Tags:
Node Thumbnail

กรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนออสเตรเลีย (Australian Securities & Investments Commission - ASIC) ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (Australian Securities Exchange - ASX) ฐานที่แสดงความมั่นใจว่าโครงการระบบบล็อคทดแทนระบบ COBOL เดิมจะเปิดให้บริการได้ตามกำหนด แม้ในความเป็นจริงจะล่าช้าและต้องยกเลิกไปในที่สุด

โครงการระบบใหม่ของ ASX เริ่มมาตั้งแต่ปี 2015 และเดิมมีกำหนดเปิดระบบเดือนเมษายน 2021 แต่ก็เลื่อนมาหลายครั้ง พร้อมกับลดขนาดโครงการ (descoped) จนในปี 2022 ทาง ASX ก็ยืนยันว่าพร้อมใช้งานจริงในเดือนเมษายน 2023 แต่สุดท้ายให้ Accenture เข้ามาตรวจสอบโครงการแล้วพบว่ามีข้อกังวลหลายอย่าง จนต้องยกเลิกระบบไปพร้อมบันทึกด้อยค่าโครงการทั้งหมดถึง 255 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

ปัญหาของโครงการนี้ทำให้ ASIC สั่งปรับ ASX ไปก่อนแล้่วถึง 1,050,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และการฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมครั้งนี้ยังไม่มีการกำหนดวงเงินที่จะเรียกร้อง

ที่มา - ASIC

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: paween_a
Android
on 14 August 2024 - 16:29 #1319502
paween_a's picture

blockchain ไม่สามารถเกิดในโลกอื่นได้เลยนอกจาก bitcoin และผองเพื่อนแค่นั้นเองเหรอ?

By: IDCET
Contributor
on 14 August 2024 - 17:08 #1319507 Reply to:1319502

มองว่ามันเป็น Technology ที่ใหม่สำหรับคนทั่วๆ ไป ซึ่งมาพร้อมกับ Bitcoin แล้วก็ยังมีคนที่ไม่เข้าใจแนวคิดอีกมาก นอกจากถูกนำมาใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อระดมทุนโครงการต่างๆ ชวนลงทุน crypto หรือนำมาเป็นแนวคิดของแต่ละระบบ (ที่หลายๆ คน แม้แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะใช้งานมันยังไง นอกจากคนที่ศึกษาและทำงานในด้านนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว รวมถึงหลายๆ แนวคิดที่เกิดขึ้นที่จะใช้ Blockchain เนี่ย มันสามารถใช้เครื่องมือที่มีอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่ง Blockchain)

รวมถึงความซับซ้อนของระบบที่จะนำมาใช้งานจริงทั้งในทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และมี Use-case ที่จะใช้งานจริงได้ค่อนข้างจำกัด กลายเป็นว่าหลายโครงการที่เกี่ยวกับ Blockchain ไปไม่รอด ทั้งใช้งบประมาณสูง ใช้บุคลากรเฉพาะทางพอสมควร และยากที่จะสำเร็จ ผลคือโครงการถูกยุบ โดนยกเลิก ไม่ทำต่อ หรือล่าช้าไปหลายปี

ที่มันดังได้มาหลายปี ก็เพราะมันมีความเกี่ยวข้องกับ Bitcoin กับ Cryptocurrency ต่างๆ และถูกใช้เป็น buzzword ในหลายโครงการที่เปิดระดมทุนตามกระแสช่วงเวลาที่ Bitcoin กำลังดังและมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นหละครับ


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: langisser
In Love
on 14 August 2024 - 18:56 #1319516 Reply to:1319507

ไม่ค่อยเกี่ยวกันหรอก แต่ผมนึกถึง Excel กับ BI tools สมัยใหม่

ไม่ว่าของใหม่(block chain) จะดียังไงแต่ถ้าไม่ตอบ use case จริงๆ(แบบไม่ดันทุรัง) พวก transactions database ก็คงจะยังอยู่ต่อไป เหมือน Excel นั่นแหละ

By: McKay
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 August 2024 - 20:20 #1319518 Reply to:1319502
McKay's picture

ผมมองว่าถ้า implement จริง มันจะกลายเป็น technical debt ตัวใหญ่ในอนาคตครับ


Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 14 August 2024 - 21:58 #1319521 Reply to:1319502
lew's picture

ใช่ครับ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรต้องการใช้งานเกินกว่า Merkel Tree

ถ้าเรามีฐานข้อมูลที่ตรวจสอบจากภายนอกได้ว่ามีการลบหรือแก้ไขหรือไม่ (แค่ merkel tree เปล่าๆ ก็เพียงพอ ออกแบบไว้เพื่อการนี้แต่แรก) เราจะต้องการระบบ distributed ไปทำไม?

Satoshi Nakamoto นั้นระบุว่าต้องทำเป็น distributed เพราะไม่ต้องการให้หน่วยงานใดๆ สามารถแบนบัญชีได้ แต่นอกเหนือจากระบบการเงินที่ไม่ต้องการผู้บังคับใช้กฎหมาย มันมีระบบอะไรที่ไม่ต้องการให้มีการแบนบัญชีอีก? ตลาดหุ้นแบนบัญชีคนปั่นหุ้นหรือฉ้อโกงไม่ได้? ธนาคารล็อกบัญชีม้าไม่ได้? ดิจิทัลวอลเล็ตที่ปิดบัญชีร้านค้าโกงไม่ได้?

ระบบแทบทั้งหมดในโลกความเป็นจริงถูกควบคุมอย่างหนัก กรณีนี้คือจาก ASX และ ASIC แล้วเราจะขี่ข้างไปทำระบบที่ล็อกจากศูนย์กลางไม่ได้ แล้วก็พยายามหาทางล็อกให้ได้อีกรอบทำไม

ระบบตรวจสอบการออกใบรับรองดิจิทัลทุกวันนี้ก็ตรวจสอบย้อนกลับได้ ลบไม่ได้ แทบทุกรายรันบนฐานข้อมูล SQL ธรรมดา ใครยิงเซิร์ฟเวอร์ก็แบนไอพีทิ้งไป


lewcpe.com, @wasonliw

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 15 August 2024 - 12:36 #1319575 Reply to:1319502
btoy's picture

น่าจะเป็นอีก 1 เทคโนโลยีที่ไม่คุ้มต่อการลงทุนพัฒนามาใช้งานกับความต้องการทาง business ตอนนี้


..: เรื่อยไป

By: orchidkit on 14 August 2024 - 23:24 #1319524

blockchain คือการ overkill หรือเปล่าครับ