The Verge มีบททดสอบโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite/Plus ทุกรุ่นย่อยอย่างละเอียด และเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับชิปคู่แข่งในตลาดหลายตัว ได้แก่ Apple M3, M2 Max, M3 Max, Intel Core Ultra 7 155H/155U และ AMD Ryzen 7 8845HS
ผลทดสอบเบนช์มาร์คออกมาว่า Snapdragon X Elite ทำคะแนน Geekbench 6 ได้ดีมาก คะแนนของ X Elite รุ่นท็อปสุด (X1E-84-100 12 คอร์) อยู่อันดับสอง หากเป็นมัลติคอร์ เป็นรองเพียงแค่ Apple M3 Max ที่มี 16 คอร์เท่านั้น และสามารถเอาชนะ Apple M2 Max ที่มี 12 คอร์เท่ากันได้ด้วย ส่วนคะแนนแบบคอร์เดี่ยวอยู่อันดับสาม แพ้แค่ Apple M3 (8 คอร์) และ M3 Max
ส่วนคะแนนเบนช์มาร์คอีกตัวคือ Cinebench 2024 ก็เอาชนะ M2 Max ได้ในแบบคอร์เดี่ยว แต่ยังแพ้คะแนนมัลติคอร์
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของ Snapdragon X Elite กลับอยู่ที่จีพียู Adreno (เหมือนกับผลทดสอบจากหลายๆ ค่ายก่อนหน้านี้) เพราะภาพรวมคะแนนอยู่รองบ๊วย ชนะได้แค่จีพียูของ Apple M3 ตัวธรรมดาเท่านั้น แพ้หมดทั้ง Apple M2 Max, M3 Max, Intel Arc และ ADM Radeon M
ประสิทธิภาพการเล่นเกมก็ออกมากลางๆ คือพอเล่นได้ แต่ต้องปรับความละเอียดลงมาไม่เกิน 1200p ตั้งค่ากราฟิกระดับต่ำ ถึงจะได้เฟรมเรต 30 fps แบบลื่นไหล เกมจำนวนมากยังแครชตอนเปิดเกมด้วย จึงทำให้โน้ตบุ๊ก Snapdragon X Elite ไม่เหมาะกับการเล่นเกมมากนัก
การรันแอพ x86 ผ่านอีมูเลเตอร์ตัวใหม่ Prism ถึงแม้พัฒนาขึ้นจากเดิม แต่ก็ยังไม่ดีมากนัก The Verge ทดสอบโดยรัน Blender เวอร์ชัน ARM64 เนทีฟ และเวอร์ชัน x86 ผ่านอีมูเลเตอร์เทียบกัน พบว่าประสิทธิภาพของการเรนเดอร์หายไปราว 40-45% จากเนทีฟ
การทดสอบแบตเตอรี่พบว่าอยู่ได้ราว 14-16 ชั่วโมง แม้ยังไม่นาน 18 ชั่วโมงได้เท่ากับ MacBook Air M3 แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากสำหรับโน้ตบุ๊กวินโดวส์ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้ซีพียู Intel/AMD
The Verge สรุปว่าโน้ตบุ๊กพีซี Snapdragon X Elite มักถูกกว่าโน้ตบุ๊กสเปกใกล้ๆ กันที่เป็น x86 ราว 100-200 ดอลลาร์ เมื่อพิจารณาว่าประสิทธิภาพดีกว่า แบตเตอรี่ใช้ได้นานกว่า จึงเหมาะกว่ามากหากใช้งานทั่วๆ ไปที่ไม่ใช่งานสายกราฟิกหรือการเล่นเกม ซึ่งต้องรอดูกันปลายปีนี้ว่า โน้ตบุ๊กที่ใช้ซีพียูใหม่ของ Intel/AMD จะโต้กลับคืนได้หรือไม่
ที่มา - The Verge
Comments
เอาตรงๆ แค่สเปคมันถ้าสู้ได้ มันสู้ได้ไปนานแล้ว หลักๆ มันอยู่ที่ ซอฟแวร์มากกว่า ถึงจะสเปคจะสู้ได้ แต่ถึงเวลาจริงๆ มันไม่ได้ขิงเรื่องความแรง แต่เป็นเรื่องการใช้งานมากกว่า หลายโปรดักในโลกเป็นเหมือนแอปเปิ้ล มันแย่กว่าคู่แข่งมากๆ แต่ก็ไม่มีใครล้มได้เพราะคำว่า Exclusive ถ้าจะสู้ได้ก็ต้องยอมกัดฟันลง Edge / Office ที่ Windows ที่เดียว
