เจฟฟรีย์ พิกโคโล ต้องการฟ้องร้องดิสนีย์และเจ้าของร้านอาหารใน Walt Disney World ในข้อหาทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยมิชอบ เนื่องจากภรรยาของเขา แพทย์หญิงกนกพร แต่งสวน เสียชีวิตจากอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ดิสนีย์อ้างว่า เจฟฟรีย์ พิกโคโล ไม่สามารถฟ้องร้องได้เพราะเคยสมัครทดลอง Disney+ เป็นเวลา 1 เดือน ในปี 2019 และได้ยอมรับเงื่อนไขในการลงทะเบียนว่า จะไกล่เกลี่ยกับดิสนีย์นอกศาลในทุกข้อขัดแย้ง
การเสียชีวิตของแพทย์หญิงชาวไทยเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2023 เมื่อเธอและสามีเข้าใช้บริการของ Walt Disney World และได้รับประทานอาหารในร้านอาหารภายในสวนสนุก สุดท้ายเธอเกิดอาการแพ้จนเสียชีวิต แม้จะมีการแจ้งล่วงหน้าและย้ำอีกหลายครั้งกับทางร้านอาหารว่าเธอแพ้นมและถั่วอย่างรุนแรง
ศาลฟลอริดาพิจารณาว่าข้อต่อสู้ของ Disney ฟังขึ้นและอนุญาตให้ไปตกลงไกล่เกลี่ยนอกศาลได้หรือไม่ ในเตือนตุลาคมนี้
ที่มา: bbc
Comments
นี่มันคือเงื่อนไขยอมรับอะไรกันนี่ ครอบจักรวาลสุด ๆ แถมจากใน software ออกมาในโลกกายภาพได้ด้วย
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
หน่าานี้ ...
edit: ตอนแรกที่ไม่(ค่อย)มีใครรู้ว่ามี Policy นี้ ตอนนี้รู้กันทั้งบาง คุ้มมั้ยเนี่ย
ตีความครอบจักรวาลอีกแล้ว
Disney ตัดสินใจแบบนี้ คุ้มค่าไหม?
นั่นสิครับคือผมนี่อยากรู้จริง ๆ ว่าทีมกฎหมายคิดอะไรอยู่ คือส่วนตัวผมมองว่าหน้าที่ของทนายคือทำให้ลูกความได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอเพราะงั้นนี่ก็ไม่ใช่ข้อต่อสู้ที่ควรยกเอามาสู้ในคดีที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 50k เลยคือถ้าคนที่อ่านข่าวนี้ติดว่าข้อต่อสู้นี่ใช้ได้จริงจนไม่กล้าสมัครบริการล่ะ? ผมว่านั่นน่าจะมีแววเสียหายมากกว่า 50k อีกนะ
งงมาก ดิสนี่ย์ต้องการอะไร
สามีฟ้องเรียก USD50,000 (THB 1.7M)
Disney คุ้มไหมกรณีนี้หรือต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองบริสุทธิ์มากกว่ายอมรับผิด
ออก Policy แบบนี้ทางกฏหมายทำได้เหรอเนี่ย
แล้วแต่รัฐ อย่างกรณีนี้ในรัฐฟลอริด้า (รัฐที่เกิดเหตุ) กฎหมายเค้าอนุญาต แต่กรณีเดียวกัน แต่ในรัฐแคลิฟอเนีย กฎหมายบอกว่าข้อที่ระบุว่าห้ามฟ้องร้อง บ. หากยินยอมจะไม่มีผลบังคับครับ
ตามความเข้าใจนะ
ถ้ากฏหมายไม่ห้าม สามารถเชียนลงไปในเงื่อนไขได้หมด แต่จะvalidมัย ก็ต้องไปฟ้องศาลกันเอง
เห็นข่าวนี้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ทีแรกไม่อยากเชื่อว่าข่าวจริงเลยว่า บ.ระดับนี้จะใช้ข้อนี้มาสู้ นี่มันเสียภาพลักษณ์มากเลยนะ และสามีผู้ตายก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมายด้วยแค่ค่าทำศพเองมั้งเงินแค่นี้ใน US
Dafuq!
คนเล่าข่าวใน ตต คิดว่าน่าจะเป็นการเล่นกับระบบดูก่อน ว่าศาลจะรับมือยังไง ไว้ใช้ในอนาคต สรุปคือ คนตายคือคนไทยคนแรกนั่นเอง (คหสต. คือแย่มากนะแบบนี้)
ถ้าจะมีผล มันก็ควรจะมีผลแค่ในช่วงซับ ไม่ใช่มีผลผูกพันตลอดแบบนี้ ว่าแต่บรรทัดสุดท้าย ตกลงว่าศาลพิจรณาแล้วหรือยังนะ อ่านแล้วงงๆ
The Dream hacker..
