Netflix เริ่มทดสอบระบบค้นหาคอนเทนต์แบบใหม่ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ของ OpenAI มาเสริมในการค้นหาด้วยมิติอื่น จากปัจจุบันระบบค้นหา Netflix เน้นไปที่ ชื่อเรื่อง หรือ ชื่อนักแสดง หรือ ประเภทของเนื้อหา โดยเพิ่มการค้นหาตามลักษณะอารมณ์ของคอนเทนต์นั้นเป็นต้น
ฟีเจอร์นี้เริ่มทดสอบในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก่อนเฉพาะในแอป iOS ผู้ใช้งานต้องกำหนดเปิดการทำงานเอง (opt-in) สถานะตอนนี้ยังเป็นเบต้าและยังไม่มีกำหนดเปิดใช้งานทั่วโลก เพราะต้องการดูผลตอบรับก่อน
ที่มา: Bloomberg
OpenAI ประกาศแผนยุติการใช้งานโมเดล GPT-4 จากบริการ ChatGPT ทั้งหมด มีผลตั้งแต่ 30 เมษายน 2025 เป็นต้นไป โดยแทนที่ด้วยโมเดล GPT-4o ทั้งนี้ GPT-4 เป็นโมเดลที่ออกมาตั้งแต่เมษายน 2023
OpenAI บอกว่า GPT-4o เป็นโมเดลที่ใหม่กว่า รองรับข้อมูลผสมผสานเป็นพื้นฐาน ในการทดสอบทุกด้านมีความสามารถที่สูงกว่า GPT-4 ไม่ว่าจะเป็นการเขียน, เขียนโค้ด, ตอบปัญหา STEM และอื่น ๆ
GPT-4 จะยังสามารถเข้าถึงได้สำหรับนักวิจัยและนักพัฒนาผ่าน API เท่านั้น ซึ่งเป็นช่องทางเดียวกับการเข้าถึงโมเดลเก่ากว่านั้นเช่น GPT-3.5
OpenAI อัปเดตความสามารถให้ ChatGPT โดยสามารถเรียกความทรงจำหรือข้อมูลแชทในอดีตได้ทั้งหมด เพื่อใช้อ้างอิงเป็นพื้นฐาน ทำให้ได้คำตอบที่ปรับแต่งเข้ากับผู้ใช้งานแต่ละคนได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องป้อนข้อมูลอ้างอิงทุกครั้งเมื่อเริ่มการสนทนาใหม่
OpenAI บอกว่าความสามารถนี้มีประโยชน์มากสำหรับการใช้งาน ChatGPT เพื่อช่วยปรับปรุงการเขียน, การให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ, วิธีการเรียนรู้เรื่องราว และอื่น ๆ เพราะผลลัพธ์จะเป็นแบบที่ผู้ใช้งานต้องการ
ฟีเจอร์นี้ผู้ใช้งานสามารถปิดการทำงานได้ (opt-out) ซึ่งทำให้ ChatGPT ไม่อ้างอิงแชทในอดีตสำหรับการให้คำตอบ หากผู้ใช้งานต้องการแก้ไขข้อมูลพื้นฐานที่ ChatGPT จดจำอยู่ สามารถถามข้อมูลและสั่งแก้ไขได้ แต่หากต้องการปิดการทำงานชั่วคราวให้ใช้ Temporary Chat
OpenAI ตัดสินใจยื่นฟ้อง Elon Musk กลับ โดยระบุว่า Elon ทนไม่ได้ที่เห็นความสำเร็จขององค์กรที่เขาเป็นฝ่ายทอดทิ้งมาเอง จึงต้องการทำลาย OpenAI เพื่อประโยชน์ของตัวเอง
ในคำฟ้องกลับบอกว่า การฟ้องร้อง OpenAI ของ Elon เป็นแค่แทคติกที่ชะลอพัฒนาการของ OpenAI เพื่อซื้อเวลาให้ตัวเขาช่วงชิงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม AI
ในคำฟ้องขอให้ศาลเขตซานฟรานซิสโก สั่งให้ Elon หยุดพฤติกรรมการทำลายล้าง OpenAI ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและไม่เป็นธรรม (unlawful and unfair action)
คดีล่าสุดที่ Elon Musk ยื่นฟ้อง OpenAI และทีมผู้ก่อตั้ง เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2024
