Jim Farley ซีอีโอของ Ford เปิดเผยในรายการสัมภาษณ์ของช่อง Everything Electric Show ว่าเขานำรถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi SU7 ไปลองขับมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว และมันดีจนเขาไม่อยากคืนรถเลย
Farley เปิดเผยว่า Ford นำเข้ารถยนต์ Xiaomi SU7 จากเซี่ยงไฮ้มาที่ชิคาโก 1 คันให้เขาใช้งาน ซึ่งเขาให้เหตุผลว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนนำหน้าโลกตะวันตกไปไกลแล้ว จากนโยบายของรัฐบาลจีนที่สนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เมื่อ 10 ปีก่อน โดย Farley ชี้ว่า 70% ของรถยนต์ไฟฟ้าที่วางขายกันทั่วโลกผลิตในจีน และจีนเก่งเรื่องการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดกับน้ำมัน ที่มีระยะวิ่งไกล เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่สถานีชาร์จยังไม่ทั่วถึง
Farsey เปรียบเทียบสถานการณ์ของรถไฟฟ้าจีนยุคนี้ ว่าเหมือนกับ Toyoya ยุค 1980s ที่ขยายตัวสู่ตลาดโลกอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ต่างไปคือญี่ปุ่นเป็นประเทศเล็กๆ ในขณะที่จีนเป็นประเทศใหญ่ ดังนั้นเมื่อประเทศสเกลใหญ่ระดับจีนลงมาลุยทำรถยนต์ไฟฟ้าขาย จึงแข็งแกร่งมาก
สถานการณ์ของ Ford ตอนนี้คือกำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ราคาถูก แข่งขันต้นทุนกับรถจีนได้ วิธีการต้องใช้ทีมพิเศษชื่อ Skunk Works อยู่ในแคลิฟอร์เนีย แยกจากตัวบริษัทหลัก (ลักษณะเดียวกับทีมออกแบบเครื่องบิน Lockheed Skunk Works ในอดีต) เพราะเขามองว่าวิธีการแบบเดิมๆ ของ Ford นั้นไม่เวิร์คแล้ว โดย Farley บอกว่าเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ทีมทำไปถึงไหนแล้ว เพราะป้ายประจำตัวพนักงานของเขาที่เป็นซีอีโอ ไม่สามารถเข้าตึกแห่งนี้ได้ด้วยซ้ำ
ที่มา - The Register
Comments
จะลดอะไรได้อีกละเนี่ยต้นทุนแค่ค่าแรงคนก็แพงกว่าแล้ว ชิ้นส่วนองค์ประกอบรถก็น้อยลง จริงถ้าฟอร์ดใช้ของเดิมมาทำจริงมันึควรถูกกว่าหรือเปล่า ระบบอะไรๆ ก็มีอยู่แล้ว ปลอดภัย ทน งี้ไม่ต้องทดสอบกันใหม่ด้วย แล้วทีม Skunk Works ขนาด CEO เข้าไปดูไม่ได้ มันไม่ได้ feel แบบ Steve Jobs ลงคลุกคลี
ดูดีนะ เอารถค่ายอื่นมาลองขับ เพื่อหาทางพัฒนาของตัวเอง
ที่น่าสนใจคือ ชื่นชมรถยนต์ของคู่แข่ง
ปกติเวลาสัมภาษณ์ในที่สาธารณะแบบนี้ ไม่ค่อยเจอ CEO ที่ชมคู่แข่งเท่าไหร่
+1 แล้วยิ่งย่อสัมแบบหน้าสุดท้ายนี่ เค้าจะยังอยู่ในฐานะ CEO ได้อีกนานมั้ย 555
ช้ามาก ช้าไปมากๆๆ กว่าจะคิดจะทำ