OPPO ประเทศไทยออกแถลงต่อสื่อมวลชนครั้งแรกอย่างเป็นทางการ จากกรณีที่มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน Fineasy และ สินเชื่อความสุข ในสมาร์ทโฟน OPPO และ realme โดยไม่ได้รับอนุญาต
ชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหาร OPPO ประเทศไทยบอกว่า เบื้องต้นได้มีการดำเนินการทันทีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการแก้ไข และทยอยอัปเดต OTA เพื่อลบแอปพลิเคชันทั้งสอง ซึ่งได้เริ่มในรุ่น Find X8 Series , Reno13 Series , Reno12 Series และ OPPO A3 แล้ว
ส่วนการถอนแอปทั้งหมด จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 27 ม.ค. 2025 โดยข้อมูลบนคลาวด์มีการลบออกเป็นที่เรียบร้อย ส่วนข้อมูลในเครื่อง ผู้ใช้งานสามารถลบออกเองได้ทันที
ด้านธงชัย ม่วงใหม่ ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย โพสเซฟี่ กรุ๊ป เน้นย้ำว่า OPPO ประเทศไทยให้ความสำคัญกับกฎหมายความเป็นส่วนตัว ไม่เข้าถึงข้อมูลอ่อนไหวหากไม่ได้รับอนุญาต และได้จัดตั้งระบบความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล ทั้ง ISO 27001, ISO 27701, ISO 27018, PCI DSS, CSA, และ TrustArc และปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบภาครัฐ
OPPO ประเทศไทยยืนยันว่า ไม่มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน เนื่องจากผู้พัฒนาแอปคือบุคคลที่สาม รวมทั้งปรับปรุงระบบความปลอดภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งจะประสานงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) กระทรวงการคลัง (MOF) และหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม OPPO จะร่วมมือเฉพาะกับพันธมิตรที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญมากสำหรับ OPPO ประเทศไทย ทางบริษัทต้องขอโทษผู้ใช้งานจากใจ และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ทางบริษัทขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และจะไม่มีการติดตั้งแอปสินเชื่อที่ผิดกฎหมาย หรือไม่เข้าข่ายจากธนาคารแห่งประเทศไทยอีกต่อไป
ทั้งนี้ OPPO ประเทศไทยจะให้การช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อผ่านสายด่วน 1800-019-097 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: OPPO ประเทศไทย
Comments
บุคคลที่3 🤣
ไม่ตอบอยู่ดีว่าฝีมือใคร ?
ทั้งหมดนี้เพราะคำเดียวสั้นๆ โลภใช่มั้ย ใช้ลูกค้าตัวเองเป็นเหยื่อเงินกู้ กะว่าหวานเลย
หลังจากนี้คนอยากซื้อก็ซื้อต่อไป แต่คนที่ตัดขาดแบรนด์ไปเลยตลอดกาลก็น่าจะมี ความเชื่อใจมันสร้างกันตลอดชีวิต แต่พังในห้านาที
เป็นไปได้ครับ และคิดว่าทำออกมาแล้วจะไม่มีใครสนใจ ปล่อยผ่านลอยหน้าลอยตาไปได้สบายใจ
ซึ่งแม้ว่าก่อนหน้านี้จะโดนจับได้ และมีคนสงสัย แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรมากนักหรือไม่มีคนสนใจเท่าไหร่ ก็เลยตามเลยไป จนกระทั่งเรื่องมาแดงในตอนนี้ และกลายเป็นประเด็นร้อนอย่างที่เห็นครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
"เนื่องจากผู้พัฒนาแอปคือบุคคลที่สาม " แต่แอพติดมากับเครื่องที่คุณขายตั้งแต่เริ่ม
หรือ อัพเดทเข้ามาจาก OTA ที่คุณเป็นคนออก patch ??
หรือไม่เข้าข่าย ?
ข้อมูลบน cloud นี่ภายใต้กฎหมายไทยมั้ยนะ
เจ้าของเดียวกันกับ...
โทน้าาา
รอดูบทลงโทษว่าจะมีอะไรบ้าง
(นี่ถ้าเกิดแบบนี้ใน EU นะ จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ได้เลยมั้ง)
" เบื้องต้นได้มีการดำเนินการทันทีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง "
ทันทีเมื่อเป็นข่าวจ้า บอกด้วย เพราะใน release note มันมีมา 2+ ปีแล้วววว
อันนี้แน่นะ?
