The Wall Street Journal หรือ WSJ นำเนื้อหาบางส่วนของหนังสือที่กำลังจะออกใหม่ "The Optimist: Sam Altman, OpenAI, and the Race to Invent the Future" เขียนโดย Keach Hagey ผู้สื่อข่าว WSJ ซึ่งเผยรายละเอียดมากขึ้นใน OpenAI โดยเนื้อหาที่หยิบมาเป็นเหตุการณ์ที่บอร์ด OpenAI ลงมติไล่ Sam Altman ออกจากซีอีโอแบบฟ้าผ่า แล้วจบที่เขากลับเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้งในเวลาไม่กี่วัน
ในตอนนั้นบอร์ดให้เหตุผลของการไล่ออกว่า Altman ไม่สื่อสารกับกรรมการบอร์ดอย่างตรงไปตรงมา ทำให้บอร์ดไม่สามารถเชื่อใจได้ ในหนังสือนี้บอกว่าประเด็นหลักที่เป็นความขัดแย้งระหว่างบอร์ดส่วนใหญ่กับ Altman คือกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของปัญญาประดิษฐ์ (AI Safety) ซึ่งสองฝ่ายมีความเห็นไม่ตรงกันบ่อยครั้ง (Altman เป็น 1 ใน 6 กรรมการบอร์ด OpenAI ด้วย)
มีหลายกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้เชื่อว่าบอร์ดเกิดความไม่ไว้ใจ และนำไปสู่การหาทางไล่ออก Altman เช่น ฟีเจอร์ของ GPT-4 ยังไม่ได้ตรวจด้านความปลอดภัยครบทั้งหมด แต่ Altman บอกบอร์ดว่าตรวจสอบครบแล้ว สามารถเผยแพร่ได้, Altman ให้ Microsoft นำ GPT-4 ไปทดสอบได้ก่อนเปิดตัว, Altman เปิดตัวกองทุน Startup Fund ระบุว่าเกี่ยวข้องกับ OpenAI แต่ไม่เคยแจ้งเรื่องนี้กับบอร์ด, OpenAI เปิดตัว ChatGPT ต่อสาธารณะโดยไม่ขออนุมัติจากบอร์ด ซึ่งก่อนหน้านั้นบอร์ดมีความเห็นว่ายังไม่ควรเผยแพร่เครื่องมือนี้
ประเด็นที่สะสมนี้ทำให้ Ilya Sutskever หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ OpenAI ซึ่งเป็นในกรรมการบอร์ดด้วย เริ่มหารือนอกรอบกับกรรมการอิสระคนอื่น รวมทั้งให้ Mira Murati ซีทีโอ OpenAI ซึ่งมีประเด็นขัดแย้งกับ Altman เช่นกัน เริ่มรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ทำให้บอร์ดเชื่อว่ามีข้อมูลมากพอจนนำมาสู่การตัดสินใจไล่ Altman ออกจากตำแหน่งซีอีโอ รวมทั้ง Greg Brockman ประธานบอร์ด ซึ่งสนิทกับ Altman ด้วย
ข่าวนี้ทำให้ทุกฝ่ายช็อกกันหมด บอร์ดที่ลงมติไล่ออกก็ต้องเผชิญแรงกดดันจากพนักงานที่ต้องการให้ชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ตอนแรกพวกเขาคิดว่าพนักงาน OpenAI จะดีใจแต่ผลออกมาตรงกันข้าม ทำให้แม้แต่ Sutskever หรือ Murati ก็ต้องร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ Altman กลับมาเป็นซีอีโออีกครั้ง ซึ่งต่อมาทั้งสองก็ลาออกจาก OpenAI
ที่มา: The Wall Street Journal
Comments
"บอร์ดที่ลงมติไล่ออกก็ต้องเผชิญแรงกดดันจากพนักงาน ..... ทั้งที่ตอนแรกพวกเขาคิดว่าพนักงาน OpenAI จะดีใจแต่ผลออกมาตรงกันข้าม"
😂😂😂
พอได้กลับมา บอร์ดโดนล้างบางจนหมด แถมต้องมีที่นั่งในบอร์ดให้ไมโครซอฟอีกด้วย
จากเมื่อก่อนจะโต้แย้งอะไรก็แย้งได้ ได้กลับมารอบนี้บอร์ดจะแสดงความเห็นอะไรต้องคอยเกรงใจไมโครซอฟ ทั้งที่ไมโครซอฟไม่ใช่เจ้าของบริษัท คุ้มไหมนะ
ผมนึกว่า
วันนั้นบอร์ดตื่นเช้ามา กดถาม GPT ว่าวันนี้ทำไรดี มันตอบว่า ก็ไล่ Altman ออกไปเลยครับ ดีที่สุด .. ผ้มก็เรียกประชุมด่วนแล้ว vote กันเลย .. อะไรแบบนั้น
หลักๆก็คือaltmanทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวไม่ฟังเสียงบอร์ดไม่ตัดสินใจผ่านบอร์ดบริหารและโกหกเพื่อข้ามขั้นตอนการตรวจสอบ ดูๆแล้วก็เข้าขั้นเลวร้ายเลยนะเนี้ยคนไม่มีจริยธรรมมาคุมAiแบบนี้ลับหลังไม่รู้เอาข้อมูลจากuserที่ป้อนๆให้chatgptไปทำอะไรแย่ๆบ้าง ถึงมันจะส่งผลให้Aiพัฒนาได้ไวแต่ก็ต้องแลกมาด้วยการละเมิดสิทธิมากมาย