อินเทลเปิดราคาของชิปเร่งความเร็วปัญญาประดิษฐ์ Gaudi 3 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน โดยคิดราคา 125,000 ดอลลาร์ (4.6 ล้านบาท) ต่อบอร์ดหนึ่งตัวที่มีชิป Guadi 3 แรม 128GB จำนวน 8 ตัว (หารมาแล้วก็เหลือตัวละประมาณ 16,000 ดอลลาร์ หรือ 5.8 แสนบาท)
ราคานี้มีผลต่อการแข่งขันไม่น้อย เพราะคู่แข่งที่เป็นเจ้าตลาด NVIDIA H100 รุ่นแรม 80GB ราคาขายบอร์ดอยู่ที่ 30,000 ดอลลาร์ (1 บอร์ด = 1 จีพียู) เทียบราคาต่อชิปแล้วแพงกว่ากันเท่าตัว แถมอินเทลยังโฆษณาว่า Gaudi 3 มีประสิทธิภาพดีกว่า H100 ราว 50%
ถ้าราคาของ Guadi 3 ยังแพงไปสำหรับองค์กรบางแห่ง อินเทลยังประกาศราคาของ Gaudi 2 รุ่นที่เก่ากว่า โดยตั้งราคาบอร์ดถูกกว่ากันครึ่งหนึ่งเลยคือ 65,000 ดอลลาร์ หารออกมาต่อชิปคือ 8,125 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1/4 ของราคาชิป H100
การที่อินเทลซึ่งเป็นมวยรองๆ ในตลาดชิปเร่งความเร็วปัญญาประดิษฐ์ ใช้กลยุทธ์ตัดราคาเข้าสู้ NVIDIA คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก แต่ประเด็นเรื่องราคาอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะวงการปัญญาประดิษฐ์คุ้นเคยกับเทคโนโลยีฝั่ง CUDA กันมายาวนาน ทำให้ต้นทุนของการย้ายค่ายฮาร์ดแวร์มีเยอะกว่าที่คิด แม้อินเทลและกลุ่มพันธมิตรพยายามสร้างมาตรฐานอื่นขึ้นมาแข่ง และทิศทางของอุตสาหกรรมก็เริ่มขยับให้ไม่ผูกกับ CUDA ก็ตาม
ที่มา - Tom's Hardware
@intel discloses the Guadi 2 and 3 prices - $65k & $125k respectively. #Computex2024 pic.twitter.com/67H1GdsDJp
— Jim McGregor (@TekStrategist) June 4, 2024
Comments
แบบนี่นี้เองการแข่งขันถึงดีต่อผู้บริโภค
ติดอยู่อย่างเดียวคือ มันมีคู่แข่งน้อยรายที่จะทำของแบบนี้มาแข่งกันได้เนี่ยสิ มันต้องมีอีกหลายๆ เจ้า มันถึงจะดีขึ้นกับผู้บริโภคจริงๆ เพราะตอนนี้ ต่อให้ราคาดีขึ้นแค่ไหนมันก็แทบจะหนีไม่พ้น HW ที่แทบจะกึ่งผูกขาดไปแล้ว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว