ช่อง Digital Foundry ที่เชี่ยวชาญเรื่องกราฟิกของวิดีโอเกม วิเคราะห์เหตุผลที่เกมบน PS5 กลับให้ภาพออกมาดีกว่า Xbox Series X แม้ว่าสมรรถนะทางเทคนิคของ Xbox Series X เหนือกว่า โดยใช้ข้อมูลจากการพูดคุยกับนักพัฒนาเกมหลายรายเป็นเวลาหลายปี
Digital Foundry สรุปว่าเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ มี 2 ข้อประกอบกัน
- คอมไพเลอร์จีพียูของ PS5 มีประสิทธิภาพมากกว่าฝั่ง Xbox เพราะเปิดให้เข้าถึง API ระดับล่างได้เยอะกว่า ทำให้นักพัฒนาควบคุมการทำงานของจีพียูได้ละเอียดกว่า ใช้พลังของจีพียูคุ้มค่า
- ธรรมชาติของจีพียู PS5 มีจำนวนคอร์ compute unit น้อยกว่า Xbox Series X (36 vs 52 คอร์) รวมถึงมีคอร์น้อยกว่า PS4 ด้วย (58 คอร์) เปิดโอกาสให้ PS5 บูสต์คล็อคได้ทั้งซีพียูและจีพียู จึงประมวลผลงานบางประเภท รันเกมเอนจินบางตัวได้ดีกว่า เป็นความตั้งใจของทีมโซนี่ตั้งแต่ตอนออกแบบ
คลิปอธิบายสถาปัตยกรรม PS5 เมื่อปี 2020
Digital Foundry บอกว่าสถาปัตยกรรมของฝั่ง Xbox มีข้อดีด้วยเหมือนกัน เช่น การให้นักพัฒนาเรียก API มาตรฐานอย่าง DirectX 12 และ DXR ray tracing แม้ไม่ใช่ API ระดับล่าง แต่เป็น API ตัวเดียวกับฝั่งพีซี ทำให้กระบวนการพัฒนาเกมง่ายขึ้น, สมรรถนะ throughput ในภาพรวมยังสูงกว่า PS5 ถ้าเกมเอนจินดึงพลังตรงนี้มาได้ก็ใช้ประโยชน์ได้เพิ่ม
กรณีตัวอย่างคือเกม Elden Ring อาจรันบน PS5 ได้เร็วกว่า แต่ถ้าเป็นเรื่อง variable refresh rate ฝั่ง Xbox กลับดีกว่า และทำให้เฟรมเรตของเกมสม่ำเสมอกว่า
Digital Foundry ยังชี้ว่า ข่าวลือของ PS5 Pro ที่มีสมรรถนะจีพียูแรงขึ้นกว่าเดิมมาก มีฟีเจอร์ PSSR ช่วยอัพสเกลภาพ ยิ่งน่าจะทำให้เกมบน PS5 Pro ยกระดับกราฟิกเพิ่มขึ้นอีกมาก
ที่มา - Eurogamer
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
เพราะ PS5 ทำงี้เองบางคนเลยเล่นเกมเครื่องเลย overheat แล้วดับ 555
PS5 ดีไซน์เครื่องที่สวนทางกับการระบายความร้อน
ตามประสาคนเขียนโปรแกรม
คอร์น้อยแต่แรง เขียนโปรแกรมได้ง่ายกว่าจริง
คอร์เยอะแต่ Parallel ไม่ครบ ก็ใช้งานไม่เต็มที่
ทั้งนี้ทั้งนั้น
ความเร็วของระบบทั้งหมด จะเร็วเท่ากับส่วนที่ช้าที่สุดของระบบเสมอ (หรือคอขวด Bottleneck นั่นเอง) ระบบที่เน้นความเร็ว CPU/GPU GHz สูงๆ ก็ต้องดูว่า Register, Cache, RAM, SSD, Bus, Fabric, PCIe (ทุกส่วนแหละ) ส่งข้อมูลได้ทันมั๊ย ถ้าส่งไม่ทัน CPU ที่แรงๆ ก็ต้องรอเสียเวลาเปล่า (เช่น CPU ใช้เมโมรี่ DDR ที่เน้น Speed)
ระบบที่เน้นจำนวน (คอร์เยอะ)
ก็ต้องดูว่ามี Bandwidth เพียงพอมั๊ย เพราะทุกคอร์จะเข้าถึงข้อมูลพร้อมๆ กัน (ความเร็วก็สำคัญ แต่ไม่เท่าแบบแรก) ถ้าความเร็วเพียงพอ แต่ Bandwidth ไม่พอ ก็เข้าถึงข้อมูลพร้อมกันไม่ได้ ก็ช้าอีกเพราะต้องต่อคิวกัน (เช่น GPU ใช้เมโมรี่แบบ GDDR ที่ Bandwidth สูง แต่ความเร็วไม่เท่า DDR)
สรุปคือ ก็ต้องสมดุลกันนั่นแหละ
ทั้งจำนวน ความเร็ว SW OS ไปจนถึงนักพัฒนาเลย 55
รวมถึงมีคอร์น้อยกว่า PS4 ด้วย (58 คอร์) <<< บรรทัดนี้ไม่แน่ใจว่าพิมพ์ผิดมั้ย PS4 มี CU 18 CUs ครับ PS4 Pro มี CU 36 CUs
ข้อดีของ API โซนี่คือดึงประสิทธิภาพ GPU ได้ดีกว่าอีกฝั่งแต่ข้อเสียก็คือมันจะทำ PS5 backward compatibility ยาก เวลาออก PS6 ,PS7 มาเล่นเกม PS5
เอามาจากรูปนี้ครับ
เคยคุยกับคนที่ทำงานกับ AAA สตูดิโอสองคน (คนนึงตอนนี้ออกไปทำด้านกราฟิคด้านอื่นละ คนนี้เคยอยู่ในสตูดิโอใต้โซนี่) เค้าก็บอกตรงกันว่า DF ก็ไม่ได้ถูกต้องขนาดนั้น เวลาอ่านก็ต้องเผื่อไว้นิดนึงนึงอย่าเชื่อเขาหมด
ส่วนตัวเคยทำงานกับ XBox 360 API document มาหน่อยนึง ซึ่งถ้าดูผ่าน ๆ มันคือ DirectX 9 (เอ๊ะหรือ 8?) ที่ถูกโมดีฟายด์มาเยอะมากเท่านั้นเอง (เขียนไปก็หงุดหงิดไป ตามประสา COM) ก็เป็นไปได้ว่าตัว XBox Series X ก็ไม่น่าจะหลุดไปจากนี้มากนัก ก็ยังคงเป็น DirectX API ที่ถูกแก้ไขมานิดหน่อยเหมือนกัน
ปล. ถ้าติดตามข่าววสารวงการนักพัฒนาเกมบ้านเราน่าจะรู้ว่า อาทิตย์หน้าจะมีทีม expansion จาก Microsoft/Xbox มาเยี่ยมนักพัฒนาบ้านเราครับ ก็อยากจะมาบอกให้มาลงทะเบียนกันเยอะ ๆ แต่ตอนนี้ปิดรับลงทะเบียนแล้วครับ 555
Xbox Series X วิ่งบน DX มันเก่งบน Nvidia มากกว่า AMD อยู่แล้ว ดึงประสิทธิภาพบนการ์ด AMD ได้น้อยมาก