"ศาลฟลอริดาพิจารณาว่าข้อต่อสู้ของ Disney ฟังขึ้นและอนุญาตให้ไปตกลงไกล่เกลี่ยนอกศาลได้หรือไม่ ในเตือนตุลาคมนี้"
ผมอ่านก็งงครับ
ลองอ่านต้นทางแล้วต้องเปลี่ยนเป็น
เห็นควรให้ผู้เขียนข่าวพิจารณาเปลี่ยนตามนี้ครับ อ่านแล้วเข้าใจความหมายได้ชัดเจนกว่ามาก
คนเขียนข่าวเปลี่ยนตามที่แจ้งแล้วครับ ถือว่าไวอยู่
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ยังไม่ได้แก้ครับ ข้างบนเค้าเสนอให้เพิ่มคำว่า "จะ" เข้าไป
มิสเตอร์พิคโคโลต้องการให้คดีนี้ถูกพิจารณาโดยคณะลูกขุนในศาล
การเคลื่อนไหวของดิสนีย์เพื่อเอาคดีออกจากศาลและตัดสินโดยการอนุญาโตตุลาการ จะมีการพิจารณาในศาลรัฐฟลอริดาในเดือนตุลาคม
การอนุญาโตตุลาการหมายถึงการที่ข้อพิพาทถูกจัดการโดยบุคคลที่สามที่เป็นกลางซึ่งไม่ใช่ผู้พิพากษา
กระบวนการนี้มักจะเร็วกว่ามากและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าคดีในศาล “ดิสนีย์อาจต้องการได้รับประโยชน์จากความเป็นส่วนตัวและการรักษาความลับที่การอนุญาโตตุลาการนำมาให้ แทนที่จะให้คดีการเสียชีวิตโดยมิชอบถูกพิจารณาในที่สาธารณะพร้อมกับโฆษณาที่เกี่ยวข้อง”
เจมี่ คาร์ทรายท์ หุ้นส่วนที่บริษัทกฎหมายชาร์ลส์ รัสเซล สปีชลีส์ กล่าว
มันไม่น่าจะได้นะ คนละธุรกิจกัน แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอเมริกา
เมื่อ Walt Disney เข้าเรท R
เท่าที่เห็นข่าวเต็มๆ คนเขาบอกว่าควรจะฟ้องร้านอาหาร ไม่ใช่มาฟ้องดิสนี่ย์ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าดิสนี่ย์ต้องมารับผิดชอบร้านอาหารที่มาเปิดในดิสนี่ย์เวิล์ดด้วยหรือไม่ บางทีทนายก็หัวหมอฟ้องดิสนี่ย์สิได้เงินเยอะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมดิสนี่ย์มาเล่นอีท่านี้ได้
ผมอ่านเต็มๆ ก็ได้ความแบบคุณ xerxep เช่นกัน มันดูไม่เกี่ยวกับดิสนีย์จริง แต่เหตุผลก็อ้างว่าไม่เกี่ยวก็จบแล้วไม่รู้จะอ้าง disney+ ทำไมให้คนเคือง
ตอนนี้เท่ากับว่า"ทุกคน"ที่สมัคร Disney+ แม้เพียงแค่เดือนเดียว มีอะไรต้องไปใกล่เกลี่ยกับดิสนีย์นอกศาลทั้งหมด และมีผลตลอดไป
งงตรงที่ทำสัญญาทาสได้ด้วยรึ
ไม่ได้เป็นสมาชิกแล้วสัญญายังมีผล
เหมือนทำสัญญาขายขีวิตเลยนิ
คุ้มกันกับการที่บริษัทต้องเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าไหมละนั่น
ทั้งที่ฝั่งลูกค้าก็มีการแจ้งแล้วว่าแพ้อาหารประเภทนมและถั่วไปแล้วด้วยนะ
ถ้าเป็นตุลาการศาลฯ ก็จะให้ดิสนีย์มีความผิดเพราะขาดจริยธรรมในการแต่งตั้งร้านค้า แฮร่! (อ่อ ลืมไป เคสนี้ร้านค้าอาจจะไม่มีประวัติมาก่อน)
เราจะถอนไม่ยอมรับข้อตกลงนั้นอย่างไรครับ
ประชาชน ที่อยู่นอกอเมริกา ถอด consent ได้ไหม น่าคิดนะครับ
ถ้ามองมุมง่ายๆ Disney+ เรียกเก็บเงินเราเกิน เราก็ฟ้องร้องไม่ได้ ต้องไปไกล่เกลี่ยสถานเดียวรึเปล่าครับ
บ้านเราก่อนติ๊กยอมรับก่อนใช้แอฟ มีกฏแบบนี้อยู่ไหมครับ
แล้วถ้ามีในบ้านเราเป็นโฆษะหรทอใช้ไบังด้ครับ
*แอฟ -> แอพ
ถ้าเข้าออกศาลอยู่บ่อยๆ จะไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร ทนายมีหน้าที่ต่อสู้คดีให้ลูกความยังไงก็ได้ แต่ต้องพูด อธิบาย โน้มน้าว พิสูจน์ ให้ผู้พิพากษาและลูกขุนเข้าใจและมีความเห็นที่ตรงกันตามที่ทนายและลูกความต้องการให้ได้ แม้ว่าบางอย่างจะดู"อิหยังวะ?"ในสายตาคนทั่วไป เราจึงเห็นคดีพลิกล็อคจากการตัดสินคดีของศาลได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะสิ้นสุดแค่ศาลแรก ถ้าฝ่ายที่แพ้คดีมีมูลเหตุเพิ่มเติมก็สามารถยื่นอุทธรณ์ให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติมได้ว่าจะผลออกมาเป็นเหมือนเดิมหรือกลับมาพลิกล็อคอีกครั้ง
ล่าสุด Disney ถอยแล้ว แต่บอกว่า "สละสิทธิ์" เฉพาะในครั้งนี้ แต่ก็คือยังยืนยันว่าสัญญาทาสของตัวเองจริง ๆ แล้วใช้ได้