหาก(โจรขู่นะครับ) เลยมาปรึกษาครูว่าทำไงดีกลัวโดนตำรวจจับมากกว่ากลัวพ่อแม่รู้
มิจเบอร์ 02 ผู้สนับสนุนรายใหญ่ก็โทรคมนาคมแห่งชาติ เองนั่นล่ะครับ ที่เปิดให้ teams โทรเข้ามาตรงได้
เจอบ่อยจริงครับติ๊กต่อกเนี่ย ก่อนนี้มีไลน์บ้างมาปนแต่เดี๋ยวนี้ติกต่อกล้วนๆเลย
หัวข้อข่าว
ตรวจ
ผมว่าจุดที่เป็นปัญหาน่าจะเป็นการที่มีการโทรเข้ามาหลอกลวง น่าจะมีการแก้ที่ทำให้รู้ว่าเบอร์นี้เป็นของจริงหรือเบอร์นี้น่าสงสัย
เริ่มจากหน่วยงานรัฐ เลยครับ outgoing call ทั้งหมดต้องเป็นเบอร์กลางเท่านั้นห้ามใช้มือถือส่วนตัวโทร
lewcpe.com, @wasonliw
+1
ทางนี้เวลานัดกับธนาคารหรือเครือข่าย (เพิ่งเคยทำแค่ 2 ที่ที่เป็นโทรศัพท์) เค้ามีแจ้งไว้ล่วงหน้าก่อนเลยเหืมอนกันฮะว่าเดี๋ยวตอนติดต่อไปจะเป็นเบอร์นี้นะที่โทรไป รู้สึกอุ่นใจกว่ามากเลย
คือก็เบอร์กลางที่มีแจ้งในเว็บแหละ แต่เค้าทวนซ้ำให้เราติดอยู่ในหัวอีกชั้นนึง
อันนี้เห็นด้วย ควรต้องรื้อทั้งระบบ โดยเฉพาะเบอร์เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรเป็นเบอร์โต๊ะส่วนตัวตามตำแหน่งเลย(ไม่ใช่เบอร์กลางของสภ.ที่จะติดตามได้ยากว่าใครรับสายหรือโทรมากันแน่) ไม่ใช่ใช้เบอร์มือถือส่วนตัวติดต่อกับเจ้าทุกข์หรือผู้ต้องหา แต่ก็พอเข้าใจความสะดวกต่างๆ ถ้าเป็นเบอร์ landlind แต่ไปเข้ามือถือได้ก็น่าจะดี ไม่ก็โทรเข้าเบอร์กลางแล้วต่อเบอร์โต๊ะแต่ก็อาจจะต้องมี operator ที่เป็นคนคอยรับสายด้วย เพราะระหว่างการดำเนินคดีต้องติดต่อกับร้อยเวรเจ้าของคดีบ่อยมาก และถ้าสอบถามจากคนอื่นก็มักจะใช้เวลานานในการหาว่าใครเป็นเจ้าของคดี จึงมักให้เบอร์มือถือส่วนตัวไว้ติดต่อโดยตรงกัน
อันนี้ถ้าเปิด case ไปแล้วอีกเรื่องหนึ่งครับ แต่ initiate ครั้งแรก ต้องเป็นหมายเลขทางการเท่านั้น และจะเปิดช่องทางอื่นก็ควรเปิดจากช่องทางกลาง
ex: หมายเลขสำนักงานตำรวจแห่งชาติ = 02 513 9362 สายเข้าครั้งแรก ตำรวจโทรหาผู้เกี่ยวข้องคือเบอร์นี้เท่านั้น
หลังจากนั้นตำรวจแนะนำตัว จะแจ้งเบอร์อื่นได้ แต่เบอร์นั้นๆ ต้องปรากฎอยู่ในฐานข้อมูล public เว็บไซต์ภายใต้โดเมน police.go.th เช่นแต่ละสน. อาจจะประกาศหมายเลขที่ใช้ติดต่อเจ้าหน้าที่เอาไว้อีกที
lewcpe.com, @wasonliw
++
บล็อกผิดประจำเลยผม
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
จะตรวจเจตนายังไงหว่า? แบบถ้าเปิดเกิน 2 บ/ช จะไม่ให้เปิดอีกอย่างนั้นเหรอ?
อีกอย่างฐานข้อมูลพวกนี้เจ้าของบัญชีไม่มีทางรู้ได้เลยนะว่าโดนกลุ่มไหน?
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P