คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศเริ่มดำเนินการตามขั้นตอน โดยแจ้งกับแอปเปิลให้ปฏิบัติตามรายละเอียดของกฎหมายดิจิทัล DMA ในสองประเด็นเกี่ยวกับการเปิดกว้าง ให้นักพัฒนาภายนอกสามารถเข้าถึงระบบปฏิบัติการ iOS และ iPadOS ที่เข้าเงื่อนไข DMA มากกว่านี้
ประเด็นแรก ระบุว่า iOS ต้องเปิดให้ฮาร์ดแวร์ของผู้พัฒนาภายนอกสามารถเข้าถึงฟังก์ชันและความสามารถต่าง ๆ มากกว่านี้ เช่น หูฟัง สมาร์ทวอทช์ และเฮดเซต VR ทั้งนี้คณะกรรมาธิการยุโรปไม่ได้ลงรายละเอียด แต่น่าจะเกี่ยวกับฟีเจอร์การแจ้งเตือน ระบบเสียง ที่แอปเปิลจำกัดความสามารถบางอย่างเฉพาะอุปกรณ์ตนเองเท่านั้น
ประเด็นที่สอง คณะกรรมาธิการยุโรปบอกว่าแอปเปิลต้องมีขั้นตอน เพื่อให้นักพัฒนาสามารถร้องขอ ติดต่อ หรือขอเข้าถึงการใช้งานฟีเจอร์ใน iOS และ iPadOS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปิดเผย และมีกำหนดเวลาที่ชัดเจนมากกว่านี้
แอปเปิลมีเวลา 6 เดือน ในการชี้แจงและปรับปรุงตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยหากไม่สามารถปฏิบัติตามได้และถูกระบุความผิด จะมีโทรปรับสูงสุดถึง 10% ของรายได้ต่อปีในภูมิภาคยุโรป
Julien Trosdorf ตัวแทนของแอปเปิลชี้แจงว่า ที่ผ่านมาแอปเปิลได้ปรับปรุงแนวทางสำหรับแอพพลิเคชันในสหภาพยุโรปทั้ง iOS และ iPadOS ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ DMA ขณะเดียวกันยังสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้งานได้ ซึ่งบริษัทจะทำงานร่วมกับคณะกรรมาธิการยุโรปในการสร้างแนวทางรองรับดังกล่าวต่อไป
ที่มา: European Commission และ TechCrunch
Comments
วุ่นวาย จุ้นจ้าน ^_^ ทำไม eu แม่มไม่ทำ os ใช้เฉพาะ eu เองเลย ?
ไม่ทำก็ได้นิครับ ก็แค่ไม่ต้องเข้าไปขายใน EU เอาเงินในกลุ่มประเทศนั้น
แต่ผู้ถือหุ้น Apple ก็คงไม่ยอมไม่ให้ขายเหมือนกัน
+++
คนทั่วไปคิดแบบนี้ก็ไม่ผิดครับ แต่กับเป็นกลุ่มผู้ดูแลเพื่อผลประโยชน์ของคนเป็นหลายร้อยล้านคน มุมมองน่าจะแตกต่างออกไป
มันไม่ใช่ว่าเค้าอยากได้ OS แบบไหน แต่พออะไรมันใหญ่เกินไปแล้วต้องควบคุมไม่ให้อำนาจใหญ่เกินเพื่อไม่ให้ครองตลาดแบบมีอำนาจเหนือตลาด
เอาจริงยังไม่สั่งแยกบริษัทส่วน OS ออกมาก็น่าจะปราณีมากแล้ว 🫠 (ซึ่งจริงๆ อันนั้นก็น่าจะหนักไป)
คิดอะไรให้มันกว้างกว่านี้ครับ ที่eu ทำก็เพื่อผลประโยชน์ของประชากรของเขา ถ้าทิมคุกคิดแบบคุณ คงไปนอนคุยกับรากมะม่วงอยู่ละ
มันเป็นกลุ่มประเทศเขาไหม จะเข้ามาหาประโยชน์ในกลุ่มประเทศเขา เขาก็มีสิทธิตั้งกฎเกณฑ์รึเปล่า เข้ามาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามครับ หากมองว่าถูกเขา Bully ประเทศต้นทางจะช่วยเหลือผู้ประกอบการเวลาจะพิจารณา product ของ EU ก็ เข้มงวดกลับบ้าง ... นี่คือธรรมดาของโลก
ขอแบบ เวลารีวิวแอพ ช่วย friendly กว่านี้หน่อย ไม่ใช่พวกโยน guideline มาทั้งหัวข้อใหญ่ ๆ แต่ไม่บอกแบบ specific ไปเลยว่าตรงไหนที่ไม่โอเค