Tibor Blaho นักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ รายงานข้อมูลที่พบในแอป ChatGPT บน Android โดยพบการระบุว่า image-gen-watermark-for-free จึงเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่ลายน้ำลงในรูปที่สร้างจาก ChatGPT สำหรับบัญชีใช้งานแบบฟรีเร็ว ๆ นี้
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ประกาศว่าบริษัทเปลี่ยนแผนการออกโมเดลรุ่นใหม่ โดยจะกลับมาออกโมเดลคิดเป็นเหตุผล o3 และ o4-mini โมเดลคิดเป็นเหตุผลขนาดเล็กเวอร์ชันใหม่ ทั้งสองโมเดลนี้จะออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เรื่องนี้ต้องย้อนไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ OpenAI ออกโมเดล o3-mini มาก่อน จากนั้นอีกสองสัปดาห์ Altman บอกว่าบริษัทต้องการรวมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ใหม่เพื่อลดความซับซ้อน ผู้ใช้งานไม่ต้องแยกโมเดลทั่วไป โมเดลคิดเป็นเหตุผล เลยทำให้ยกเลิกแผนการออกโมเดล o3 เวลานั้น
OpenAI ประกาศว่านักศึกษามหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา สามารถใช้งาน ChatGPT Plus ที่ปกติต้องจ่ายเงิน 20 ดอลลาร์ต่อเดือน ได้ฟรี ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งรวมแล้วก็เป็นเวลา 2 เดือน
Leah Belsky รองประธานฝ่ายการศึกษาของ OpenAI บอกว่านักศึกษามหาวิทยาลัยในยุคนี้ ต้องเผชิญแรงกดดันที่ให้พวกเขาต้องรู้ในสิ่งต่าง ๆ เร็วขึ้น แก้ปัญหาที่ยากขึ้น และเข้าสู่ระบบการทำงานที่มี AI เป็นส่วนประกอบ การสนับสนุนเครื่องมือ AI จึงช่วยให้พวกเขามีประสบการณ์ มีพื้นที่ค้นหาความรู้ที่ดีขึ้น
ทีมวิจัยจาก UC San Diego อัพเดตรายงานทดสอบ Turing Test แบบจำกัดเวลา เพื่อทดสอบว่าปัญญาประดิษฐ์จะสามารถหลอกว่าเป็นมนุษย์ได้หรือไม่ จากเดิมที่เคยทดสอบตั้งแต่ปี 2023 และรอบนี้พบว่า GPT-4.5 เอาชนะมนุษย์ได้อย่างชัดเจน
กระบวนการทดสอบใช้จะให้ผู้ทดสอบคุยแชตกับ AI และมนุษย์ไปพร้อมกัน โดยสามารถคุยได้เพียง 8 ข้อความและจำกัดเวลา และเมื่อจบเวลา 5 นาทีก็ต้องเลือกว่าหน้าจอไหนเป็นมนุษย์หรือ AI โดยเมื่อปี 2023 นั้น GPT-4 ทำคะแนนได้สูงสุด 41% รอบนี้พบว่า GPT-4.5 สามารถทำคะแนนได้ถึง 73% สูงกว่ามนุษย์จริงๆ อย่างมีนัยสำคัญ
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI โพสต์ข้อความใน X ต่อกระแสความนิยมของ Image Generation เครื่องมือสร้างรูปภาพตัวใหม่ใน ChatGPT ที่ล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้งานฟรีสามารถสร้างรูปภาพได้แล้ว โดยบอกว่าตอนนี้สิ่งต่าง ๆ เริ่มควบคุมได้มากขึ้น แต่การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของ OpenAI อาจล่าช้าไปจากแผน บริการต่าง ๆ อาจมีปัญหาหรือทำงานช้าบางช่วงเวลา เนื่องจากปัญหาทรัพยากรถูกใช้งานเต็มอัตรา
Altman ยังบอกว่า OpenAI กำลังเร่งแก้ไขปัญหาทั้งหมดให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ พร้อมบอกว่าใครมีจีพียูขายให้สัก 1 แสนตัว ก็พร้อมจ่ายทันที!
