ประเด็นเรื่อง วงการเกม VR ยังมีอนาคตหรือไม่ เป็นหัวข้อสัมมนาในงาน Game Developer Conference (GDC) 2025 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีเซสชันชื่อ "Solving VR Gaming's Visibility Crisis: Strategies for Reaching Mainstream Audiences" เชิญนักพัฒนาเกม นักการตลาด และสื่อสายเกมอย่าง IGN มาร่วมสนทนากัน
ตัวแทนบริษัทเกม VR คือ Polyarc Games เจ้าของเกมหนูผจญภัย Moss ที่เล่าว่าในยุค VR รุ่งเรือง โซนี่มาเชิญไปออกบูธในงาน E3 และออกทัวร์โปรโมทเกมในคอนเสิร์ต-การแข่งขันกีฬา ให้พื้นที่บิลบอร์ดฟรี เดโมเกมในร้านเครือข่าย ส่วน Meta ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เพราะถึงขั้นนำเกม Moss ไปอยู่ในโฆษณา Super Bowl มูลค่า 42 ล้านดอลลาร์ให้ด้วย
แต่ยุครุ่งเรืองของการโปรโมทเกม VR สิ้นสุดลงแล้ว พื้นที่ร้านขายเกมต่างๆ เลิกมีบูธให้ทดลองแว่น VR, โซนี่หันไปจับตลาดเกมเมอร์จริงจังเหมือนเดิม ไม่สนใจ VR แล้ว ส่วน Meta ก็ให้ความสำคัญกับเกมของตัวเองอย่าง Beat Saber หรือ Supernatural แทน
Ryan McCaffrey บรรณาธิการบริหารของ IGN ให้ความเห็นในมุมสื่อเกมว่า หากเป็นเกม VR ที่มาจากแฟรนไชส์ดัง เช่น Batman: Arkham Shadow หรือ Alien: Rogue Incursion อาจยังพอมีคนสนใจบ้าง แต่ถ้าเป็นเกม VR ของตัวเองล้วนๆ ก็เรียกความสนใจจากเกมเมอร์ได้ยากแล้ว
ทางรอดที่สตูดิโอเกม VR หาได้ในตอนนี้คือช่วยโปรโมทเกมซึ่งกันและกันผ่านช่องทางโซเชียล และให้ส่วนลดกับเกมเมอร์หากซื้อเกมของพาร์ทเนอร์ ซึ่งช่วยพยุงรายได้ได้บ้าง
ที่มา - Android Central
Comments
ในยุคที่ VR ไม่ได้ 4 - 5 หมื่นแบบเมื่อก่อน การจะต้องมีที่ให้ลองเล่นเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อก็ลดความสำคัญลงไป
และยิ่ง Headset ไปไกลเกินกว่าใช้แค่เล่นเกม "a new audience of mainstream adult Quest buyers have emerged that aren't as interested in immersive VR or mixed reality apps at all, seeing their headset "as an extension of their TV—a device primarily for media consumption"
การจะขยายกลุ่มผู้ใช้งาน Headset ให้ได้มากขึ้น ก็ต้องนำข้อมูุลที่ได้นี้ ไปใช้โปรโมตให้ถูกจุด
สำหรับคนเล่นเกม ในเมื่อมีช่อง Youtube ที่มีคน sub 6 แสนกว่า https://www.youtube.com/@MetaQuestVR/videos
โปรโมตทางนี้ ตรงกลุ่มเป้าหมายและประหยัดเงินได้อย่างดี ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเยอะ ๆ แต่ได้ผลตอบแทนกลับมาน้อย ยิ่งมีเกมออกใหม่เดือนละเป็นสิบ ยิ่งต้องใช้วีธีที่ถูกต้อง ไม่งั้นขาดทุนแดงเถือกแน่
และส่งท้ายข้อมูลจากงาน GDC 2025 เหมือนกัน แต่มุมมองที่ต่างกัน
"Oculus Publishing continues to grow. In 2024, we shipped over 100 titles funded, supported, and managed by the Publishing group, and we have over 200 more in active production"
https://developers.meta.com/horizon/blog/gdc-2025-past-present-future-developing-vr-mr-meta-audience-insights/
มุมมองจากคนฟังในห้องครับ
ขอบคุณครับ
สิ่งที่อยากได้จาก VR โดยส่วนตัว คือแท่นเดินอิสระที่ไม่ใช่นั่งเล่นใส่แว่นเฉยๆ คือมันต้องแบบเดินได้ด้วยเต็มรูปแบบ คิดว่าอุปกรณ์โดยรวมทุกอย่างที่อยากให้เป็นคงหลายแสน
สิ่งที่อยากได้จาก AR ก็คงคล้ายๆกัน แต่คิดว่าการที่จะระบุ Object มิติ ระยะ การแสดงกราฟฟิคว่าถูก Object ในโลกจริงบังอยู่ หรือยืนบัง Object อยู่ แบบทุกอย่างแทบจะ Realtime เรื่องนี้คงยากมากๆๆๆๆๆๆๆ
ยุคถัดไป
เข้าไปนอนใน Capsule เพื่อเล่นเกม
หลับไม่ตื่นแบบ SAO แน่เลยครับ
ส่วนตัวผมก็เล่น VR อยู่ ก็ยังมองว่าพึ่งเริ่มนะ เกมส่วนใหญ่ สนแต่ตัวเอง แต่เกม VR ที่ดีควรรองรับผู้เล่นจากจอปกติด้วย เกมกลุ่มนี้คนก็ยังเยอะอยู่นะ ทุกวันนี้ก็เล่น PCVR RobloxVR ทุกวัน ชมวิวคืออย่างแจ่ม แกล้งเด็กมันช่างหอมหวาน
แล้วอีกอย่างเกมส์ Stand alone ที่ไม่พึ่งคอมมันไม่ชัดเลยคุณภาพไม่ผ่าน ยังไงก็ต้อง Render ผ่านคอมแล้วไร้สาย
ความเซ็งของผมคือเกมที่เล่นแล้วรู้สึกว่า เออเว้ยน่าสนใจ ... ดันไม่ทำภาคต่อ (ฮา)
สงสัยทำเทคเคนเหมือนเดิมรวยดีแล้ว ว่าง ๆ ก็ทะเลาะกับคนเล่น 555
ตราบใดที่ headset VR ยังหนัก ผมว่าก็ไม่มีวันเกิด
จะเกิดได้ต้องเข้าไปเต็มตัว แบบ Matrix หรือ Ready Player One
That is the way things are.