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
เลี่ยงตอบสื่อด้วย สรุปว่าแถ ลงข่าว ครั้งนี้ไม่ได้ช่วยอะไร
WE ARE THE 99%
Third party applications preloaded in ROM with OPPO and affliates certificates inside.....
Hell no. I always never trust any Chinese brand smart phone att all.
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เผื่อคนเข้ามาอ่านข่าวนี้อยากได้สาระอะไรบ้าง Drupal CMS 1.0 ออกแล้วครับ
ว่าแล้วก็เผ่นดีกว่า 555
..: เรื่อยไป
ลองเล่นไปแล้วเรียบร้อยครับ ใช้งานง่ายขึ้นเยอะมาก เรียกได้ว่าเริ่มทำเว็บใหม่สักเว็บได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน 55
โชคร้ายสุดน่าจะเป็นมือถือจีนแบรนด์อื่นๆ เรื่องนี้ทำให้ดูแย่ไปเลย
นักพัฒนาเป็นบุคคลที่สามแต่ OPPO เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า Fineasy (เลขที่คำขอ 230125276) เขานับการเป็นบุคคลที่สามยังไงหว่า
จริงๆแล้ว ส่วนตัวผมชอบ iPhone ครับ เคยใช้ยุคแรกๆ iphone 4 แต่ติดว่าตอนนี้จน มีงบสำหรับมือถือไม่เกินหมื่น เลยใช้ android แทน ผมรู้สึกแขยงกับเรื่องราวแนวนี้บน android อยู่แล้ว เคยมีประสบการณ์ใช้ Huawei แล้วเจอ ads บน video player ทั้งๆที่เป็น native app ตอนนั้นรู้สึก wtf มาก คือไม่เคยเจออะไรแบบนี้บน native app ของ ios ทำไมระบบปฏิบัติการพื้นฐานถึงมีโฆษณาวะเนี่ยยยย 555 หลังจากนั้นเลยพยายามเลือกแบรนด์ดีๆมาตลอด โชคดีที่ผมไม่ได้เลือก oppo ไม่รู้คิดอะไรกัน ติดตั้งแอฟขยะที่ลบออกไม่ได้แม่งคือแย่ๆสุด แบรนด์เสียหายหลายล้าน น่าจะเป็นบทเรียนให้แบรนด์อื่นได้ดี ฉม XD
ภาพประกอบข่าวเหมือนไหว้แบบปะหลก ๆ ขอไปที คิดว่ามารยาทดีแล้วคนไทยลืมง่าย ถ้าผู้บริหารมองแบบนี้จริง ก็คงเห็นภาพสังคมไทยแค่เปลือก ไม่สมกับที่ทำธุรกิจมาหลายปี
ไม่มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน "เนื่องจากผู้พัฒนาแอปคือบุคคลที่สาม" สรุปจะปัดสวะงี้หรอทั้งๆที่ใช้ใบรับรองเดียวกัน
เดี๋ยวมันคงมีปัญหายาวไปถึงแบบ ... เอ่อ ห้ามติดตั้ง application อะไรในเครื่องเลยหรือเปล่านะ
แล้วปัญหาคือ GUI ก็เข้าข่าย Application ซะด้วยสิ (เป็นโปรแกรมประยุกต์)
เราอาจจะได้เห็นยุคที่ขายมือถือแอนดรอยด์แล้วต้อง shell เข้าไปติดตั้ง AOSP เองหรือเปล่านะ (ฮา)
ผมก็เคยใช้ท่านั้น ซื้อมือถือเสปคดีราคาไม่แพงแล้วมาลง rom เอง แต่หลังยุคมิจมานี่ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะแอปการเงินบางตัวก็ดักโหดเกินจนใช้ไม่ได้ (น่าจะดัก unlock bootloader มั้งนะ) ก็เลยต้องยอมไปหาซื้อ Pixel มาใช้แทน
แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สคบ. กสทช ธปท และอื่นๆ ไม่ take action อะไรเท่าที่ควรเลย เพราะเห็นว่าเป็นค่ายมือถือและอาจกระทบความสัมพันธ์เลยไม่สนใจ
สูตรสำเร็จ 55555
ก็ user อนุญาติเป็น default แล้วใช่มะ เอาไปหมดแล้วข้อมูล ทำไรก็ได้