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ประกาศว่าเครื่องมือสร้างรูปภาพตัวใหม่ Image Generation บน ChatGPT ตอนนี้เปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถใช้ได้แล้วรวมทั้งแบบฟรี หลังจากเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจำกัดให้เฉพาะลูกค้า ChatGPT แบบเสียเงิน
Altman ไม่ได้บอกว่าผู้ใช้งาน ChatGPT แบบฟรีจะถูกจำกัดการใช้งานเท่าใด แต่ก่อนหน้านี้เขาบอกตัวเลขว่า 3 รูปต่อวัน เนื่องจากผลตอบรับที่ดีมากเป็นกระแสจนจีพียูที่มีไม่พอใช้งาน
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ประกาศว่าบริษัทมีแผนเตรียมออกโมเดล AI แบบ Open-Weight ตัวใหม่ นับตั้งแต่ GPT-2 โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจากนักพัฒนา นักวิจัย และชุมชนที่เกี่ยวข้อง ว่าต้องการให้โมเดล AI ที่ปรับค่า Weight ได้นี้ สามารถปรับส่วนใดได้บ้าง รวมทั้งเตรียมจัดงานสัมมนาแบบ In-Person ในหลายภูมิภาคเพื่อรับฟังความเห็นด้วย
ตั้งแต่กระแสปัญญาประดิษฐ์มีมากขึ้น OpenAI ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จุดกระแส ได้ปรับแนวทางไม่เผยแพร่รายละเอียดการทำงานของโมเดล AI ตั้งแต่ GPT-4 ด้วยเหตุผลของการแข่งขันและป้องกันการนำ AI ไปใช้ในทางที่ไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามจากกระแสของ DeepSeek เมื่อต้นปี ซึ่งเป็นโมเดลแบบโอเพนซอร์ส รวมกับแนวทางของ Meta ที่โอเพนซอร์ส Llama ตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ Altman เคยยอมรับว่าตัดสินใจผิด และต้องการทบทวนกลยุทธ์นี้ อย่างไรก็ตามแนวทางของ Open-Weight จะไม่เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของโมเดล เช่น ข้อมูลที่ใช้ฝึกฝน เป็นต้น
OpenAI ประกาศอย่างเป็นทางการ เรื่องการรับเงินลงทุนรอบใหม่ 40,000 ล้านดอลลาร์ ที่มูลค่ากิจการ 300,000 ล้านดอลลาร์ ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการรับเงินลงทุนวงเงินสูงที่สุดนอกตลาดหุ้นที่เคยมีมา โดยสถิติสูงสุดก่อนหน้านี้คือ Ant Group ในปี 2018 ที่ 14,000 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนหลักในรอบคือกลุ่ม SoftBank ซึ่ง OpenAI บอกว่าบริษัทได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการสร้างระบบ AI ที่เร่งการค้นพบใหม่ทางวิทยาศาสตร์ สร้างระบบการศึกษาแบบปรับสำหรับบุคคล ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้มนุษย์ และส่งเสริมเป้าหมายหลักของ OpenAI คือการสร้าง AI ความสามารถรอบด้านที่เป็นประโยชน์กับมนุษยชาติ
The Wall Street Journal หรือ WSJ นำเนื้อหาบางส่วนของหนังสือที่กำลังจะออกใหม่ "The Optimist: Sam Altman, OpenAI, and the Race to Invent the Future" เขียนโดย Keach Hagey ผู้สื่อข่าว WSJ ซึ่งเผยรายละเอียดมากขึ้นใน OpenAI โดยเนื้อหาที่หยิบมาเป็นเหตุการณ์ที่บอร์ด OpenAI ลงมติไล่ Sam Altman ออกจากซีอีโอแบบฟ้าผ่า แล้วจบที่เขากลับเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้งในเวลาไม่กี่วัน