สงสัยมากว่า apple พัฒนา GPU เองยังไง แต่ก่อนเคยใช้ PowerVR แล้วก็มาทำเองแล้วทำได้ดีซะด้วย intel ทำมาตั้งนานยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย ส่วน qualcomm ก็เข้าใจว่าซื้อทีมมาจาก AMD/ATI mobile ก็ยังทำได้แค่สู้ได้กับ arm
สภาพเหมือนเอา GPU ของ PowerVR มาโมล่ะครับ เพราะ Apple เองก็ได้สิทธิบัตร GPU มาตอนที่ไปซื้อธรุกิจบางส่วนของ Imagination เข้ามา
มันก็ไม่น่าจำกัดแค่ใช้งานทั่วไปแล้วนะ แรงกว่า M2 ก็ทำงานกราฟิค รีทัช ตัดวีดีโอได้แล้วนะ ไม่ได้มีไว้แค่ทำเอกสาร เล่นเน็ท
สิ่งที่อธิบายอยู่บรรทัดที่แปดพอดีเลย ว่าทำไมถึงยังไม่เหมาะกับการทำงานกราฟฟิก
อีก 2-3 รุ่น คงสูสีกับ Apple ได้ละ
ยังสงสัยอยู่ว่าจะสูสีกับ Apple รุ่นไหน เพราะตอนนี้ Apple ออก M4 แล้ว แต่ Snapdragon ยังไล่ตาม M2 / M3 อยู่เลย
สรุปง่าย ๆ ว่า ถ้าเอาไปใช้งานทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เอาไปเล่นเกมนี่ก็ใช้งานได้แล้วใช่ไหมเนี่ย
แล้ววันที่มี app ที่เป็นตัวที่เขียนมาเฉพาะ CPU ยิ่งไปไกลอีกเลย
ดีมากแล้วถ้าใช้กับงานออฟฟิศ งานบริหาร ไม่ต้องหงุดหงิดเรื่องแบต เรื่องความคล่องตัว เดินทางบ่อย
ສະບາຍດີ :)
Windows Services ตัวฉุดแบตชั้นดีเลย
-
หลักๆ คือ เป็นเรื่องของการปรับแต่งและออกแบบของแต่ละเจ้า เพราะยังไงก็คลอดจาก TSMC เหมือนกัน!
ถูกกว่า แรงกว่า แบตอึดกว่ามาก เหลือทำ Software ให้ดี รองรับมากขึ้น สายทั่วไป สายทำงาน สำหรับตอนนี้คนที่ใช้งาน Software รองรับหมดแล้วมันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่อยากไป ถ้าไม่อคติ Win ARM มันมาแล้วอยู่กับ x86 กั๊กๆมานานอวยไม่ไหวต้องปลดแอกได้และ ฮ่าๆๆ
ถูกกว่า ไม่น่าใช่สำหรับตอนนี้ครับ ราคาตอนนี้ซื้อ Macbook air M2 ดี ๆ แรม 16 GB ได้เลย
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
Surface ตัว Elite ราคาเท่ากับ Mac Air M2 Ram 16GB SSD512 ในความจุเท่ากันเป๊ะครับ
ลองเข้าไปดูตารางเว็ปต้นทาง Geekbench 6
ความเร็ว Single Core น่าจะเรียกว่าเท่ากับ M2 ได้เลยนะ
ห่างกันประมาณ 100 คะแนน แถมบางยี่ห้อแบบ Lenovo ที่ใช้ชิพเดียวกันก็คะแนนต่ำกว่า M2 หลักร้อยคะแนนเหมือนกัน
ส่วนมัลติยิ่งชิพที่มี Core มากกว่ายังไงก็ชนะอยู่แล้ว
แค่ แบต อยุ่ได้ นานก็พอแล้ว อย่างอื่น ก็ค่อยๆ พัฒนาไป ตอนนี้มันเพ่ิงเริ่ม
ถูกกว่าเหรอเห็นราคาเปิดมานี่โคตรแพงเลยนะ ครึ่งแสนยังไม่ได้ตัวท๊อปเลย
ใช้งานทั่วๆไปไม่ต้องแพงขนาดนี้ก็ได้
A smooth sea never made a skillful sailor.
ขอสองหมื่นชน iPad ไปเลยแต่ทำงานได้เทียบเท่า desktop ไม่ต้องมาใช้โมบายแอพแยก จะดีมาก
อีกมุมนึงก็จะบีบให้ apple ต้องทำให้ iPad OS ใกล้เคียงกับ Mac OS มากขึ้น
ไปดู review ช่อง max tech ดีกว่าครับ ผมว่ามันดีกว่ามาบอกว่า อะไรแรงกว่าช้ากว่า ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าแรงกว่าช้ากว่าตรงไหนยังไงบ้าง การใช้งานสำคัญที่สุด
จะมีบริษัทใหญ่ๆในไทยเอามาใช้ในองค์กรไหมนะ อยากรู้ว่ามันจะมีปัญหาอะไรบ้าง
น่าเอามาลง Debian มาก เรื่องแอปส่วนมากก็ตัดปัญหาไปเลย เพราะ build สำหรับ aarch64 อยู่แล้ว