ดราม่าพรินเตอร์ค่าย HP ยังวนเวียนกลับมาเรื่อยๆ ล่าสุด HP ประกาศหยุดขายพรินเตอร์ LaserJet กลุ่มที่บังคับผูกบริการออนไลน์ HP+ (รหัสจะลงท้ายด้วยตัว e ตัวอย่าง) เหลือเฉพาะ Laser Jet รุ่นปกติ (รหัสรุ่นเดียวกันทุกประการ แต่ไม่มี e ลงท้าย)
HP+ เป็นบริการออนไลน์ของ HP ที่ทำงานหลายอย่าง เช่น อัพเดตเฟิร์มแวร์อัตโนมัติ, รองรับ cloud print, สแกนแล้วส่งไฟล์เข้ามือถือทันที และสามารถสั่งหมึกได้เมื่อใกล้หมด (บริการสั่งหมึกแบบเหมาจ่ายชื่อว่า Instant Ink) แต่ข้อเสียของมันคือบังคับต่อเน็ตตลอดเวลา และตรวจเช็คว่าหมึกที่ใช้เป็นหมึกแท้ HP เท่านั้น ใช้รุ่นเทียบเคียงไม่ได้
พรินเตอร์ทั่วไปของ HP ไม่บังคับเชื่อมต่อบริการ HP+ แต่หากซื้อรุ่นที่ลงท้ายด้วย e จะบังคับต้องใช้ HP+ เท่านั้น ส่งผลต่อการใช้งานในออฟฟิศบางแห่งที่ไม่สามารถต่อเน็ตได้ กลายเป็นปัญหากับทีมซัพพอร์ตไอทีของหลายหน่วยงาน
HP ยืนยันกับเว็บ DruckerChannel ของเยอรมนี ว่าหยุดขายพรินเตอร์กลุ่ม LaserJet ที่ลงท้ายด้วย e เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ใช้พรินเตอร์รุ่นอื่นๆ ยังสามารถเลือกเชื่อมต่อกับ HP+ ได้ตามปกติ
ที่มา - DruckerChannel via Tom's Hardware
Comments
คิดได้ยังไง
แบบนี้วันไหนเน็ตพัง คือไม่ต้องทำงานกันเลย 😑
Update firmware ด้วยสิครับ ให้มันไม่ต้องบังคับต่อเน็ต
มีรุ่นหนึงลง Driver ถ้าหน้า support ไทยต้องไปโหลดโปรแกรมจาก store มาอีกที ลงเสร็จ จะ Scan ต้องสมัครและ log in อีกถึงจะใช้โปรแกรม HP scan ได้อีกเยอะไปไหน
แต่ถ้าหน้า support ของต่างประเทศ ไปเจอในกูเกิลรุ่นเดียวกัน กดโหลดได้เป็นไฟลื driver เต็มๆ ไม่ต้องพึ่งโปรแกรม HP เลย
PM ที่รับผิดชอบโปรเจคนี้ ควรต้องโดนเรียกไปคุยในห้องเย็นว่าฟีเจอร์แบบนี้ ผ่านออกมาได้ไง การพิมพ์งานต้องทำได้ในออฟไลน์โหมด กรณี local network พังก็ควรต้องต่อเคเบิลเพื่อพิมพ์ได้ เพราะบริษัทที่ต้องพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษทุกวันนี้ แสดงว่านั่นเป็น output ที่สำคัญของเค้านะผมว่า เพราะถ้าตัวไหนที่ปรับได้ คงเปลี่ยนไปใช้ electronic format กันแทบทั้งหมดแล้ว
..: เรื่อยไป
ช่วยแก้ Firmware ให้เวลาหมึกสีหมด ให้สามารถพิมพ์สีขาวดำ ได้ปกติด้วยครับ