The Wall Street Journal มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนเพิ่มทุนของ OpenAI รอบใหม่ ที่จะรับเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์ นำโดย SoftBank ร่วมกับผู้ลงทุนรายอื่น นั่นคือเงินรอบนี้มาพร้อมเงื่อนไขที่ OpenAI ต้องทำให้ได้ด้วย
ข้อตกลงนั้นระบุว่า OpenAI ต้องสามารถปรับโครงสร้างบริษัทให้เป็นบริษัทอิสระ ที่แสวงหากำไรเต็มรูปแบบ (For-Profit) ให้ได้ภายในปีนี้ หากไม่สามารถทำได้ เงินลงทุนจะลดลงเหลือ 20,000 ล้านดอลลาร์
Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากคนที่เกี่ยวข้องบอกว่า OpenAI ใกล้ปิดข้อตกลงรับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่ 40,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท โดยมีนักลงทุนหลักคือ SoftBank ร่วมด้วย Magnetar Capital, Coatue Management, Founders Fund และ Altimeter Capital Management ซึ่งมีข่าวออกมาครั้งแรกในเดือนมกราคม
การเพิ่มทุนรอบนี้จะเป็นการรับเงินก้อนใหญ่ที่สุดของ OpenAI และคาดว่าทำให้มูลค่ากิจการบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากการเพิ่มทุนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งมีมูลค่ากิจการ 1.57 แสนล้านดอลลาร์
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI เปิดเผยว่ากระแสที่มาแรงมาของเครื่องมือสร้างรูปภาพตัวใหม่ Image Generation บน ChatGPT ทำให้ตอนนี้จีพียูที่มีอยู่ไม่พอแล้ว (GPUs are melting) จึงทำให้ OpenAI ต้องหาทางแก้ไขปัญหานี้
Altman บอกแนวทางเบื้องต้นคือการจำกัดปริมาณการใช้งานชั่วคราว แต่ไม่ได้บอกว่าจะเป็นแบบใด ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงการทำงานของโมเดลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ส่วนผู้ใช้งาน ChatGPT แบบฟรี จะได้เข้าถึง Image Generation เร็ว ๆ นี้ โดยจำกัดที่ 3 รูปภาพต่อวัน
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI กล่าวว่าบริษัทจะสนับสนุน Model Context Protocol (MCP) โปรโตคอลมาตรฐานสำหรับการดึงข้อมูลและส่งข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ กับโมเดลปัญญาประดิษฐ์สำหรับองค์กร ซึ่งเป็นมาตรฐานที่บริษัทคู่แข่ง Anthropic นำเสนอเมื่อปลายปีที่แล้ว โดย MCP จะรองรับในทุกผลิตภัณฑ์ของ OpenAI
MCP มีให้ใช้งานแล้วผ่าน SDK สำหรับนักพัฒนา AI Agent ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนแอป ChatGPT บนเดสก์ท็อปและ Responses API จะรองรับเร็ว ๆ นี้
เมื่อวานนี้ OpenAI ประกาศอัปเกรดเครื่องมือสร้างรูปภาพขั้นสูงใน ChatGPT ที่ทำงานบนโมเดล GPT-4o ซึ่งบอกว่าให้ภาพที่สมจริงขึ้น กำหนดรายละเอียดได้ดีกว่าเดิม ผลคือชาวโซเชียลก็ร่วมทดลองใช้งานจนเกิดเป็นไวรัลสร้างรูปภาพอะไรก็ได้ในสไตล์ "จิบลิ" หรือ Studio Ghibli สตูดิโอผลิตภาพยนตร์อนิเมะของญี่ปุ่น
กระแสนี้แรงแค่ไหน แม้แต่ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ยังต้องร่วมเล่นกับเขาด้วย โดยเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นสไตล์จิบลิเช่นกัน จากนั้นก็โพสต์ข้อความว่า
OpenAI ประกาศอัปเกรดเครื่องมือสร้างรูปภาพขั้นสูงบนโมเดล GPT-4o ที่บอกว่าไม่เพียงแต่ได้รูปที่สวยงามกว่าเดิม แต่สามารถกำหนดรายละเอียดให้ตรงกับความต้องการยิ่งกว่าเดิม
