Tags:
Node Thumbnail

Apple Machine Learning Research หน่วยงานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ของแอปเปิล เผยแพร่แนวทางการปรับปรุงการทำงานของฟีเจอร์ AI เพิ่มเติม โดยยังยึดพื้นฐานคือการรักษาความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานไว้

หัวข้อแรกเป็นวิธีการปรับปรุงฟีเจอร์ Genmoji ที่ผู้ใช้งานสามารถป้อน prompt เพื่อสร้างอีโมจิผสมผสานขึ้นมาเอง แอปเปิลบอกว่าอุปกรณ์ที่เปิดการทำงาน Device Analytics ซึ่งส่งข้อมูลกลับมาที่แอปเปิลแบบไม่ระบุอุปกรณ์หรือผู้ใช้งาน ทำให้แอปเปิลสามารถเห็นเทรนด์ของอีโมจิผสมที่ผู้ใช้งานนิยม ทำให้สามารถปรับปรุงเฉพาะคำที่นิยมได้ ทั้งนี้แอปเปิลจะไม่รู้ prompt ทั้งหมด รวมถึงข้อมูลผู้ใช้งาน

แนวทางนี้แอปเปิลบอกว่าจะนำมาใช้กับฟีเจอร์สร้างเนื้อหาตัวอื่นทั้ง Image Playground, Image Wand, Memories Creation และ Writing Tools ใน Apple Intelligence รวมทั้ง Visual Intelligence

อย่างไรก็ตามวิธีของ Genmoji เป็น prompt สั้น ๆ โจทย์นี้จึงยากขึ้นเมื่อเป็น prompt ที่มีความยาวอย่างในฟีเจอร์ปรับปรุงการเขียน หรือฟีเจอร์สรุปเนื้อหา แอปเปิลจึงนำเสนอแนวทางจับคู่กับข้อมูลสังเคราะห์ (Synthetic Data)

No Description

ขั้นตอนการทำงานนั้น แอปเปิลใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้างข้อความสังเคราะห์ขึ้นมาหลายรูปแบบ เช่น ข้อความที่มาจากคำสั่ง "Would you like to play tennis tomorrow at 11:30AM?" จากนั้นแปลงข้อความเป็นข้อมูลฝังซึ่งแทนที่ด้วยลักษณะ เช่น ภาษา ความยาว หัวข้อสำคัญ ข้อมูลฝังจะถูกส่งไปจับคู่กับอุปกรณ์แอปเปิลที่เปิดการทำงาน Analytics เพื่อดูว่าในบรรดาข้อความสังเคราะห์ที่สร้างขึ้นนี้ อันไหนตรงกับที่ผู้ใช้งานมีมากที่สุด แล้วเรียนรู้กลับเพื่อปรับปรุงซ้ำ ทั้งหมดจึงทำให้แอปเปิลปรับปรุง AI ได้ โดยไม่ต้องรู้ข้อมูลของผู้ใช้งาน

Mark Gurman แห่ง Bloomberg บอกว่าแอปเปิลจะเริ่มใช้แนวทางนี้ใน Apple Intelligence ตั้งแต่ iOS 18.5 และ macOS 18.5 เบต้าถัดไป

ที่มา: แอปเปิล และ Bloomberg

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: macxide
iPhoneAndroid
on 15 April 2025 - 14:15 #1338244

เอาจริง Apple ไม่ต้องห่วงเรื่องข้อมูลของผู้ใช้ก็ได้นะ แล้วตราหน้าว่า EU เป็นต้นเหตุของความหละหลวมทั้งหมด แบบตราหน้าแรงๆไปเลย

By: tontpong
Contributor
on 15 April 2025 - 16:49 #1338248

ข้อมูลฝัง , หมายถึง .. ( Vector ) Embeddings ?

By: tontpong
Contributor
on 15 April 2025 - 17:48 #1338250

แล้วก็เหมือนจะไม่เชิงเป็น .. โดยไม่ต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน

ตามที่เข้าใจ , เดิมนั้น .. พัฒนาระบบ ด้วย ข้อมูลสาธารณะ กับ ข้อมูลสังเคราะห์ , แต่ก็มีประเด็นว่า พอระบบทำงานกับข้อมูลในเครื่องของผู้ใช้ ระบบเข้าใจข้อมูลผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น เพราะข้อมูลสังเคราะห์ที่ระบบอิงอยุ่นั้นมีความผิดเพี้ยนประมาณนึงจากที่ควรจะเปน

เพื่อลดความผิดเพี้ยนจากการทำงานโดยอิงกับข้อมูลสังเคราะห์ , ของใหม่ ( คร่าวๆ ) .. จะเลือกข้อมูลสังเคราะห์บางส่วนมาแทนค่า ( embedding ) แล้วส่งมาที่ เครื่องของผู้ใช้ , ในเครื่องของผู้ใช้ก็จะดึงเอาอีเมล์บางอันมาแทนค่า แล้วเอาค่าที่ได้มาประมวลผลกับค่าที่ได้รับ และส่งผลลัพธ์กลับออกไป

By: tontpong
Contributor
on 15 April 2025 - 18:01 #1338251

แล้วก็เหมือนจะไม่ได้ , ทำให้รู้แนวโน้ม .. สำหรับ ตอนใช้งานทั่วไป , ด้วยมั้ง

แต่จะมี การจับแนวโน้ม , เพื่อเอามาใช้ เลือกข้อมูลสังเคราะห์ ที่จะ นำมาแทนค่าและส่งมายังเครื่องของผู้ใช้

By: tontpong
Contributor
on 15 April 2025 - 18:26 #1338253

ระบบใหญ่อื่นๆ , เข้าใจว่า ไม่น่าจะต่างกัน มั้ง .. ถึงจะมี ข้อมูลของผู้ใช้ อยู่ ในระบบ , ก็ไม่น่าจะเอา ข้อมูลของผู้ใช้ ไปประมวลผล โดยตรงแบบดิบๆ ( เพื่อป้องกันไม่ให้ ข้อมูลส่วนตัว/ข้อมูลลับ หลุดเข้าอยู่ใน โมเดล , ไม่งั้นเดี๋ยวเกิดมีประเด็นเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ คนก้อจะเลี่ยงใช้งานแล้วจะหารายได้ยังไง )

ต่างกันตรง .. ในระบบของเจ้าอื่นๆ มีข้อมูลของผู้ใช้อยู่แล้ว ก็ประมวลผลในระบบไปเลย ( ถึงจะเปลือง processing/storage แต่พวกนี้ก็ลงทุนสร้างไว้แล้วมีเหลือพอใช้อยู่ ) , แต่ apple ไม่ได้ลงทุนสร้างระบบไว้เหลือพอใช้ ไม่ได้เก็บข้อมูลของผู้ใช้ไว้เอง ก็แบ่งโหลดการประมวลผลมาทำในเครื่องของผู้ใช้ที่เปิด Device Analytics เอาไว้แทน )

By: gjkllb01
Windows
on 15 April 2025 - 23:46 #1338268

ถ้าพี่เป็น FB พี่ก็ทำเหมือนกัน อันนี้เลยตอบหล่อได้ เพราะเน้นขายมือถือ