ให้เปิดขนาดนี้เลย เอเปิล ไม่ยอมง่ายแน่ๆ เพื่อความปลอดภัยระดับโลกมาเปิดอะไรเยอะๆแบบนี้ ไม่ปลอดภัย
โทรปรับ > โทษปรับ
คือต้องมองว่า EU ทำแบบนี้เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคไหมด้วยนะ ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ EU ทำทำแล้วออกมาดีกับผู้บริโภคขนาดนั้น เช่นเรื่อง cookies (เจตนาดี แต่ผลออกมาได้แถบใหญ่ ๆ บังไปครึ่งหน้าทุกรอบที่เข้าเว็บ)
ในระยะยาวมันทำลายความสามารถในการแข่งขันของตัวเอง จะดิ้นรนทำนู่นทำนี่เองไปทำไม ก็ให้รัฐบาลจัดการตัดแบ่งมาให้สิ ถ้าในอนาคตจะมี OS ใหญ่ๆเกิดขึ้นมาอีก มันจะไม่มาจาก EU
Cookie consent นี่ก็เหมือนกัน มันทำร้ายธุรกิจเล็กๆ ที่ต้องพึ่งการแทร็ค event ที่แม่นยำ พวกบริษัทใหญ่ๆที่เป็นที่รู้จัก ไม่กระทบมากหรอก
ใช่ครับ EU ทำให้ startup ตัวเองตายไปด้วย รวมถึง AI ต่อไปคงไม่มีของดีจาก EU อีกแล้ว
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
เรื่อง AI นี่เห็นด้วยนะฮะ แต่เรื่องนี้ จำได้ว่ามีเกณฑ์ว่าต้องเป็นเจ้าใหญ่จริงๆ ถึงจะโดนนะ
จะ track แค่ web ตัวเอง ไม่จำเป็นต้องใช้ Cookie ครับ ใช้วิธีอื่นได้
ฉะนั้นบริษัทที่ไม่มีรายได้มาจากการขายโฆษณา นี้ไม่กระทบครับ
ตัวอย่างที่สำเร็จก็มีครับ เช่น ประเทศจีน ผมว่าถ้าไม่มี Great Firewall ผมว่า App ที่ครองโลกอย่างในปัจจุบันจีนจะทำเองไม่ได้แน่นอน ในมุมหนึ่งคืออาจจะลอกเลียนแบบ แต่ในอีกมุมหนึ่งของผลประโยชน์คือมันทำให้เม็ดเงินยังคงอยู่ในประเทศ เพราะประชากรเขาเยอะมาก ถ้าสูญเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมันคือรอยรั่วที่ไม่สามารถกลับคืนมาได้อีกแล้ว
อ่านแล้ว ก็อยาก ให้ Apple แบน ไม่ขายสินค้าให้กลุ่ม EU ไปเลย
ถ้าอยากได้ ก็สั่งซื้อ นำเข้าเองไปเลย จะได้ ไม่ต้องคอย ทำตามข้อเรียกร้อง เยอะแยะไปหมด
แต่ก็อย่างว่า Apple เขาฉลาดกว่าเราอยู่ละ เขาคงคิดทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด 555+
อียู ใหญ่ ไม่ขาย ก็ขาดกำไรงามๆ ไปเยอะ อย่างว่าเอเปิลฉลาดกว่าเยอะ 55
ใจนึงก็อยากให้ Apple ไม่ขายสินค้าให้ Eu โดยตรงนะ ให้หิ้วเอง ที่โดนกดขนาดนี้แล้วยังอย๔่นี่คงเพราะลูกค้าองค์กรณ์มากกว่า ถ้าลูกค้าองค์กรณ์ใน EU หนีไป OS อื่นหมดเมื่อไร่ Apple คงไม่ขายตรงใน กลุ่ม EU แน่ๆ
ขยายฟีเจอร์ให้ค่ายอื่นมั้งเหอะทุกวันนี้ฟังเพลงบนแอนดรอยด์ราคาหมื่นกว่ายังชอบมากกว่าฟังบนไอโฟนเลย
ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับEUทุกเรื่องหรอกนะแต่เคสพวกนี้คือรายใหญ่กดรายย่อยสุดท้ายคนรับกรรมก็คือผู้บริโภค แต่ดันมีสาวกเดนตายที่ยังหน้ามืดตามัวเห็นแอปเปิ้ลเสียผลประโยชน์ไม่ได้รีบออกมาปกป้องกันใหญ่ทั้งๆที่บริษัทมันกดหัวผู้บริโภคจนโงไม่ขึ้นทำกำไรมหาสารรวยจนไม่รู้จะรวยยังไงละอย่าไปสงสารเค้าเลยสงสารตัวเองก่อนเถอะ..ที่นอกจากจ่ายแพงขึ้นเพื่อได้ของไม่สมราคาแล้วยังต้องออกตัวเป็นโล่ปกป้องเค้าอีก