เนื่องจาก GPT-4o เป็นโมเดลที่ค่อย ๆ คิดเป็นขั้นตอน ทำให้การสร้างรูปภาพบนโมเดลนี้จึงสามารถกำหนดรายละเอียด หรือสั่งแก้ไขเป็นส่วนได้ดีกว่า DALL·E ที่เป็นเครื่องมือสร้างรูปภาพตัวเดิม ตัวอย่างที่ OpenAI นำเสนอ เช่น สามารถระบุข้อความที่ปรากฎในรูปภาพอย่างละเอียดแต่ละตำแหน่งได้, สามารถกำหนดหรือแก้ไขภาพที่มีทั้งข้อความและคนในรูปได้, กำหนดรายละเอียดตามลำดับสูงถึง 10-20 รายการใน 1 prompt, สามารถเรียนรู้จากรูปที่อัปโหลดเข้าไปได้, มีความรู้จับคู่ข้อความกับภาพที่สามารถสร้าง Infographic ได้ เป็นต้น (ตัวอย่างที่น่าสนใจอยู่ท้ายข่าว)
OpenAI ประกาศการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารระดับสูงบริษัท โดยมีทั้งการเปลี่ยนตำแหน่งและเพิ่มความรับผิดชอบ รายละเอียดดังนี้
ทีมนักวิจัยของ OpenAI และ MIT Media Lab รายงานผลการศึกษาในหัวข้อ การใช้งาน AI ส่งผลต่ออารมณ์และสภาวะจิตใจของผู้ใช้งานอย่างไรบ้าง โดยทำการศึกษาจากบทสนทนาระหว่าง ChatGPT กันเอง เพื่อดูปฏิกิริยาและอารมณ์ในการโต้ตอบ และศึกษาจากผู้ใช้งานกลุ่มเป้าหมายเกือบ 1 พันคน เป็นเวลา 4 สัปดาห์
ผลการศึกษาในสองประเด็นนี้ทำให้ทีมวิจัยพบว่า
OpenAI ออกโมเดลแปลงข้อความเป็นเสียงใหม่ กำหนดโทนได้มากขึ้น และเสียงเป็นข้อความที่ผิดพลาดน้อยลง
โมเดล text-to-speech หลักตัวใหม่คือ gpt-4o-mini-tts
มีจุดเด่นคือนักพัฒนาสามารถกำหนดรูปแบบนำเสียงการพูด เช่น ให้พูดแนว mad scientist หรือพูดในโทนเสียงคุณครูที่อบอุ่น เป็นต้น สามารถทดลองรูปแบบใช้งานได้ที่นี่
มีรายงานว่าไมโครซอฟท์ตัดสินใจไม่ใช้สิทธิในการเช่าใช้บริการคลาวด์จีพียู มูลค่าสัญญา 12,000 ล้านดอลลาร์ กับ CoreWeave ซึ่งไมโครซอฟท์ได้สิทธินี้จากการเป็นลูกค้ามานานของบริษัท ทำให้ OpenAI ตัดสินใจรับช่วงต่อของสัญญานี้แทน ซึ่งได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อน
OpenAI เปิดบริการ API สำหรับโมเดล o1-pro ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับ o1 pro mode ในแอป ChatGPT Pro ที่คิดค่าบริการรายเดือน 200 ดอลลาร์
จุดเด่นที่เตะตาของ o1-pro คือราคาที่สูงขึ้นมาก สูงกว่า o1 ปกติถึง 10 เท่าตัวกลายเป็น 150 ดอลลาร์ต่อล้านโทเค็นสำหรับอินพุต และ 600 ดอลลาร์ต่อล้านโทเค็นสำหรับเอาท์พุต
คุณสมบัติอื่นๆ ใกล้เคียงกับ o1 เช่น context window ขนาด 200,000 โทเค็น เอาท์พุต 100,000 โทเค็น รองรับการเรียกฟังก์ชั่นและการเอาท์พุตเป็น JSON
มีรายงานว่า SoftBank ได้ซื้อพื้นที่และอาคารที่เคยเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนจอ LCD ของ Sharp ในเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อปรับปรุงเป็นศูนย์ข้อมูลสำหรับงานประมวลผล AI ที่ร่วมมือกับ OpenAI
มูลค่าของพื้นที่โรงงานและอาคารที่ SoftBank ซื้อจาก Sharp ระบุว่าอยู่ที่ราว 1 แสนล้านเยน หรือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท ศูนย์ข้อมูลคาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2026 กำลังไฟฟ้า 150 เมกะวัตต์ จะเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น