สมาคมธนาคารสิงคโปร์ประกาศมาตรการเตรียมนำไปสู่การยกเลิกใช้งาน OTP ทั้งระบบ โดยเริ่มจากผู้ใช้ที่เปิดแอป digital token ไว้แล้วภายในสามเดือนข้างหน้าจะไม่สามารถใช้งาน OTP ได้อีก แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงแอปนั้นธนาคารจะพยายามผลักดันให้ติดตั้งแอปต่อไป
One-Time Passwords (OTPs) เคยเป็นมาตรฐานที่ดีสำหรับการล็อกอินขั้นที่สอง มันช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะถูกขโมยรหัสผ่านได้อย่างมาก อย่างไรก็ดี คนร้ายปรับรูปแบบการโจมตีโดยอาศัยเว็บ phishing ที่สามารถหลอกเหยื่อให้ใส่ OTP ไปยังคนร้าย หรือหากใช้ SMS OTP ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกขโมยหมายเลขโทรศัพท์เพิ่มเข้ามา ทุกวันนี้แนวทางการล็อกอินขั้นที่สองต้องพิจารณาถึงการโจมตตี phishing เสมอ เช่น U2F หรือ FIDO ที่ตรวจสอบ URL ของเว็บที่ใช้งานอยู่ตลอดเวลา
Digital Token เปิดทางให้ผู้ใช้สามารถยืนยันการล็อกอินหรือธุรกรรมอื่นๆ ผ่านทางแอปพลิเคชั่นธนาคารได้ โดยผู้ใช้เพียงกดยืนยันการทำธุรกรรมผ่านหน้าจอแอปพลิเคชั่น โดยตัวแอปพลิเคชั่นสามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้ที่กดอนุญาตการทำธุรกรรมด้วยลายนิ้วมือ, ใบหน้า, หรือ PIN ได้อีกชั้น ผู้ใช้จะเห็นว่าธุรกรรมที่กำลังยืนยันนั้นเป็นอะไร ทำให้ลดความเสี่ยงในการถูก phishing ที่คนร้ายสามารถนำ OTP ไปทำธุรกรรมอะไรก็ได้
แม้ว่าทางสมาคมธนาคารสิงคโปร์จะขีดเส้นตายไว้ที่สามเดือนข้างหน้า แต่แต่ละธนาคารอาจจะมีกำหนดการต่างกันไป เช่น UOB นั้นกำหนดยกเลิกการใช้ OTP สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
Comments
น่าสนใจ แต่ถ้ามือถือพังไปก็ลาก่อย
กลับไปสาขาครับ เช่นเดียวกับ HW OTP พัง
lewcpe.com, @wasonliw
ต่อให้ยังมี otp แต่ถ้ามีเหตุเช่น มือถือพัง ซิมหาย เบอร์หาย ก็ต้องไปธนาคารไม่ต่างกันครับ
เคยมือถือพังนะครับ แล้วทุกแอพต้องยืนยันผ่านมือถือหมด ต้องไปซื้อเครื่องใหม่เลย
การไปธนาคารเลยก็ปลอดภัยดี แต่ถ้ามีเหตุให้ไปธนาคารไม่ได้ สาขาอยู่ไกล (เช่น ไม่ได้อยู่ในไทย) นี่ก็จอดเหมือนกัน
จริงๆ ประเทศเล็กๆ แบบสิงคโปร์น่าจะพอเอาระบบ National Digital ID ไปใช้ได้บ้าง (e.g.)
จริงๆ หลายเคสยอมให้ยืนยันตัวตนใหม่ออนไลน์นะครับ อาจจะเป็น video call แต่ IAL อาาจจะต่ำกว่า ทำธุรกรรมบางประเภทไม่ได้
lewcpe.com, @wasonliw
ตอนที่เพิ่งเปลี่ยนโทรศัพท์ตอนเดือน 3 นี่เข้าสาขาถี่มากเลยฮะ หลายธนาคารเรียกให้เข้าไปเพื่อยืนยัน บางธนาคารถึงกับต้องเข้าไป dip บัตรประชาชนใหม่เพราะเปลี่ยนบัตรมาปีที่แล้ว ธนาคารไม่มีข้อมูลล่าสุดก็ไม่ยอมให้ทำอะไรเลยจนกว่าจะเข้าไปเอาบัตรเสียบที่สาขา
มันเป็นความสะดวกที่มาพร้อมความเสี่ยงล่ะนะ ถ้า OTP มันก็สะดวกดี แต่มันก็เสี่ยงตามความสะดวกที่ได้มา
ในเมืองไทยเห็นหลัก ๆ ก็ UCHOOSE มี ไม่แน่ใจว่าแอปธนาคารอื่นมีแบบนี้เหมือนกันมั้ย
ผมอยากให้ธนาคารไทยรองรับ 2FA แบบ hardware token มาก จะเอาให้ทุกคนในบ้านใช้เลย
ลงทุนสูงไปหน่อย
Ooh
