สำนักข่าว Reuters รายงานว่าชายอายุ 56 ปี ถูกจับกุม หลังเจ้าตัวเปิดตัว FSD ของ Tesla Model S และหันไปเล่นโทรศัพท์มือถือ ก่อนรถจะพุ่งเข้าชนรถมอเตอร์ไซค์ และคนขับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่ตำรวจ และ NHTSA กำลังสอบสวน โดยใช้ข้อมูลรถเพื่อพิจารณาการตั้งข้อหาต่อไป
ด้านผู้เชี่ยวชาญวิจารณ์ว่า ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติของ Tesla ถือว่ามีข้อจำกัด จากการใช้กล้องในการประมวลผลสภาพแวดล้อม เพราะสร้างความผิดพลาดได้มากกว่า เมื่อเทียบกับระบบไร้คนขับอย่างของ Waymo ที่ใช้เซ็นเซอร์ lidar ซึ่งแม่นยำมากกว่า โดยเฉพาะในสภาพอากาศรูปแบบต่างๆ
ที่มา - Reuters
Comments
มี Lidar อยู่ดีๆ ก็ไปภอด ลด Cost แบบนี้สรุปคือมันคุ้มกับข่าวเสียหายของแบรนด์มั้ยนิ
จำได้ว่า Tesla เป็นสาย ไม่เคยใช้ Lidar (เลเซอร์วัดระยะ) แต่แรก
เคยมีแต่ Radar (ยิงคลื่นความถื่ชิ่งใต้ท้องรถคันหน้า เพื่อดูว่ามีอีกคันนึงข้างหน้าโน้นมั๊ย)
แล้วถอดออก
มีข่าวใหม่ๆ ไม่นานบอกซื้อ lidar sensors ไปหลายตังค์อยู่นะครับแต่ไม่รู้เอามาใช้ส่วนไหนหรือตอนไหน
เมื่อไหร่จะได้ไปเวล3 บอกปีหน้ามากี่หนแล้ว
แบบนี้ค่อนข้างอันตรายเหมือนกันนะ ทำได้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เหมือนจะทำได้ดีทำให้คนใช้ไว้ใจ แต่พอเกิดอุบัติเหตุนี่ก็รุนแรงเลย
ควรเปลี่ยนชื่อเพื่อไม่ให้คนสับสนได้แล้วนะ tesla co-drvier ไรงี้ ในเมื่อมันยังไม่ได้ Full ขนาดนั้น คนจะได้ประมาทน้อยลง
มันชื่อ FSD Supervised ก็คือคนยังต้องคอย Supervised
ดูจากชื่อ ไม่แปลก ที่คนจะคิดว่ามันทำงานได้แทนคนแบบสมบูรณ์แบบ
ระวังจำคุกได้ครับ
ขับรถมอเตอร์ไซค์ในเมกาอันตรายแล้ว ยังเจออันนี้เพิ่มอีก
ใช้แต่กล้องไม่มีระบบสำรองช่วยยืนยันด้วยซินะเวลาเกิดปัญหาเนี่ย แล้วตอนชนนี่รถมันรู้ตัวเปล่าว่าชนมันจะเบรกเองไหมหรือขับไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้สึกอะไร จากบาดเจ็บเบาๆ กลายเป็นร้ายแรงได้เลยนะ