กูเกิลเพิ่มเติมเนื้อหาในหน้าซัพพอร์ตของ Find My Device เครือข่ายช่วยตามหาอุปกรณ์แบบออฟไลน์ หลังจากมีรายงานการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการระบุตำแหน่งว่ายังทำได้ไม่ดี เมื่อเทียบกับ AirTag และเครือข่าย Find My ของแอปเปิล
โดยกูเกิลยืนยันว่าการออกแบบระบบที่ใช้การรวบรวมข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น (aggregation by default) กล่าวคืออุปกรณ์ต้องอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีอุปกรณ์ Android จำนวนมากพอจึงเริ่มส่งข้อมูลพิกัดออกมาได้ เป็นสิ่งที่เสริมความปลอดภัยกรณีถูกอุปกรณ์ตามรอยและอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งกูเกิลเลือกแนวทางนี้ตั้งแต่ต้น ทำให้เครือข่าย Find My Device แตกต่างจากเครือข่ายอื่น
อย่างไรก็ตามกูเกิลยอมรับว่าแนวทางนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ทราฟิกต่ำ มีอุปกรณ์ Android อยู่โดยรอบน้อย ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยเปลี่ยนการทำงานจากค่าเริ่มต้น With network in high-traffic areas only เป็น With network in all areas จะช่วยให้ระบุตำแหน่งอุปกรณ์ได้ดีขึ้น
ที่มา: 9to5Google
Comments
ตรรกะแปลกดี อุปกรณ์ที่ทำมาเพื่อ Tracking แต่ดัน Track ไม่ได้ เพราะเน้นความปลอดภัย ?
ตกลงเน้นใช้งาน หรือเน้นปลอดภัย ?
ตรรกะก็ไม่ได้แปลกขนาดนั้นนะ ยิ่งตอน Apple Find My Network ขึ้นมากระแสเรื่องความเป็นส่วนตัวก็มีปัญหาไม่น้อยเหมือนกัน เค้าก็คงพยายาม balance อยู่
คือ tracking พวกนี้มันทำเป็นกลับด้านได้ แทนที่เราจะ track ว่าตัวอุปกรณ์อยู่ที่ไหน เราเอาตัว tracker ไปแปะไว้ในบ้านคน ถ้าไม่ได้ตั้งค่าแบบทำงานเฉพาะ high traffic นี่เราก็แค่รอจ้องว่าอุปกรณ์ถูกตรวจเจอเมื่อไหร่ก็ใช้บอกได้แล้วว่าเจ้าของกลับมาบ้านหรือยัง หรือแถวนั้นมีคนอยู่มั้ยมีใครผ่านมาหรือเปล่าอะไรทำนองนั้น
ที่แปลกคือบอกว่า
สามารถแก้ไขได้โดยเปลี่ยนการทำงานจากค่าเริ่มต้น With network in high-traffic areas only เป็น With network in all areas จะช่วยให้ระบุตำแหน่งอุปกรณ์ได้ดีขึ้น
แต่เข้าใจว่าการตั้งค่านั้นมันน่าจะเป็นที่ฝั่งเครื่องที่ไปเจอมากกว่าฝั่งอุปกรณ์ที่ถูกค้นหา ซึ่งก็น่าจะไม่ได้มีใครไปแก้เท่าไหร่อยู่ดีหรือเปล่าเพราะตัวเองไม่ได้ประโยชน์ทางตรงขนาดนั้นเข้าใจและเห็นด้วยครับ
ที่บอกแปลกคือ Primary function ของมันคือ Tracking
แต่ดันตั้งค่ามาให้ Tracking ไม่ได้ (by default)
ถ้าจะให้ Tracking ได้ ต้องไปตั้งค่าใหม่
แปลกตรงที่ทำไมเลือกให้ Tracking "ห่วย by default"
เรียกว่าเค้าพยายาม balance ละกันฮะ 😅
คือตัว tracker ก็พยายามให้หาได้ by default แล้ว
ส่วนตัวอุปกรณ์ (เทียบเป็นอะไรดี network gateway to offline tracker เหรอ) ก็พยายามช่วย แต่เนื่องจากอุปกรณ์นี้เป็นของเจ้าของอุปกรณ์ไม่ใช่ของเจ้าของ tracker ก็เลยต้องรักษาความเป็นส่วนตัวของเจ้าของอุปกรณ์ก่อนจะช่วยเจ้าของ tracker อะไรประมาณนั้น
อันนี้คือแยกคิดเป็นประโยชน์ของเจ้าของแต่ละฝั่งอีกที (แต่ใช่ ในแง่ความอยากตามหานี่ก็อยากให้ตามหาได้ง่ายและเร็วและถี่ที่สุดเหมือนกันฮะ)