หมายถึงต้นทุนฝั่งธนาคารหรือลูกค้าครับ ฝั่งธนาคารแค่ทำให้รองรับไม่น่าต้นทุนสูง ส่วนฝั่งลูกค้าก็ให้เป็นทางเลือก ใครมีก็เพิ่มเข้าไปได้ ใครไม่มีก็ใช้แบบตอนนี้เหมือนเดิม
ลงทุนสูงเลยหล่ะ เพราะมันต้องซื้อ license ตัว iam เพิ่มสำหรับส่วนนี้ เพราะระบบ iam พวกนี้คิด license เป็นจำนวน user ครับ ไม่ใช่แบบเหมา (ยังไม่รวม M/A รายปีอีก ราคาก็ตามจำนวน user ใน iam ด้วย)
นี่อยู่เอสโตเนีย ระบบ national ID คือบัตรประจำตัว (smartcard เหมือนๆ ของไทย) และแอปโทรศัพท์ (มีระบบซิมโทรศัพท์ด้วยแต่ยังไม่เคยใช้) เป็น 2FA อัตโนมัติที่มีทุกคนเลย (2FA เพราะนอกจากมีของอย่างตัวบัตรหรือแอปที่ติดตั้งไว้แล้วต้องมี PIN ด้วย PIN1 - สำหรับยืนยันตัว PIN2 สำหรับลงลายเซ็น) เข้าแอปธนาคารไม่ว่าเจ้าไหนก็ใช้อันนี้ login (รวมไปถึงสารพัดระบบ แอป supermarket หรือเลือกตั้งออนไลน์ก็ยังใช้)
แล้วถึงเอาไป login แอปธนาคารได้ (ไม่ว่าด้วยช่องทางใด) พอจะโอนเงินไปที่แปลกก็ต้องลงลายเซ็นด้วย PIN2 อีก (เหมือนเวลาเราไปสาขาแล้วต้องเซ็นใบถอนเพราะลายเซ็นจาก PIN2 มีกำกับว่ามีผลในทางกฎหมาย แต่ออนไลน์)
แล้วแอปไม่ใช่ login แบบกดยืนยันเฉยๆ เป็นการ generate public/private keypair เหมือนในตัว smartcard เลยแล้วมี certificate chain ไล่มาจากทางรัฐอีกที เวลาจะเอาแอปนี้ไปลงเครื่องใหม่ login ด้วย user/password ไม่ได้ต้องเอาบัตรไป login แล้วใช้ PIN2 ลงลายเซ็นด้วยว่าจะสร้าง keypair & cert ใหม่มาใช้
เนี่ย แล้วคือมีทั้งแอปทั้งเว็บ ไม่ตรวจแคปจอ ไม่ตรวจ accessibility service จะใช้อะไรจะทำกันยังไงก็ทำไป ช่องทางดัก login ไปใช้ขโมยเงินนี่กันได้ค่อนข้างดีจากตัวโครงสร้างพื้นฐานเค้า
ถึงอย่างนั้น scammer ก็ยังเยอะนะฮะไม่ใช่ไม่มี แต่เป็นหลอกให้โอนเงินดื้อๆ 🥲 เผลอไม่มีสติไป login online ให้เค้าก็เสียได้เหมือนกัน
อยู่เอสโตเนีย นี่เทพด้านระบบสารสนเทศภาครัฐเลยนี่ครับ เขามีระบบอะไรน่าสนใจที่แตกต่างจากที่ไทยบ้างครับ เคยดูข่าวเรื่องสังคมดิจิทัลในเอสโตเนีย แต่มันเป็นภาพรวมๆ ไม่ได้ลงรายละเอียด มีอะไรที่น่าสนใจที่ทำให้ประเทศเขาพัฒนาได้เร็วได้ในระยะแค่ 30 ปีบ้างครับ แชร์หน่อยจะเป็นพระคุณอย่างสูง
เยอะมากจนยังหาเวลาเล่าเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้ฮะ 😅 แต่ถ้าสรุปสั้นๆ (จะพยายาม)
คลิปนี้ไม่ได้ละเอียดแต่คิดว่าเข้าใจง่าย
ขอบคุณมากครับ
OTP พวกนี้ยกเลิกหมดเลยครับ เพราะเลขจาก token ก็โดนคนร้ายหลอกไปใส่เว็บ phishing อยู่ดี
lewcpe.com, @wasonliw
ดันอันนี้เหมือนกัน เมื่อไหร่จะมี จะให้คนที่บ้านใช้เป็นบัญชีหลักเลย
ผมว่าช่องโหว่ของ SMS คือแอฟที่ใช้จัดการsms มันไม่ปลอดภัย เช่นแอฟอื่นเข้าถึงได้ การเข้าไปอ่านเอา SMS ทำได้ง่าย ที่จริงถ้าเจอกันครึ่งทางก็น่าจะทำsmsให้แข่งแกร่ง และไม่มีการเปิดช่องให้allowเลยจะดีกว่า คือทำเหมือนแอฟ authen ไปเลย
แอปไม่ปลอดภัย โปรโตคอลไม่ปลอดภัย ขั้นตอนการขโมยซิมไม่ปลอดภัย หลายชั้นมากไปแหละฮะ ไม่น่าแก้ได้
คนไทยน่าจะยังไม่ชินกับ digital token เท่าไร ต้อง run parallel กันไปซักพัก ก่อนจะ notice ล่วงหน้าว่าจะยกเลิก
วนไปเรื่อย ขึ้นอยู่กับมิจฉาชีพถนัดแบบไหน ก็หนีไปอีกทาง